หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกมาตรการเพื่อสนับสนุนให้ภาคเอกชนนำเงินออกไปลงทุนต่างประเทศ ที่เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2555 โดย นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธปท. บอกว่า เงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าอย่างเสรี ขณะที่ขาออกยังมีข้อจำกัด เป็นแรงกดดันให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นและเพิ่มภาระให้กับ ธปท.ในการเข้าไปแทรกแซง ซึ่ง ธปท.จะสร้างความสมดุลระหว่างการไหลเข้าและออก โดยจะทยอยผ่อนกฎเกณฑ์การไหลออกของเงิน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น
ทั้งนี้ ในระยะแรกของการผ่อนคลายเกณฑ์ให้เงินไหลออกมากขึ้น มี 5 มาตรการ ได้แก่
1.การอนุญาตให้บุคคลธรรมดาสามารถนำเงินออกไปลงทุนโดยตรงในกิจการในต่างประเทศได้ไม่จำกัดวงเงิน เพิ่มเติมจากปัจจุบันเปิดให้เฉพาะนิติบุคคลเท่านั้น
2.เปิดให้ลงทุนในหลักทรัพย์ได้ไม่จำกัดวงเงิน พร้อมทั้งเพิ่มนักลงทุนสถาบันที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ สามารถออกไปลงทุนไ ด้จากที่ปัจจุบันกำหนดไว้ 8 ประเภทนักลงทุนสถาบัน และในส่วนของบุคคลธรรมดายังคงจำกัดวงเงินไว้ที่ 20 ล้านดอลลาร์ต่อปี แต่จะเพิ่มประเภทของหลักทรัพย์ให้ลงทุนได้มากขึ้น 3.บัญชีเงินฝากสกุลต่างประเทศของคนไทย (FCD) สามารถฝากเงินตราต่างประเทศได้ไม่จำกัดวงเงิน
4.สำหรับทุกสัญญาที่มีธุรกรรมรองรับสามารถยกเลิกการทำป้องกันความเสี่ยง อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท (unwind hedging)
5.การโอนเงินตราต่างประเทศออกนอกประเทศ ซึ่งเดิมกำหนดครั้งละไม่เกิน 2,000 ล้านดอลลาร์ ให้เพิ่มตามความจำเป็นของผู้นำเงินออก
แต่กระแสการไหลเข้าของเงินทุนจากต่างประเทศที่มาลงทุนในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ของไทยและตลาดในเอเชียก็ยังมีอย่างต่อเนื่อง โดยนักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) มองการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทในช่วงนี้ว่า ปรับตัวแข็งค่าสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2554 โดยปัจจัยหลักเป็นผลมาจากเงินทุนไหลเข้ามาในตลาดหุ้นฝั่งเอเชียมากขึ้น ทำให้เงินสกุลในภูมิภาคแข็งค่าในทิศทางเดียวกัน และเงินบาทในระยะสั้นยังมีโอกาสแข็งค่าต่อ แต่คงจะไม่แข็งค่าไปกว่านี้มากนัก
ขณะที่ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท .มองการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่แข็งค่าในช่วงนี้ว่า สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจไทย และเป็นไปในทิศทางเดียวกับสกุลเงินภูมิภาค ซึ่งได้รับผลดีจากการคลายความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก ทำให้นักลงทุนมีความต้องการเสี่ยง (risk on) มากขึ้น
ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอน อัตราดอกเบี้ยในสหรัฐและยุโรปยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้เงินทุนต่างประเทศ จำเป็นที่จะต้องไหลเข้ามาในตลาดเอเชีย เพื่อแสวงหาผลตอบแทนที่สูงกว่า ทำให้ตลาดเงินและตลาดทุนไทยหลีกเลี่ยงกระแสเงินที่ไหลเข้ามานี้ได้ยาก ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้อย่างมาก ที่ ธปท.จะเพิ่มมาตรการในการกระตุ้นให้มีการนำเงินออกไปลงทุนในต่างประเทศอีกรอบ
ข่าวเด่น