นายชัยณรงค์ เอื้อสิทธิชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ปีนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายรายได้จากค่าธรรมเนียมในบริการด้านธุรกรรมบัตรต่างๆ ให้เพิ่มขึ้นอีก 25% ทั้งการเพิ่มฐานลูกค้าบัตรรายใหม่ เพิ่มปริมาณธุรกรรมผ่านบัตร และเพิ่มการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตให้มากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ การเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ปีนี้น่าจะมีปริมาณลูกค้าเปิดบัญชีและบัตรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3-4 แสนบัญชีต่อเดือน หรือประมาณกว่า 3 ล้านรายตลอดทั้งปี จากฐานปัจจุบันที่มีบัตรเดบิตเกือบ 12 ล้านใบ ส่วนลูกค้ากลุ่มบัตรเดบิตก็แอคทีฟในการใช้จ่ายผ่านบัตรมากขึ้น ในปี 2555 มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรกว่า 1 หมื่นล้านบาท เติบโต 30% ซึ่งปีนี้ก็จะพยายามรักษาระดับการขยายตัวดังกล่าวเอาไว้
"ดูจากฐานการขยายตลาดและธุรกรรมต่างๆ ในปีที่แล้ว เห็นว่าเรายังมีโอกาสเพิ่มรายได้จากค่าธรรมเนียมของธุรกรรมบัตรได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปีนี้ ซึ่งธุรกิจส่วนนี้ถือเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้ค่าธรรมเนียมให้แก่ธนาคารได้มากที่สุดในปีที่ผ่านมา"
ล่าสุด ธนาคารกรุงไทยได้เปิดตัวบัตรเดบิต "KTB UnionPay" โดยที่ UnionPay ถือเป็นผู้ให้บริการด้านระบบชำระเงินจากจีนที่ขึ้นมาเป็นรายใหญ่ของโลก มีฐานบัตรมากกว่า 3.4 พันล้านใบทั่วโลก
นายชัยณรงค์กล่าวอีกว่า แนวโน้มตอนนี้ธุรกิจจากจีนเริ่มเข้ามามีบทบาทในตลาดโลกมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเศรษฐกิจที่ขยายตัวดี รวมถึงธุรกิจจีนเองก็ขยายออกไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น รวมถึงกับไทยที่มีทั้งการค้า ท่องเที่ยว และไปเรียนต่อในจีนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งบัตรเดบิต KTB UnionPay จะช่วยตอบโจทย์ด้านธุรกรรมผ่านบัตรเดบิตได้ดีขึ้นทั้งในจีนและทั่วโลก
ในความร่วมมือครั้งนี้ ธนาคารกรุงไทยจะเป็นผู้ออกบัตรเดบิต KTB UnionPay รวมถึงเครือข่ายเครื่องเอทีเอ็มกว่า 8,000 แห่ง โดยมีร้านค้ารองรับบัตรนี้กว่า 6 หมื่นร้านค้า ครอบคลุมทุกหมวดการใช้จ่าย ตั้งแต่โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงพยาบาล เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี บมจ.บัตรกรุงไทย (เคทีซี) เข้ามาร่วมในแง่การให้บริการด้านเครื่องรับบัตรที่ประจำอยู่ในร้านค้าต่างๆ อีกด้วย
ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าหมายบัตรเดบิต KTB UnionPay ในปีแรกไว้ทั้งสิ้น 1 ล้านใบ และจะเพิ่มเป็น 4 ล้านใบภายใน 3 ปี
ข่าวเด่น