จากการคาดการณ์ว่าปี 2556 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 8% จากปี 2555 หรือมีจำนวนอยู่ที่ 24 ล้านคน ซึ่งจะส่งผลให้มีรายได้เข้าประเทศคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านบาท ส่งผลให้หลายธุรกิจในแหล่งท่องเที่ยวเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง เริ่มมีการปรับปรุงซ่อมแซมสร้างใหม่ตามสถานที่บริการต่างๆ เพื่อต้อนรับท่องเที่ยวที่กำลังจะเข้ามาเยือนประเทศไทย
ส่วนหนึ่งของความมั่นใจทั้งในกลุ่มของผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวนั่นก็คือ เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของประเทศไทยที่กำลังปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ และมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปี 2555 จึงทำให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนเริ่มหลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งในส่วนของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาประเทศที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ได้แก่ กลุ่มนักท่องเที่ยวเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะจีน และกลุ่มนักท่องเที่ยวอาเซียน ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวยุโรป และอเมริกายังคงชะลอตัวเล็กน้อย เพราะยังได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก
บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัดหรือ ซีอาร์ซี ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่เล็งเห็นโฮกาสที่ดีตรงนี้ จึงขอออกมากางแผนลงทุนขยายธุรกิจค้าปลีกในแหล่งท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นปี ซึ่งจังหวัดที่ซีอาร์ซีเลือกที่จะเข้ามาขยายธุรกิจค้าปลีกในครั้งนี้นั่นก็คือ จ.ภูเก็ต เพราะเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยือนปีละไม่ต่ำกว่า 12 ล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งในจำนวนนักท่องเที่ยวดังกล่าวแบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประมาณ 80% ที่เหลืออีก 20% เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยในจำนวนของนักท่องเที่ยวดังกล่าวยังไม่นับรวมถึงประชากรและนักท่องเที่ยวของจังหวัดใกล้เคียงอย่างกระบี่, พังงา และตรัง ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวอีกประมาณ 5 ล้านคนต่อปี และแวะเวียนเชื่อมแหล่งท่องเที่ยวถึงกัน เพื่อดึงรายได้มายัง จ.ภูเก็ต
นอกจากนี้จ. ภูเก็ตยังขึ้นชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีแหล่งพักอาศัยและตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดและจำนวนมากที่สุดไม่ว่าจะเป็นวิลล่าโครงการ high end ราคาเฉลี่ยหลังละ 70 ล้านบาท และกลุ่มลูกค้าทั้งชาวต่างชาติและชาวไทย ถือเป็นกลุ่มระดับ high end มีฐานะดี ดังนั้น จ.ภูเก็ตจึงเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงที่สุดรองจากกรุงเทพมหานคร
นายทศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทมีการลงทุนในต่างจังหวัดทั้งหัวเมืองสำคัญ ๆ และเมืองท่องเที่ยวมาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือ จ.ภูเก็ต เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ดังนั้นบริษัทจึงมีความมั่นใจในศักยภาพด้วยการทุ่มงบลงทุนมากกว่า 10,000 ล้านบาท เปิดตัวโครงการเซ็นทรัลเฟสติวัลภูเก็ตเฟส 3 "The new era of Central Festival Phuket" เพื่อช่วยเสริมภาพลักษณ์เมืองภูเก็ต ภายใต้คอนเซ็ปต์ Creative Island
โครงการเซ็นทรัลเฟสติวัลภูเก็ตเฟส 3 จะเป็นศูนย์ช็อปปิ้งไลฟ์สไตล์ขนาด 300,000 ตร.ม. บนพื้นที่ 136 ไร่ เพื่อสร้างลักเซอรี่ช็อปปิ้งครบวงจรระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ประกอบด้วยศูนย์การค้า, ห้างสรรพสินค้า, ศูนย์รวมลักเซอรี่แบรนด์ชั้นนำระดับโลก คอนเซ็ปต์ของโครงการจะเน้นผสมผสานความเป็นลักเซอรี่กับความโมเดิร์นเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างความตื่นเต้นแปลกใหม่ให้กับภาคใต้และ จ.ภูเก็ต โดยมีกำหนดเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงปลายปี 2559
หลังจากโครงการแล้วดสร็จพร้อมอวดโฉมในปี 2559 ซีอาร์ซีก็มีแผนที่จะใช้งบประมาณสูงถึงกว่า 1,000 ล้านบาท ในการเปิดตัวโครงการเซ็นทรัลเฟสติวัลภูเก็ตเฟส 3 เพื่อสร้างความอลังการให้กับเมืองภูเก็ตให้เป็นสุดยอดเมืองแห่งการท่องเที่ยวระดับลักเซอรี่ไลฟ์สไตล์
ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต ปัจจุบันตั้งอยู่บริเวณสี่แยกใจกลางเมือง บนถนนสายหลักที่เชื่อมทุกเส้นทางเข้าด้วยกัน จึงทำให้การเดินทางสะดวก ขณะที่สินค้าภายในโครงการก็จะมีความหลากหลาย เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและลูกค้าที่อยู่อาศัยใน จ.ภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นกระบี่ ,พังงา หรือตรัง ซึ่งจะมีให้ลูกค้าได้เลือกซื้อทุกระดับไม่ว่าจะเป็น สินค้าลักเซอรี่แฟชั่นแบรนด์, แบรนด์แฟชั่นจากต่างประเทศ, ร้านอาหารในคอนเซ็ปต์ใหม่ ๆ, กลุ่มเอ็นเตอร์เทนเมนต์, ร้านสเปเชียลตี้ และ art & craft
นอกจากนี้ยังมีคอนเวนชั่นฮอลล์ หรือศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ที่สุดของภาคใต้ เพื่อรองรับการประชุม/สัมมนาระดับนานาชาติ ซึ่งทั้งหมดนี้จะถูกนำเสนอในรูปแบบของคอนเซ็ปต์ใหม่แบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนใน จ.ภูเก็ต
บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด เริ่มเข้าไปบุกเบิกโครงการห้างค้าปลีกใน จ. ภูเก็ต นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 ด้วยการเปิดห้างโรบินสัน โอเชี่ยน ภูเก็ต เป็นห้างใจกลางเมืองแห่งแรก หลังจากนั้นก็มีการเปิดตัวศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต ในปี พ.ศ. 2547 เป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่และทันสมัยที่สุด เนื่องจากตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 120,000 ตร.ม. นับเป็นการเปิดศักราชใหม่แห่งธุรกิจค้าปลีก ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้ชาวเมืองภูเก็ตและนักท่องเที่ยว ทั้งยังสร้างเงินหมุนเวียนในภาคธุรกิจกว่า 2,000 ล้านบาทต่อปี
จากศักยภาพของ จ.ภูเก็ต ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้ซีอาร์ซีทุ่มงบลงทุนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิด โรบินสัน จังซีลอน ในปี 2549 และขยายเซ็นทรัลเฟสติวัลภูเก็ตอีสท์ เฟส 2 ในปี 2551 เสริมทัพความครบครันด้วยโฮมเวิร์คและเพาเวอร์บายภูเก็ต ตามด้วยการลงทุน 200 ล้านบาทในปี 2555 เพื่อปรับโฉมเซ็นทรัลเฟสติวัลภูเก็ต โดยเพิ่มจำนวนร้านค้าและร้านอาหารเพื่อให้ตอบสนองความต้องการลูกค้าอย่างครบครัน
นายทศกล่าวปิดท้ายว่า การลงทุนดังกล่าวถือเป็นนโยบายของบริษัทในการเตรียมความพร้อมเพื่อรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ เออีซี ในปี 2558 หนึ่งในนั้นคือการขยายความเจริญออกสู่จังหวัดหัวเมืองมากขึ้น นอกจากรับกำลังซื้อในประเทศที่เพิ่มขึ้น ยังเพื่อเปิดรับกำลังซื้ออีกมหาศาลจากเพื่อนบ้านและนานาประเทศ และภูเก็ตก็เป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญระดับโลก ที่ได้สมญาไข่มุกแห่งอันดามัน.
ข่าวเด่น