ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย Q4/55 พบว่า ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นมีค่าเท่ากับ 56.8 สูงที่สุดในรอบ 3 ปี โดยเพิ่มขึ้นจาก Q3/55 ที่มีค่าเท่ากับ 51.3
       

นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า ในการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ประจำไตรมาส 4 ปี 2555 มีผู้ประกอบการตอบแบบสอบถามจำนวน 166 บริษัท เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 31 บริษัท และบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 135 บริษัท ในการคำนวณดัชนีรวมจะให้น้ำหนักบริษัทจดทะเบียนและบริษัทไม่จดทะเบียน 50:50 เท่ากัน
    
ผลการสำรวจ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบัน (Current SituationIndex) มีค่าเท่ากับ 56.8 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากค่าดัชนี 51.3 ในไตรมาส 3 ปี 2555 และเพิ่มขึ้นจากค่าดัชนี 37.2 ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงเกิดวิกฤตน้ำท่วม สำหรับค่าดัชนี 56.8 ในไตรมาสนี้ นับเป็นค่าดัชนีสูงที่สุดในรอบประมาณ 3 ปี

เมื่อแยกประเภทผู้ประกอบการ พบว่า ผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (Listed) มีค่าความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันเท่ากับ 64.3 ปรับเพิ่มขึ้นจากค่าดัชนี 54.9 ในไตรมาสก่อน สำหรับค่าดัชนี 64.3 ของผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสนี้ นับเป็นค่าดัชนีสูงที่สุดในรอบประมาณ 3 ปีเช่นเดียวกัน

สำหรับผู้ประกอบการที่ไม่ใช่บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (Non-Listed) มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันเท่ากับ 49.4 ปรับเพิ่มขึ้นจากค่าดัชนี 47.8 ในไตรมาสที่ผ่านมา

ค่าดัชนีในไตรมาสนี้ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แสดงว่าผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นในเกือบทุกหมวด อาทิ ผลประกอบการ ยอดขาย การจ้างงาน และการเปิดโครงการใหม่และ/หรือเปิดเฟสใหม่ ยกเว้นในหมวดต้นทุนการประกอบการและการลงทุน
 
สำหรับดัชนีความคาดหวังในอีก 6 เดือนข้างหน้า (Expectations Index) มีค่าเท่ากับ 71.0 ปรับเพิ่มขึ้นจากค่าดัชนี 69.6 ในไตรมาสก่อน และเพิ่มจากค่าดัชนี 60.8 ในไตรมาสเดียวกันของปี 2554 นับเป็นค่าดัชนีความคาดหวังที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ศูนย์ข้อมูลฯจัดทำข้อมูลค่าดัชนีนี้มา

ในส่วนของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีค่าดัชนีความคาดหวังในอีก 6 เดือนข้างหน้า เท่ากับ 77.7 ปรับเพิ่มขึ้นจากค่าดัชนี 75.0 ในไตรมาสก่อน

ส่วนบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีค่าดัชนีความคาดหวังในอีก 6 เดือนข้างหน้า มีค่าดัชนีเท่ากับ 64.4 ปรับเพิ่มขึ้นจากค่าดัชนี 64.1ในไตรมาสก่อน

ค่าดัชนีความคาดหวังใน 6 เดือนข้างหน้า (ถึงเดือนมิถุนายน 2556 เปรียบเทียบกับเดือนธันวาคม 2555 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำรวจความเชื่อมั่น) ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการมีความคาดหวังที่ดีขึ้นต่ออนาคตอีกครึ่งปีข้างหน้า

ทั้งนี้  ผู้ประกอบการซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และรายใหญ่มีความเชื่อมั่นทั้งในปัจจุบันและความคาดหวังในอนาคตสูงกว่าผู้ประกอบการรายย่อยและรายกลาง เนื่องจากความได้เปรียบในการครองส่วนแบ่งการตลาด เห็นได้จากสัดส่วนโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ในปี 2555 ผู้ประกอบการซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่าร้อยละ 60

อย่างไรก็ดี ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยมีค่ากลางของดัชนีเท่ากับ 50 ดังนั้นหากค่าดัชนีสูงกว่าค่ากลาง มีนัยว่าผู้ประกอบการเห็นว่าเป็นภาวะที่ดี และหากดัชนีมีค่าสูงกว่าเดิม มีนัยว่าผู้ประกอบการเห็นว่าเป็นภาวะที่ดีขึ้นจากเดิม และในทางตรงข้าม หากค่าดัชนีต่ำกว่าค่ากลาง มีนัยว่าผู้ประกอบการเห็นว่าเป็นภาวะที่ไม่ดี และหากดัชนีมีค่าต่ำกว่าเดิม มีนัยว่าผู้ประกอบการเห็นว่าเป็นภาวะที่แย่ลงจากเดิม