ในบรรดาโบรกเกอร์ที่มีอัตราการเติบโตทางธุรกิจอย่างรวดเร็วในช่วง2ปีที่ผ่านมา "บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)" ถือเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีความโดดเด่นที่ต้องติดอันดับอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ในปี56 นี้จะมีแรงผลักดันในทางบวกหนุนต่อไปได้หรือไม่?
 
นายสุชาย สุทัศน์ธรรมกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวถึงแผนธุรกิจปีนี้ว่า บริษัทยังมั่นใจว่าธุรกิจจะเติบโตต่อได้ดี โดยตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ที่ 5% หรืออยู่อันดับ5-6ของอุตสาหกรรม ซึ่งไม่น่าจะเป็นเรื่องยากนัก เนื่องจากเฉพาะช่วงเดือนม.ค.นี้ มาร์เก็ตแชร์ของบริษัทก็อยู่ที่ 4.2% แล้ว
 
ขณะเดียวกันจะได้รับปัจจัยบวกจากธุรกิจ3เสาหลักที่สร้างรายได้ให้บล.ซีไอเอ็มบีฯ ได้แก่ ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์เพื่อรายย่อย ซึ่งในปีนี้จะมีการขยายสาขาอีก 6 สาขา เพิ่มจากสิ้นปีที่แล้วมี 20 สาขา พร้อมทั้งจะเพิ่มเจ้าหน้าที่การตลาด(มาร์เก็ตติ้ง)อีก 60 คน จากเดิมมีอยู่ 300 คน ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยรองรับความต้องการซื้อขายของนักลงทุนรายย่อยได้
 
ส่วนเสาหลักที่2 คือ ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์สำหรับนักลงทุนสถาบัน บริษัทหวังว่าจะมีสัดส่วนเพิ่มเป็นราว 35-40% จากปกติที่อยู่ระดับ 30% โดยในธุรกิจนี้ ถือว่าเป็นหนึ่งในจุดแข็งที่เหนือกว่าคู่แข่งหลายราย เนื่องจาก กลุ่มซีไอเอ็มบี มีเครือข่ายในหลายประเทศ โดยเฉพาะในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งยังมีเครือข่ายของ Royal Bank of Scotland (RBS) เข้าสนับสนุนอีกทาง จึงช่วยให้บล.ซีไอเอ็มบี สามารถขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้ดีขึ้น และส่งผลดีต่อการเพิ่มสัดส่วน และให้บริการลูกค้าสถาบันต่างประเทศ
 
ส่วนเสาหลักสุดท้าย คือ งานด้านวาณิชธนกิจ (IB) นั้น บริษัทจะร่วมมือกับแบงก์ซีไอเอ็มบีไทย และเครือข่ายของกลุ่มซีไอเอ็มบี เพื่อทำงานทั้งด้านการนำหุ้นใหม่เสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) และการเป็นที่ปรึกษาควบรวมกิจการ (M&A)  
 
ขณะเดียวกันบริษัทจะมีส่วนร่วมในการนำสินค้าทางการเงินใหม่ๆเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นด้วย เช่น ETF Index และ ETF Commodity ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างหารือถึงรูปแบบการออกอยู่ อย่างไรก็ตามคาดว่าจะเห็นความชัดเจนสิ้นปีนี้
 
นอกจากนี้ ด้านรายได้ส่วนเพิ่ม บริษัทคาดว่าจะสามารถหาผลตอบแทนจากพอร์ตลงทุนของบริษัท (Prop Trade) ได้ราว12-15% ของเงินลงทุน ซึ่งปัจจุบันมีวงเงินอยู่ที่ 800-900 ล้านบาท แต่เทรดอยู่จริงราว 60-70% ของวงเงินดังกล่าวเท่านั้น แสดงให้เห็นได้ว่ายังมีเงินเหลือพอที่จะลงทุนต่อ
 
จับตาต่อไปว่า แผนทั้งหมดนี้ จะทำให้บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) พิชิตเป้าหมาย "มาร์เก็ตแชร์ 5%" ได้ตามที่หวังหรือไม่!!!