จากนโยบายคืนภาษีให้กับผู้ที่ซื้อรถคันแรกของรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำให้ผลการผลิตและส่งออกรถยนต์ของไทย มีอันดับดีขึ้นติดท็อปเท็นของโลก และยังทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 

โดยนายสุรพงษ์  ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า  จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตในเดือนธันวาคม 2555 มีทั้ง สิ้น 221,353 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2554 ที่ 122.63% เนื่องจากในช่วงปลายปี 2554  เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ 

ส่วนจำนวนผลิตรถยนต์ 12 เดือน (มกราคม-ธันวาคม2555) มีจำนวนทั้งสิ้น 2,453,717 คัน สูงสุดในรอบ 51 ปี   ซึ่งสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 2 ล้านคัน ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตรถยนต์อันดับที่ 10 ของโลกจากเดิมที่อยู่ดันดับ 14 ของโลก และการผลิตเพิ่มขึ้นจากปี 2554  มากถึง 68.32%  

โดยผู้ผลิตรายใหญ่ 10 อันดับแรกของโลก    ประกอบด้วย 
1.จีน                                     6. อินเดีย
 2.สหรัฐ                                7. บราซิล
 3.ญี่ปุ่น                                 8. เม็กซิโก
4.เยอรมัน                              9. แคนาดา
 5.เกาหลี                             10. ไทย 

สำหรับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนธันวาคม 2555  มีจำนวนทั้งสิ้น 144,676 คัน  เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 165.10 %  โดยยอดขายรถยนต์ในช่วง 12 เดือน (มกราคม-ธันวาคม2555) มีจำนวนทั้งสิ้น 1,436,335 คัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2554  ถึง 80.90% เป็นผลจากนโยบายคืนภาษีรถยนต์คันแรกของรัฐบาลที่มียอดจองรถสูงถึง 1.25 ล้านคัน

นอกจากนี้ การส่งออกรถยนต์ทั้งปี 2555  ก็ทำสถิติใหม่เช่นกัน โดยมียอดการส่งออกอยู่ที่  1,026,671 คัน  สูงสุดในรอบ 25 ปี นับจากปี 2551 ทำให้ไทยกลายเป็นผู้ส่งออกรถยนต์อันดับ 7 ของโลก หรือส่งออกเพิ่มขึ้น 39.56% ขณะที่มียอดขายรถยนต์ในประเทศ มีจำนวน 1,436,335 คัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือเพิ่มขึ้น 80.90%

ส่วนในปี 2556 ส.อ.ท. ประเมินว่า ไทยน่าจะผลิตรถยนต์ได้ในระดับ 2.5-2.6 ล้านคัน ซึ่งมีสิทธิ์ที่ทำให้ไทย ก้าวไปเป็นผู้ผลิตรถยนต์เป็นอันดับ 9 ของโลกแซงประเทศแคนนาดา   เนื่องจากค่ายรถยนต์ที่จะนำไปจำหน่ายในตลาดประเทศสหรัฐฯ  อาจขยายฐานผลิตจากแคนาดามาอยู่ในประเทศเม็กซิโกแทน    เพราะมีต้นทุนค่าแรงที่ถูกกว่า