ในที่สุด Bitcoin ก็ได้ทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ในหลัก 100,000 ดอลลาร์เป็นที่เรียบร้อยในช่วงต้นเดือน ธ.ค. นี้ นับเป็นการพุ่งของระดับราคาที่สร้างความหวังให้กับนักลงทุนในตลาดอย่างมาก ที่คาดว่าแนวรับต่อไปของ Bitcoin จะเข้าสู่โซน All Time High หรือมูลค่าของเหรียญจะมีแต่เพิ่มขึ้นเพื่อต้อนรับการเข้าสู่เทศกาลตลาดช่วง Bull Run สอดคล้องไปกับความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ที่มองเป้าหมายต่อไปสูงสุดถึง 300,000 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงต้นปี 2025 นี้
ตามไทม์ไลน์ของราคา Bitcoin ที่ได้พุ่งทะลุระดับ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรก หลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ประกาศแต่งตั้ง Paul Atkins อดีตกรรมาธิการ ก.ล.ต. สหรัฐฯ (SEC) ให้ดำรงตำแหน่งประธานของ SEC แทนที่ Gary Gensler ที่ประกาศว่าจะลงจากตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค. 2025 ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในข่าวดีที่สุดของวงการคริปโตเลยก็ว่าได้ เนื่องจากที่ผ่านมา Gary ได้ประกาศตั้งตนเป็นศัตรูกับสินทรัพย์คริปโตมาโดยตลอด ผ่านการควบคุมบริษัทที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดังกล่าวอย่างเข้มงวดด้วยข้อบังคับทางกฎหมาย จนกระทั่งโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีนโยบายสนับสนุน Bitcoin ได้กลับขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศในสมัยที่สอง และได้เสนอชื่อ Atkins ที่รู้จักในกำลังสำคัญที่สนับสนุนภาคส่วนคริปโตมาโดยตลอด (เขาเป็นผู้ร่วมประธานของ Token Alliance ที่หอการค้าดิจิทัล และยังให้คำปรึกษาแก่บริษัทด้านการเงินดิจิทัลเกี่ยวกับประเด็นกฎระเบียบผ่านบริษัทที่ปรึกษาของตนเองที่ Potomak Global Partners) มาดำรงตำแหน่งแทน ซึ่งเป็นการเดินหน้าทำตามสัญญาของทรัมป์ ที่เคยให้คำมั่นผ่านนโยบายหาเสียงเอาไว้ว่าจะมีการสร้างสภาพแวดล้อมของ Bitcoin และคริปโตที่ดีมากขึ้น
นอกจากนี้ ปัจจัยด้านอุปสงค์ของ Bitcoin ยังเพิ่มมากขึ้นจากแรงส่งหลักของการที่มีเงินทุนขนาดใหญ่ของสถาบันการเงินได้เข้ามาลงทุนใน Bitcoin มากขึ้น ผ่านการลงทุนในกองทุน Bitcoin ETF โดยในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ตลาด Bitcoin ได้มีเงินทุนไหลเข้ามาผ่านกองทุนดังกล่าวจำนวนมากกว่าพันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อสัปดาห์ โดยนอกจากจะเป็นการเสริมสร้างสภาพคล่องในตลาด และทำให้ความผันผวนของราคาเหรียญนั้นลดลงแล้ว การแสดงถึงวิสัยทัศน์ของนักลงทุนจากโลกเก่าที่เริ่มยอมรับสินทรัพย์ประเภทใหม่มากขึ้นนี้ เป็นตัวการันตีว่าตลาดกำลังมอง Bitcoin เป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่สามารถกักเก็บมูลค่าได้แทนสินทรัพย์ปลอดภัยแบบดั่งเดิมอย่างทองคำ โดยสามารถสังเกตได้จากกองทุน Bitcoin ETF ของ Blackrock ที่มีเงินทุนสะสมมากกว่ากองทุน Gold ETF ของบริษัทเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ สอดคล้องกับรายงานจาก Matrixport ที่เปิดเผยฐานผู้ใช้และอัตราการยอมรับของ Bitcoin ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งกำลังเข้าใกล้เกณฑ์การยอมรับทั่วโลกที่สำคัญ 8% ซึ่งคาดว่าจะผลักดันให้ราคาของเหรียญ มุ่งหน้าสู่ 160,000 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2025
นอกจากนี้ ทางด้านนักลงทุนชื่อดังของไทยอย่างคุณลุงโฉลก สัมพันธารักษ์ ยังได้วิเคราะห์ราคา Bitcoin เชิงเทคนิคคอลจากมุมมองกราฟด้วยว่า เป้าหมายต่อไปคาดว่าจะอยู่ที่ 125,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเดือนม.ค. ปีหน้า และต่อไปที่แนวรับ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ และ 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อาจจะเห็นในช่วงสงกราต์ปีหน้าที่จะถึงนี้
แต่ทั้งนี้ ด้วยดัชนีวัดความกลัวและความโลภของ Bitcoin หรือ Fear and Greed Index ในปัจจุบันอยู่ในระดับ 80 หรือเข้าขั้นโลภขั้นสุด ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องระมัดระวังในการลงทุนเป็นอย่างมาก ผู้อ่านควรศึกษาข้อมูลและใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนด้วยตัวเองบนระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ข่าวเด่น