กลายเป็นประเด็น "ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์" เมื่อละครเรื่อง "เหนือแมฆ 2" ถูกแบน โดยทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่องสาม ซึ่งเป็นช่องที่ออกอากาศเรื่องนี้ได้อ้างเหตุผลที่ยุติการออกอากาศเรื่องนี้ไปอย่างดื้อๆ ว่าเป็นเพราะละครเรื่องนี้มีเนื้อหาไม่เหมาะสม เนื่องจากขัดต่อพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 มาตรา 37 ซึ่งระบุว่าห้ามไม่ให้ออกอากาศเนื้อหารายการที่มีลักษณะล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือกระทำซึ่งเข้าลักษณะลามกอนาจารหรือมีผลกระทบต่อการให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง  

พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ทางไทยทีวีสีช่องสามอ้างเหตุผลในการตัดละครเรื่องนี้ว่าเป็นเพราะเหนือเมฆ 2 มีเนื้อหาไม่เหมาะสม เพราะมีลักษณะล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือลามก อนาจาร   

อย่างไรก็ตาม สำหรับคนจำนวนหนึ่งในสังคม  มองว่าเหตุผลที่ไทยทีวีสีช่องสามเปิดเผยออกมาเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น

เพราะ 1.ละครเรื่องนี้ไม่มีเนื้อหาตรงไหนที่ไม่เหมาะสม ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดศีลธรรม   ตรงกันช้าม เหนือเมฆ 2 เป็นละครที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นละครน้ำดี ที่กล่าวถึงคุณธรรมจริยธรรม คุณงามความดี และการบริหารประเทศโดยสุจริต  หลายเรื่องที่มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมกว่านี้ ประเภทพระเอกข่มขืนนางเอกแล้วตอนท้ายพระเอกกับนางเอกได้คู่กัน โดยไม่ได้มีการให้บทเรียนว่าการกระทำของพระเอกไม่ถูกต้อง       

2.จากระบบการผลิตละครของไทยทีวีสีช่องสาม เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้ว่าไม่เหมาะสมตั้งแต่แรก กล่าวคือ ขั้นตอนการผลิตเริ่มจากเสนอโครงการผลิตละคร แนบเนื้อหารายละเอียดของละครเรื่องนั้นๆ จากนั้นเมื่อช่องอนุมัติแล้ว ทางผู้จัดก็ถ่ายทำแล้วนำมาส่งเพื่อออกอากาศ  ซึ่งหมายความว่าทางช่องต้องทราบดีว่าเนื้อหาของละครเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไรแถมยังให้ออกอากาศมาจนจะอวสานแล้วด้วย ถ้าเห็นว่าไม่เหมาะสมก็ควรจะแบนตั้งแต่แรก       

จากเหตุผลทั้งสองข้อนี้ ทำให้หลายฝ่ายไม่เชื่อในคำแถลงของไทยทีวีสีช่องสาม และมองว่าสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ตัดสินใจยุติการออกอากาศละครเรื่องนี้ คือ ไทยทีวีสีช่องสามรับคำสั่งมาจากทางฝ่ายการเมือง จากฉากที่ "นภา" (รับบทโดย สินจัย เปล่งพานิช ) ไหว้พระขอพรให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองคนทำดี  แล้วไปแทงใจดำเข้า โดยมีคำพูดที่ว่า    

“ขอให้ความดีเป็นที่พึงแก่ทุกชีวิต ขอให้ความดีเป็นเกาะคุ้มภัยแก่คนที่คิดทำประโยชน์สุจริตแก่ประเทศชาติ ขอให้ความชั่วความเลวที่เกาะกินอยู่บนผืนแผ่นดินนี้สูญหายพ่ายแพ้แก่พระบารมีของคุณงามความดีที่ปกปักรักษาประเทศไทย ไม่ว่าอีกนานแค่ไหน ความดีจะไม่มีวันพ่ายแพ้”       

นอกเหนือจากไทยทีวีสีช่องสามจะออกมาชี้แจงแล้ว ทางรัฐบาลก็ออกมาชี้แจงเช่นกันว่า "ไม่ได้สั่งแบนเหนือเมฆ ทุกอย่างเป็นการตัดสินใจของทางช่องสามเอง"  ซึ่งหากเป็นไปตามข้อกล่าวหา ก็ถือว่าเป็นเรื่องเศร้าของประเทศชาติที่ทางช่องเลือกที่จะเอาใจนักการเมืองมากกว่าจะทำตามสิ่งที่ถูกต้อง

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการได้รับคำสั่งจากฝ่ายการเมือง หรือเพราะกลัวจนเกินเหตุก็ตาม ต้องถือว่า ภาพลักษณ์ของไทยทีวีสีช่องสามต้องเสียไปไม่น้อย กับการยุติการออกอากาศครั้งนี้ หลังจากเคยเสียภาพลักษณ์มาครั้งหนึ่งกับกรณีที่ผู้ประกาศข่าวชื่อดังคนหนึ่งของไทยทีวีสีช่องสามมีคดีทุจริต แล้วหลายฝ่ายเรียกร้องให้ปลด แต่ทุกวันนี้เขายังทำหน้าที่อยู่        

ทั้งนี้ทั้งนั้น ไทยทีวีสีช่องสามอาจจะไม่แคร์เท่าไหร่ ตราบใดที่ยังมีสปอนเซอร์มากมาย เรตติ้งยังดี  ซึ่งเรื่องนี้คงต้องดูกันต่อไปว่าจะลงเอยอย่างไร จะมีการดำเนินการให้เป็นตัวอย่างหรือจะเงียบหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

แต่ล่าสุด มีรายงานว่าจะมีการนำเรื่องนี้ขึ้นพูดในที่ประชุมวุฒิสภา รวมทั้งสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญร่อนแถลงการณ์ เรียกร้องสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดการไทยทีวีสีช่อง 3 เรียกละคร “เหนือเมฆ 2” คืนจอ ให้จบภายใน 3 วัน ขู่ยื่นฟ้องศาลปกครอง 8 มกราคม ฐานละเว้น แถมเรียกคืนสัมปทาน เหตุละเมิดสิทธิผู้บริโภคและขัดต่อกฎหมาย