หลังจากนำทัพบริษัทประกันชีวิตรายใหญ่เป็นที่หนึ่งในผู้เล่นหลักของตลาดประกันชีวิตประเทศไทยมานานถึง 6 ปีเต็มล่าสุด “ไมค์ แพล็กซ์ตัน” ประธานกรรมการบริหาร บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ก็ถึงเวลาต้องอำลาบริษัทนี้ พร้อมกับส่งไม้ต่อให้ “เดวิด โครูนิช” ขึ้นมารับตำแหน่งนี้แทน ซึ่งขยับขึ้นมาจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน
 
เดวิดบอกว่า เป้าหมายของเขาในการรับตำแหน่งนี้ก็คือ การสานต่อความสำเร็จของธุรกิจให้คืบหน้าต่อไป โดยตั้งเป้าหมายให้บริษัทเติบโตขึ้นไปอยู่ในบริษัทประกันชีวิตชั้นนำ 2 อันดับแรกที่มีเบี้ยและส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุด มั่นใจว่าตลาดประกันชีวิตในไทยยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพจะเติบโตได้อีกมาก ซึ่งเป็นโจทย์ที่ท้าทายในการผลักดันบริษัทให้เข้าไปตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าคนไทยให้มากยิ่งขึ้น
 
“ความได้เปรียบของบริษัทในการแข่งขันของบริษัทเวลานี้ก็คือ ความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างผู้ถือหุ้น 2 กลุ่มใหญ่คือ ธนาคารกรุงไทยและกลุ่มแอกซ่า ซึ่งเชื่อว่าความสัมพันธ์นี้จะยังคงแข็งแกร่งไปอีกยาวนาน เพราะปัจจุบันบริษัทถือเป็นธุรกิจที่มีผลประกอบการที่ดีที่สุดกลับคืนให้แก่แบงก์แม่อย่างธนาคารกรุงไทย ซึ่งเห็นได้จากแต่ละปีเราจะจ่ายคืนค่าธรรมเนียมการขายประกันชีวิตแก่แบงก์แม่เป็นจำนวนมาก นี่จึงเป็นจุดแข็งของเรา”
 
สิ่งที่เขาจะนำมาใช้เป็นกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจในฐานประธานกรรมการบริหารก็คือ การนำเสนอประกันชีวิตเพื่อมุ่งตอบโจทย์และแก้ปัญหาความกังวลในชีวิตของทุกคนซึ่งสามารถสรุปได้ 4 ด้านคือ

1.)    การมีอายุยืนเกินไป และไม่สามารถใช้ชีวิตยามเกษียณได้อย่างมีความสุขเหมือนในช่วงที่ทำงาน ประกันชีวิตก็จะมาตอบโจทย์นี้
2.)    การเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ทำให้ยังไม่สามารถทำตามแผนที่วางไว้สำหรับครอบครัว ประกันชีวิตก็ตอบโจทย์นี้ได้
3.)    การเจ็บไข้ได้ป่วย และไม่สามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ ประกันชีวิตก็ช่วยบริหารความเสี่ยงส่วนนี้ได้
4.)    ความต้องการเงินออมระยะสั้น เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ประกันชีวิตก็เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยในการออมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
เขากล่าวอีกว่า โอกาสในตลาดประกันชีวิตประเทศไทยในช่วงต่อจากนี้ไป มั่นใจว่ากลุ่มสินค้าด้านสุขภาพและความคุ้มครองชีวิตจะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะทัศนคติและการยอมรับของคนไทยเริ่มมาในแนวทางนี้มากขึ้น เห็นได้จากการออกสินค้าประกันสุขภาพ Complete Health Solutions ที่สามารถสร้างยอดขายได้อย่างดีในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน
 
"สัญญาณที่ดีของธุรกิจเราในเวลานี้ก็คือ ส่วนแบ่งการตลาดของเบี้ยใหม่เราเติบโตขึ้นมาอยู่ที่ 10.6% แล้ว จากเดิมอยู่ที่ 3.8% ถือได้ว่าเป็นทิศทางการขยายตัวที่ดีมาก และน่าจะทำให้บริษัทอยู่ในตำแหน่งอันดับ 5 ของธุรกิจประกันชีวิตในไทย" เดวิดกล่าว