แบงก์-นอนแบงก์
บล.ซีไอเอ็มบี (CIMBS) แถลงความพร้อมก้าวเป็นบล.ชั้นนำในตลาด


นายสุชาย สุทัศน์ธรรมกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด (CIMBS) กล่าวว่าบริษัทพร้อมแล้วที่จะเดินหน้าขยายธุรกิจหลักทรัพย์อย่างเต็มตัวหลังจากได้ปรับโครงสร้างภายในมาเป็นเวลากว่า 1 ปี ทั้งการรับบุคลากรเข้ามาเสริมทัพ รวมถึงการควบรวมกิจการกับบริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ ซึ่งเสร็จสิ้นสมบูรณ์ไปเมื่อปลายเดือน พ.ย.2555 โดยบุคลากรจากทั้งบล.ซีไอเอ็มบี และบล.ซิกโก้ได้เข้ามาร่วมทำงานเป็นทีมเดียวกัน และพร้อมจะเดินหน้าผลักดันให้บล. ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ขยับชั้นขึ้นเป็นบล.ชั้นนำของประเทศไทยภายในปี 2556
 
สำหรับภารกิจในปีนี้ คือการขยายธุรกิจหลักทรัพย์แบบครบวงจรทั้งธุรกิจลูกค้ารายย่อย และธุรกิจลูกค้าสถาบัน โดยจะเดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrants) กองทุนเปิดที่จดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (Exchange Traded Fund หรือ ETF) และบริการที่เกี่ยวกับการซื้อขายข้ามประเทศ ควบคู่ไปกับการปรับปรุงบริการให้ดียิ่งขึ้น

นายสุชาย กล่าวว่า หลังการควบรวมกิจการกับบล.ซิกโก้ ส่งผลให้เครือข่ายสาขาเพิ่มขึ้นจาก 7 แห่ง เป็น 20 แห่ง นับว่ามีขนาดใหญ่พอสมควรต่อการให้บริการนักลงทุนบุคคลทั่วไปแล้ว แต่เพื่อเสริมเครือข่ายในประเทศให้แข็งแรงยิ่งขึ้นและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับผู้เล่นรายอื่นในตลาด บริษัทมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 6 แห่ง โดยตั้งเป้าหมายจะเปิดสาขาใหม่แห่งแรกของปีนี้ในเดือนมีนาคม

“หัวใจหลักของธุรกิจหลักทรัพย์คือ บุคลากร ดังนั้น แผนงานขยายสาขาต้องดูความพร้อมบุคลากรด้วย หากเราสามารถเฟ้นหาบุคลากรที่มีคุณภาพในแต่ละพื้นที่ๆมีฐานลูกค้าเป้าหมาย จะช่วยให้แผนงานขยายสาขาทั่วประเทศเกิดได้เร็วขึ้น เพราะธุรกิจหลักทรัพย์มีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างจากธุรกิจธนาคาร ธุรกิจหลักทรัพย์ใช้เวลาอันสั้นในการถึงจุดคุ้มทุนขอเพียงมีกลุ่มลูกค้า มีทีมงานที่ดี สาขาใหม่จะเติบโตได้เรื่อยๆ เราจึงเปิดกว้างพร้อมรับบุคลากรอย่างต่อเนื่อง” นายสุชาย กล่าว

ด้านธุรกิจลูกค้าสถาบันนั้น ปัจจุบันบริษัทมีจุดแข็งด้านงานวิจัยที่มีคุณภาพและเจาะลึกในตลาดทั้งในประเทศและภูมิภาค เมื่อผนึกกำลังเข้ากับจุดแข็งด้านเครือข่ายของกลุ่มซีไอเอ็มบียิ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเพิ่มศักยภาพในการเติบโตธุรกิจลูกค้าสถาบัน โดยเครือข่ายของกลุ่มซีไอเอ็มบีเติบโตรวดเร็วตลอดหลายปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มขยายตัวอย่างไม่หยุดยั้ง ล่าสุด คือ การที่กลุ่มซีไอเอ็มบี เข้าซื้อกิจการด้านวาณิชธนกิจของ Royal Bank of Scotland หรือ RBS ส่งผลให้เครือข่ายขยายขอบเขตไปยังภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพิ่มเติมจากเดิมที่มีเครือข่ายแข็งแกร่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


ขณะเดียวกัน ด้านวาณิชธนกิจ (Corporate Finance) จะผสานความร่วมมือกับธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย และเครือข่ายของกลุ่มซีไอเอ็มบี เพื่อก้าวเป็นผู้นำด้านวาณิชธนกิจ เช่นเดียวกับธุรกิจวาณิชธนกิจของซีไอเอ็มบีที่เป็นอันดับ 1 ในประเทศมาเลเซีย และเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาค โดยในปี 2555 ที่ผ่านมาธุรกิจวาณิชธนกิจของซีไอเอ็มบีในประเทศไทยเป็นอันดับ 1 ในการระดมผ่านเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งแรกให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) เมื่อพิจารณาจากมูลค่าของหลักทรัพย์ที่เสนอขายทั้งหมดในปี 2555 จากการทำหน้าที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ และกองทุนอสังหาริมทรัพย์

“ถึงวันนี้ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เป็นบล.ที่พร้อมทุกด้าน ด้วยฐานลูกค้าทั้งรายย่อยและสถาบัน พร้อมด้วยวาณิชธนกิจและเครือข่ายในประเทศของซีไอเอ็มบี ไทย และจุดแข็งจากเครือข่ายของกลุ่มซีไอเอ็มบีที่จะนำมาซึ่งดีลข้ามประเทศทั่วเอเชีย เราสามารถเข้าไปให้บริการกองทุนใหญ่ๆในภูมิภาค เช่นเดียวกันหากเครือข่ายทั่วภูมิภาคของเรามีธุรกิจเข้ามาก็จะส่งต่อเข้ามายังประเทศไทยด้วย โดยเฉพาะถ้าเปิดเสรีในกลุ่มอาเซียน จะได้เห็นศักภาพของเครือข่ายได้ชัดเจน ปัจจุบัน บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดกว่า 4% เป็นอันดับที่ 9 ในตลาด เราตั้งเป้าหมายจะก้าวเป็นธุรกิจหลักทรัพย์ชั้นนำในตลาดด้วยส่วนแบ่งตลาดที่ติด 1 ใน 5 อันดับแรกภายในปี 2557” นายสุชาย กล่าว  



LastUpdate 23/01/2556 16:32:01 โดย : Admin
05-12-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 5, 2024, 2:42 am