พี่ๆ รู้ไหมค่ะว่า ดิน คืออะไร ??? ถ้าอยากรู้ ตามมาทางนี้ค่ะพวกหนูจะเล่าฟัง ว่าแล้วก็เดินตามเสียงเจื้อยแจ้วของเด็กชั้นอนุบาล 3/2 โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ ไปชมนิทรรศการ การเรียนรู้แบบ Project Approach เรื่อง “ดิน” แบบเจาะลึกกับน้องๆกันเลยค่ะ
ในการเรียนรู้แบบโครงงาน Project Approach เรื่อง “ดิน” ใช้เวลาในการเรียนรู้กว่า 5 สัปดาห์ โดยเริ่มต้นเด็กๆ ทุกคนในชั้นเรียนจะช่วยกันคิดหัวข้อเรื่องที่สนใจอยากเรียนรู้ และสรุปว่า “ดิน” เป็นเรื่องที่อยากรู้มากที่สุด จากนั้นนำมาตั้งข้อสงสัยและเกิดเป็นคำถามขึ้น เด็กๆ ได้ช่วยกันสืบค้นข้อมูลเพื่อหาคำตอบ วางแผนกิจกรรมพร้อมทั้งการสำรวจดินของจริง ซึ่งเด็กๆจะได้สังเกตและสัมผัสดินในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งได้แสดงความคิดเห็นของแต่ละคน น้องเนลลี่ – ด.ญ. นิรดา จรูญรักษ์ บอกว่า “ดิน คือ ซากพืชซากสัตว์ที่เน่าเปื่อยและคลุกเคล้ากับหินและแร่ธาตุดินมี 3 ประเภทคือดินเหนียวจะมีผิวเรียบ สีน้ำตาลแก่ๆ ดินร่วนมีสีดำ ปั้นได้แต่เนื้อไม่เหนียวก็เลยแตกง่าย และดินทรายซึ่งเวลาจับแล้วจะร่วงเป็นเม็ดเล็กๆ ”
ในช่วงสัปดาห์แรกและสัปดาห์ที่สองของการสำรวจ เด็กๆ กระตือรือร้นกับการเรียนรู้และสืบค้นเรื่อง”ดิน” รวมทั้งการแสดงออกถึงประสบการณ์ที่มีด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การวาดภาพ ปั้นดินน้ำมัน ปั้นดินเป็นภาชนะต่างๆ และปลูกต้นไม้ น้องแป้งร่ำ – ด.ญ. แป้งร่ำ สันติมานะวงศ์ เล่าว่า “ ดินมีทั้งหมด 5 ชั้น ชั้น O คือปลูกต้นไม้ได้ ชั้น A ดินชั้นบน ชั้น B ดินชั้นล่าง ชั้น C เป็นชั้นหินเล็ก ชั้นสุดท้ายเป็น R ชั้นหินที่ใหญ่สุด แล้วรู้ไหมค่ะว่าดินมีองค์ประกอบ 4 อย่าง คือ แร่ธาตุ 45% , อินทรียวัตถุ 5%, อากาศ 25% และน้ำ 25% และหนูได้ทดลองการไหลผ่านของน้ำ ด้วยการเอาดินมาใส่แก้วแล้วเอาขวดมารองอีกที จากนั้นเทน้ำลงไป ดินทรายน้ำไหลผ่านได้ดี ปล่อยน้ำทิ้งอย่างเดียวเลย รองลงมาคือดินร่วน ส่วนดินเหนียวอุ้มน้ำได้ดี น้ำไหลผ่านได้น้อย”
สัปดาห์ต่อมา คุณครูได้พาเด็กๆ ไปทัศนศึกษาที่พิพิธภัณฑ์ดิน โดยมีวิทยากรมาให้ข้อมูลและตอบคำถามที่เด็กๆสงสัยอยากรู้ ซึ่งเด็กๆ ได้สัมผัสดินในลักษณะต่างๆ จากแหล่งดินที่ต่างกัน และได้ร่วมสำรวจการจำลองดินเปรี้ยวและดินเค็ม รวมทั้งยังได้รับความรู้เรื่องของสัตว์ที่อาศัยอยู่ในดินอีกด้วย น้องเบรฟ – ด.ช. รวิโรจน์ อนุตรานุกุล บอกว่า “ดินมี 2 แบบคือดินเปรี้ยวและดินเค็ม เราจะรู้ได้ว่า ดินเปรี้ยวหรือดินเค็ม ก็คือปลูกต้นไม้ไม่ขึ้นนะครับ ดินเค็มจะมีคราบเกลือสีขาวๆ อยู่ในดิน ส่วนดินเปรี้ยว ในหลวงท่านได้ให้วิธีแก้มาคือ วิธีแกล้งดิน โดยการทำให้ดินแห้งและเปียกสลับกันไป 4-5 ครั้ง จนดินเปรี้ยวที่สุด แล้วใส่ปูนขาวผสมคลุกเคล้ากับหน้าดิน จากนั้นดินก็จะสามารถปลูกต้นไม้ได้” นอกจากนี้เด็กๆ ยังได้มีโอกาสไปชมนิทรรศการ “วันดินโลก” ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม โดยนิทรรศการนี้ได้แสดงให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านการพัฒนาทรัพยากรดินอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การพัฒนาที่ดิน การปรับปรุงดินเสื่อมโทรม ปัญหาดินไม่อุดมสมบูรณ์ และดินที่มีปัญหา ดำเนินไปในทิศทางที่เหมาะสม และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่เกษตรกร และประโยชน์ของหญ้าแฝกที่ช่วยยึดหน้าดินไว้ไม่ให้พังทลาย และยังเป็นกำแพงธรรมชาติที่ช่วยป้องกันน้ำท่วมได้
ก่อนสัปดาห์สุดท้าย ทางโรงเรียนได้เชิญคุณสุรัตน์ บัวหิรัญ จากกลุ่มหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผา เกาะเกร็ด มาให้ความรู้เรื่องการปั้นดินพร้อมทั้งเปิดโอกาสให้เด็กทุกคนได้ทดลองปั้นดินจากแป้นหมุนและปั้นดินด้วยมือในรูปแบบต่างๆ ทั้งโอ่ง แจกัน หม้อและสัตว์ต่างๆ นอกจากนี้เด็กๆ ยังได้รับความรู้เพิ่มเติมทางด้านวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการกระจายความร้อนจากกิจกรรมการทำอาหารโดยได้ร่วมกันทำ”กุ้งอบหม้อดิน”ในหม้อดินและหม้อสแตนเลส ซึ่งผลสรุปคือ หม้อดินทำให้กุ้งอบวุ้นเส้นสุกทั้งหม้อ ส่วนหม้อสแตนเลสจะร้อนเร็วและจะสุกเฉพาะก้นหม้อทำให้ต้องคนวุ้นเส้นและกุ้งทั่วหม้อจึงจะสุกพร้อมกัน และเด็กๆ ยังได้ร่วมสืบค้นประโยชน์และโทษของดิน โดยการสืบค้นจากสารานุกรมและอินเตอร์เนต เด็กๆ บางคนวาดภาพ บางคนนำข้อมูลที่ได้รับรู้มาเล่าให้เพื่อนในชั้นได้ฟัง น้องคีญ – ด.ช. สุวิจักษขณ์ เพ็งมีศรี บอกว่า “ดินเอามาปั้นเป็นของใช้ได้ทั้งโอ่ง หม้อดิน หรือกระถางต้นไม้ ก่อสร้างบ้านที่อยู่อาศัย เป็นแหล่งดูดซับน้ำและเป็นแหล่งอาหาร และดินยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ เช่น หนอน กิ้งกือ กระต่าย และหมาจิ้งจอกแต่ถ้ามีมลพิษทางดิน จะทำให้ต้นไม้ไม่โต ปลูกต้นไม่ได้ สัตว์อยู่อาศัยไม่ได้ และถ้าดินถล่มก็จะทำให้บ้านพัง ทับรถ ทับสัตว์ และถ้าเป็นดินโคลนอาจจะทำให้ช้างตกลงไปได้ ”
ในสัปดาห์สุดท้ายของการทำโครงงานเรื่อง ”ดิน” นั้น เด็กๆได้ร่วมกันสร้างบ้านดินและได้ร่วมกันสรุปถึงสิ่งต่างๆ ที่เด็ก ๆ สงสัยและร่วมกันจัดนิทรรศการภายในห้องให้ได้ชมกัน โดยมีการแบ่งหน้าที่ในการจัดมุมห้องต่าง ๆ รวมทั้งได้ทบทวนความรู้เกี่ยวกับดิน เพื่อเตรียมเล่าให้ผู้ชมนิทรรศการฟัง และแน่นอนว่าสร้างความประทับใจสำหรับคุณพ่อคุณแม่และผู้ที่มาเข้าชมเป็นอย่างยิ่ง ว่าแล้วก็ต้องขอตัวไปชมบ้านดินของน้องๆ คนเก่งก่อนนะค่ะ
ข่าวเด่น