คณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทย เห็นชอบการกำหนดวิสัยทัศน์ใหม่ของสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ที่มีเป้าหมายผลักดันให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มู่งสู่การเป็นกลไกหลัก ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งสร้างความมั่งคั่งให้แก่นักลงทุน และเป็นจุดเชื่อมโยงตลาดทุนในภูมิภาคและตลาดทุนโลก
"ไพบูลย์ นลินทรางกูร" ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า สำหรับการเป็นกลไกหลักต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย จะเน้นการผลักดันให้บริษัทเอกชน เข้ามาระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมากขึ้น ทั้งผู้ประกอบธุรกิจและรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่
ปัจจุบัน พบว่า สัดส่วนการระดมทุนส่วนใหญ่ ผู้ประกอบธุรกิจยังพึ่งพาธนาคารพาณิชย์เป็นหลัก โดยในปี 2555 การขยายตัวของสินเชื่อมีมูลค่าถึง 9 แสนล้านบาท ในขณะที่การระดมทุนผ่านตลาดหุ้นไทย ทั้งการขายหุ้นไอพีโอและการเพิ่มทุนมีเพียง 1 .5 แสนล้านบาท และหากเทียบปี 2554 การขยายตัวของสินเชื่อมีมูลค่าสูงถึง 1.1 ล้านล้านบาท ในขณะที่การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ มีเพียง 6 หมื่นล้านบาทเท่านั้น
ทั้งนี้ ด้วยบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ที่เคยให้ผลตอบแทนสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก และเป็นตลาดที่ให้ผลตอบแทนเป็นอันดับต้นๆ ของภูมิภาค เป็นจังหวะที่น่าสนใจในการเข้ามาระดมทุน ขณะเดียวกัน การปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลของภาครัฐ จากเดิม 30% เหลือ 20% ในปีนี้ และมีความเป็นไปได้ที่จะปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 15% จะเป็นจังหวะที่ดี ในการเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดในการจัด EXPO ด้วยการนำบริษัทจดทะเบียน ที่ประสบความสำเร็จจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มาให้ข้อมูลกับผู้ประกอบธุรกิจ ที่สนใจเข้าจดทะเบียนในอนาคตด้วย
ทั้งนี้ แผนการเพิ่มบริษัทจดทะเบียน สภาธุรกิจตลาดทุนไทย ยังเน้นถึงการส่งเสริมให้รัฐวิสาหกิจ เข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ด้วย โดยมองว่า การแปรสภาพเป็นบริษัทจดทะเบียน จะช่วยลดภาระหนี้ของภาครัฐได้ และยังเพิ่มช่องทางการตรวจสอบได้อีกทางด้วย
ในแง่ของการเพิ่มความมั่งคั่ง สภาธุรกิจตลาดทุนไทย จะเน้นส่งเสริมและจัดสัมมนาให้ความรู้แก่นักลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาวหรือ LTF โดยสภาธุรกิจตลาดทุน มีเป้าหมายเพิ่มจำนวนบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ จากปัจจุบันที่มีอยู่ราว 7 แสนบัญชี รวมถึงเพิ่มการลงทุนในกองทุนรวม ที่มีอยู่ราว 2 ล้านบัญชีด้วย
โดยในส่วนของธุรกิจกองทุนรวม สภาธุรกิจตลาดทุนไทย จะเสนอให้ต่ออายุสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่กำลังจะหมดลงในปี 2559 นี้
สำหรับการเป็นจุดเชื่อมโยงตลาดทุนในภูมิภาคและระดับโลก สภาธุรกิจตลาดทุนไทย จะมุ่งเน้นส่งเสริมให้บริษัทต่างชาติ เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันแนวโน้มดังกล่าวกำลังเกิดขึ้นแล้วในตลาดทุนโลก ทั้งนี้ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย จะแก้ไขหลักเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรคให้มีความคล่องตัวมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญต่อการการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะนักวิเคราะห์ ให้เป็นผู้แนะนำการลงทุนมีความรู้และความเชี่ยวชาญต่อการลงทุน รวมถึงการจัดทำบทวิจัยการลงทุนในตลาดภูมิภาคมากขึ้น เพื่อส่งเสริมให้นักลงทุนไทย เป็นนักลงทุนในระดับภูมิภาคและระดับโลกมากขึ้น
ข่าวเด่น