ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Fed แสดงจุดยืนชัด ส่งสัญญาณเตรียมลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากเงินเฟ้อลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และตลาดแรงงานสหรัฐที่คลายตัวลง ด้านนักลงทุนคาดว่า Fed อาจพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ในการประชุม 3 ครั้งที่เหลือของปีนี้ ทำให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยง เช่น ตลาดหุ้นสหรัฐ สกุลเงินดิจิทัล ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ด้านค่าเงินบาทไทยมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ตอบรับแรงเทขายของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2567 “เจอโรม พาวเวล” ประธาน Fed ได้ส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยอย่างชัดเจน ในการประชุม Jackson Hole รัฐไวโอมิง โดยจะปรับเปลี่ยนทิศทางนโยบาย จากการมุ่งเน้นควบคุมเสถียรภาพ มาสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจแทน เนื่องจากภารกิจหลักของ Fed ที่มุ่งมั่นลดเงินเฟ้อ จนนำไปสู่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่สูงสุดในรอบ 23 ปี ถึง 11 ครั้งและยังคงอัตราดอกเบี้ยมาจนถึงปัจจุบันนั้น ในตอนนี้ภารกิจดังกล่าวได้เสร็จสิ้นแล้ว ดัชนีเงินเฟ้อ หรือ CPI มีการลดลงอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดอยู่ที่ระดับ 2.9% ซึ่งเป็นการลดลงมากกว่าการคาดการณ์ ทำให้ Fed สามารถเปลี่ยนทิศทางไปให้ความสำคัญต่อการจ้างงานแทน ซึ่งตอนนี้กำลังคลายตัวลง เป็นอีก 1 ตัวแปรสำคัญที่ทำให้ Fed อาจลดอัตราดอกเบี้ยลงแรงกว่าที่คาดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยนักลงทุนตีความว่า Fed อาจพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ในการประชุม 3 ครั้งที่เหลือของปีนี้
การส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ครั้งนี้ นับว่าเป็นการเปลี่ยนทิศทางนโยบายที่ชัดเจนที่สุดนับตั้งแต่มีการปราศรัยมา ทำให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงขานรับในทิศทางที่เป็นบวกทันที โดยภายในวันเดียวกัน (24 ส.ค.2567) ของถ้อยแถลงของ Fed ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 41,175.08 จุด เพิ่มขึ้น 462.30 จุด หรือ +1.14%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,634.61 จุด เพิ่มขึ้น 63.97 จุด หรือ +1.15% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,877.79 จุด เพิ่มขึ้น 258.44 จุด หรือ +1.47%
ส่วนสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bitcoin จากที่ราคาเคลื่อนที่เป็น Sideway มาสักพัก ก็ขึ้นมาแตะระดับสูงสุดของวันที่ 64,494 ดอลลาร์สหรัฐ สูงสุดในรอบ 20 วัน ก่อนลดความร้อนแรงมาอยู่ในระดับใกล้เคียง นอกจากนี้จำนวนของเหรียญ Bitcoin ที่อยู่บนกระดานเทรดก็มีจำนวนลดลงหลังการให้สัญญาณของ Fed สะท้อนถึงมุมมองของนักลงทุนเป็นบวกต่อสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นสัญญาณของตลาดที่เข้าสู่โหมดสะสม Bitcoin
ทั้งนี้ แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ที่คาดว่าจะเริ่มเกิดขึ้นในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของ Fed ในเดือน ก.ย. ที่จะถึงนี้ ยังส่งผลดีต่อตลาดทองคำ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 29.60 ดอลลาร์ หรือ 1.18% ปิดที่ 2,546.30 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะทำให้ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังได้แรงส่งจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงจากการขานรับสัญญาณการลดดอกเบี้ย ซึ่งเป็นผลให้ค่าเงินบาทไทยแข็งค่า 33.92 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ช่วงวันเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้น โดยนักเศรษฐศาสตร์ที่ร่วมการสำรวจของ Bloomberg ประเมินว่า โอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวในอีก 12 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 แม้ว่าความเสี่ยงจะลดลงเหลือน้อยกว่าครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับปีที่แล้วก็ตาม
ข่าวเด่น