Scoop : "ตลาดสัตว์เลี้ยงไทย" เติบโตเกินตลาดโลก สะท้อนสังคมไทยอยู่เป็นโสดมากขึ้น-อยากมีลูกลดลง


 

ธุรกิจสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงในประเทศไทย นับว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ มูลค่าของตลาดดังกล่าวพุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก สะท้อนถึงพฤติกรรมของคนไทยที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงเสมือนเป็นบุคคลสำคัญในครอบครัว หรือที่เรียกกันว่า “Pet Parent” แทนที่การแต่งงานมีลูก ซึ่งในสังคมที่คนอยู่เป็นโสดกันมากขึ้น สัตว์เลี้ยงก็เหมือนเป็นสิ่งมีชีวิตที่คลายเหงา คอยปลอบประโลมจิตใจ และเยียวยาความต้องการเข้าสังคม หรือความต้องการสัมผัสทางกายภาพได้เป็นอย่างดี จึงไม่แปลกที่ในตอนนี้ ไม่ว่าจะหันไปทางไหน ก็จะมี Option ของการอำนวยความสะดวกให้กับสัตว์เลี้ยงแทรกซึมอยู่ในชีวิตประจำวันเป็นปกติ
 
ตัวเลขล่าสุดของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ 2567 แจ้งว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562-2566) ภาพรวมธุรกิจสัตว์เลี้ยง มีอัตราการเติบโตขึ้น ทั้งจำนวนการจัดตั้งใหม่และทุนจดทะเบียน โดยเฉพาะในปี 2566 ผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง มีรายได้รวมกว่า 258,702.91 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 5.80% จากปีก่อน และทำกำไรไปมากถึง 14,989.64 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9.77% จากจำนวนบริษัทที่จดทะเบียนนิติบุคคล 5,009 ราย ทั้งฟาร์มสัตว์ อาหารของเล่น และบริการดูแลสัตว์
 
ส่วนด้านของศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยถึงข้อมูลของตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในประเทศไทย พบว่า มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วง 4 ปี เป็นต้นมา มีการเติบโตของตลาดด้วยอัตรา 2 หลัก ประกอบด้วยปี 2563 มีมูลค่าตลาด 18,000 ล้านบาท (เติบโต 2.3%) ปี 2564 มีมูลค่าตลาด 21,300 ล้านบาท (เติบโต 18.3%) ปี 2565 มีมูลค่าตลาด 27,200 ล้านบาท (เติบโต 27.7%) ปี 2566 มีมูลค่าตลาด 36,000 ล้านบาท (เติบโต 32.4%) และ ปี 2567 มีมูลค่าตลาด 41,700 ล้านบาท (เติบโต 15.8%) ซึ่งเทียบกับตลาดโลกนับว่ามีอัตราการเติบโตที่สูงกว่า สอดคล้องกับข้อมูลของ TGM Research พบว่า คนไทยเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในอัตรา 73% ของครัวเรือน สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่ 58%
 
ทั้งนี้ การเติบโตของธุรกิจสัตว์เลี้ยง เป็นผลมาจากกระแสการดูแลสัตว์เลี้ยงแบบ Pet Humanization หรือพฤติกรรมของเจ้าของที่เลี้ยงสัตว์เหมือนลูกของตัวเอง และเป็นคนสำคัญในครอบครัว (หรือที่เรียกอีกอย่างว่า Pet Parents) ซึ่งการเลี้ยงเหมือนพวกเขาเป็นบุคคล ๆ หนึ่งทัดเทียมกับมนุษย์คนหนึ่งนั้น เจ้าของก็พร้อมที่จะทุ่มเทการดูแลอย่างเต็มที่ ตั้งแต่อาหาร ขนม ของเล่น เครื่องใช้ต่าง ๆ หรือไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไร ไปเที่ยวที่ไหนก็ตาม สัตว์เลี้ยงของพวกเขาก็จะร่วมทำสิ่ง ๆ นั้นไปด้วยกัน เราจึงเห็นว่าในปัจจุบันทั้งร้านอาหาร โรงแรม หรือห้างสรรพสินค้า ก็จะมีโซนที่อำนวยความสะดวกสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แม้แต่โครงการคอนโดในทุกวันนี้ที่มีจุดขายว่าสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ ก็จะได้รับความนิยมจากนักลงทุนและผู้อยู่อาศัยอย่างมีนัยสำคัญ
 
โดยการดูแลสัตว์เลี้ยงประดุจลูกตัวเองนี้ มีความสอดคล้องกับสังคมคนโสดในสังคมไทย ที่อยู่เป็นโสดกันมากขึ้น จากทั้งการเลือกที่จะโสดเอง และอิทธิพลจากสังคมเมือง ที่มีวิถีชีวิตทำงานและกลับบ้าน ไม่มีพื้นที่และเวลาสำหรับการทำกิจกรรมที่เพิ่มโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น โดยหากเทียบกับข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ที่เปิดเผยว่า กรุงเทพ และปริมณฑล เป็นพื้นที่ศักยภาพของตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง เนื่องจากมีจำนวนสัตว์เลี้ยงมากที่สุดอยู่ราว 3.1 แสนตัว คิดเป็น 6% ของจำนวนสัตว์เลี้ยงทั้งหมด
 
ส่วนในปี 2568 นั้น ทางศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในไทยจะอยู่ที่ 46,000 ล้านบาท หรือเติบโตอีก 12% โดยยอดขายอาหารสัตว์เลี้ยงอยู่ที่ประมาณ 3.98 แสนตัน ขยายตัว 6% จากปีก่อน ตามจำนวนสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจำนวนสัตว์เลี้ยงของไทยในปี 2568 คาดว่า สัตว์เลี้ยงที่มีเจ้าของจะมีอยู่ราว  5.38 ล้านตัว เพิ่มขึ้นราว 6% (แบ่งเป็นสุนัข 3.45 ล้านตัว และแมว 1.94 ล้านตัว) สะท้อนถึงแนวโน้มที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับอัตราการเกิดของคนที่ยังคงลดลงไปเรื่อย ๆ

LastUpdate 20/04/2568 20:29:42 โดย : Admin
กลับหน้าข่าวเด่น
21-04-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 21, 2025, 4:02 am