
ด้วยรูปแบบกลโกงของมิจฉาชีพ อย่างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่พัฒนากลลวงอย่างแยบยลในหลากหลายรูปแบบ ได้สร้างความเสียหายให้กับผู้คนมากมาย ซึ่งคิดแล้วเป็นมูลค่ากว่าหลายพันล้านบาท ดังนั้นทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงยกระดับมาตรการจัดการปัญหามิจฉาชีพครั้งใหญ่ ด้วยการใช้กลยุทธ์ “ปิดปากม้า” ที่ได้เพิ่มเงื่อนไขการเข้าข่ายเป็นบัญชีม้า แบ่งออกเป็น 5 ประเภท โดยหากบัญชีใดมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายจะมีการระงับโอนเงินเข้า-ออกทันที
“บัญชีม้า” เป็นชื่อเรียกของบัญชีธนาคารที่ถูกเปิดเพื่อผลประโยชน์ในการทำเรื่องผิดกฎหมาย เช่น การฟอกเงิน และการถ่ายโอนเงินผิดกฎหมาย อย่างที่เป็นปัญหาการโดนหลอกโอนเงินของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในทุกวันนี้ ที่ถ้าหากเราโดนหลอกล่อให้ตกหลุมพราง โอนเงินไปให้กับบัญชีม้า เมื่อบัญชีม้าได้รับโอนเงินเสร็จ จะมีการโอนต่ออย่างรวดเร็ว ซึ่งยากต่อการติดตามนำเงินมาคืนแก่ผู้เสียหาย โดยบัญชีม้านั้น ชื่อของคนที่ถือครองบัญชีมักจะไม่ใช่เจ้าของตัวจริง แต่จะตกเป็นของมิจฉาชีพนำไปใช้ โดยอาจจะมีการหลอกโดยจ้างคนทั่วไปให้เปิดบัญชีให้ หรือมีการขโมยข้อมูลส่วนตัว ทั้งชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และหมายเลขบัตรประชาชน สวมรอยไปเปิดเป็นบัญชีม้า
โดยปัญหาของบัญชีม้าที่ยึดโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นภัยทุจริตที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทย ดำเนินการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยรูปแบบกลโกงที่พัฒนาจนทำให้ผู้เสียหายหลงกลจนเสียเงินเสียทองไปมากมาย ธปท. จึงยกระดับมาตรการคุมเข้มบัญชีที่ต้องสงสัยมากขึ้น เพื่อกวาดล้างภัยทุจริตดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้มีการแบ่งประเภทของบัญชีม้า จากแต่เดิม 3 สี ไปเป็น 5 สี ได้แก่
1. ม้าดำ เป็นบัญชีที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีการประกาศชื่ออย่างเป็นทางการแล้ว
2. ม้าเทาเข้ม เป็นบัญชีที่มีผู้เสียหายดำเนินการแจ้งความจากการโดนหลอกโอนเข้าบัญชีดังกล่าวแล้ว
3. ม้าเทาอ่อน เป็นบัญชีที่มีผู้เสียหายแล้ว แต่ยังไม่มีการแจ้งความ
4. ม้าน้ำตาลเข้ม เป็นบัญชีที่ธนาคารตรวจสอบอย่างมั่นใจแล้วว่าเป็นบัญชีม้า สามารถแจ้งความได้
5. ม้าน้ำตาลอ่อน เป็นบัญชีที่ธนาคารสงสัยว่าจะเป็นบัญชีม้า
โดยบัญชีทั้ง 5 สีนี้ จะถูกระงับการโอนเงินเข้า-ออก และยังถูกดำเนินคดีตามความร้ายแรงของประเภทบัญชีม้า โดยพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงที่เข้าข่ายเป็นบัญชีม้า ได้แก่
1. ชื่อบัญชีธนาคาร ไม่ตรงกับ ชื่อที่ใช้ในเบอร์โทรศัพท์มือถือซึ่งได้ผูกกับบัญชีเอาไว้
2. บัญชีธนาคารที่เมื่อมีเงินโอนเข้ามาแล้ว มีการโอนออกไปยังบัญชีคริปโตทันทีอย่างเป็นประจำ จะเข้าข่ายต้องสงสัยว่าเป็นบัญชีม้า และอาจนำไปสู่การระงับการโอนเงิน เนื่องจากที่ผ่านมาจำนวนเคสที่เกิดขึ้น จะพบว่า ร้อยละ 75 ของความเสียหายนั้น เกิดจากการโอนเงินไปบัญชีคริปโตซึ่งยากต่อการติดตาม
นอกจากนี้ ยังมีการออกมาตรการป้องกันการเปิดบัญชีม้า โดยการระงับคนที่ใช้ Mobile Banking หรือแอปธนาคาร แต่มีชื่อบัญชีไม่ตรงกับเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งถ้าใครพบว่าเบอร์ที่ใช้ยังไม่มีการลงทะเบียนชื่อ หรือใช้ชื่อไม่ตรงกับบัญชีธนาคารอยู่ตอนนี้ ต้องอัพเดตข้อมูลของตนเองให้ชื่อเจ้าของบัญชีและชื่อเจ้าของเบอร์โทรศัพท์เป็นคน ๆ เดียวกัน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. - 30 เม.ย. 2568
มาตรการที่รัดกุมนี้อาจทำให้เราตกอยู่ในเกณฑ์สุ่มเสี่ยงอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพราะทั้งสถาบันการเงินในตอนนี้สามารถร่วมกันแชร์ข้อมูลบัญชีม้า และบัญชีต้องสงสัยร่วมกันทั้งระบบได้ แม้หากเราใช้บัญชีในการโอนไปลงทุนในบัญชีคริปโตตามปกติ ก็อาจโดนระงับบัญชีไม่ให้โอนเงินเข้าออก หรือทำธุรกรรมใด ๆ ได้ ดังนั้นหากใครโดนธนาคารระงับทั้งที่ไม่ได้เป็นบัญชีม้า เจ้าของบัญชีสามารถไปติดต่อศูนย์บริการเพื่อทำการยืนยันตัวตน หรือพิสูจน์ตัวตนกับตำรวจไซเบอร์ โดยสามารถติดต่อทางสายด่วนศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1441 เพื่อธนาคารจะสามารถปลดล็อกบัญชีให้หลังการตรวจสอบเสร็จสิ้น
ข่าวเด่น