หุ้นทอง
HEMRAJ เดินเครื่องลงทุน 5 ปี 4หมื่นล้าน : ปีทองของนิคมอุตสาหกรรม


 

 
 
           HEMRAJ ถือเป็นหนึ่งในดาวเด่นของธุรกิจในกลุ่ม "นิคมอุตสาหกรรม" ที่มีการเติบโตต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และเพื่อสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจ จึงจำเป็นที่จะต้องขยายการลงทุนต่อเนื่อง

         
          โดย "เดวิด นาร์โดน" กรรมการผู้จัดการ บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ) ได้ประกาศแผนลงทุน 5 ปี (ปี 2556-2560)  ว่า จะต้องใช้เงินลงทุนรวมทั้งสิ้นจำนวน 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นการลงทุนในปี 2556 มูลค่า 8,000 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับเป็นงบประมาณในการซื้อที่ดิน 1,500 ล้านบาท พัฒนานิคมอุตสาหกรรม 2,000 ล้านบาท ไฟฟ้าและสาธารณูปโภค 1,000 ล้านบาท สร้างโรงงานสำเร็จรูป และคลังสินค้าโลจิสติกส์ 2,500 ล้านบาท และลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ประมาณ 1,000 ล้านบาท

           ทั้งนี้แหล่งที่มาของเงินลงทุนดังกล่าว จะมาจากทั้งเงินหมุนเวียนของบริษัท รวมถึงการออกหุ้นกู้ ซึ่งได้เตรียมพร้อมแล้ว จึงน่าจะลงทุนได้ตามแผนที่วางไว้

            อย่างไรก็ตาม หากประเมินภาพรวมธุรกิจปีนี้ คาดว่า รายได้รวมน่าจะเติบโตถึงรา ว20% เพราะในส่วนของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมนั้น จะขยายตัวต่อเนื่อง จากการที่บริษัทได้เริ่มพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเหมราช ชลบุรี 2 เนื้อที่ 640 ไร่ ซึ่งจะรองรับลูกค้าเข้ามาก่อสร้างโรงงานได้ในปลายปี 2556

            โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ดินไว้ที่ 1,600 ไร่ โดยจะมีลูกค้าใหม่ 50 ราย และมีสัญญาที่ดินและโรงงานใหม่ 80 ฉบับ อย่างไรก็ตามโอกาสที่บริษัทจะทำได้ดีกว่าประมาณการที่คาดก็มีความเป็นไปได้ หากมีความต้องการจากลูกค้าเข้ามามาก
             
             "เป้าหมายของยอดขายที่ดินปีนี้ต่ำกว่าเป้าปี 2555 ที่ทั้งปีอยู่ที่ 2,317 ไร่ แต่เราก็พร้อมที่จะปรับเป้ายอดขายได้อีก เพราะความจริงแล้วปีก่อนเราตั้งเป้าไว้น้อย แต่ก็ทำได้มากกว่าคาด ดังนั้นในปีนี้ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกก็ได้ ขณะเดียวกันปีนี้เราเตรียมจะปรับราคาที่ดินขึ้นอีก 5-10% จากปีก่อนที่มีการปรับขึ้นไปประมาณ 20% ด้วย ทำให้ธุรกิจนี้ค่อนข้างสดใส" เดวิดกล่าว

             ด้านธุรกิจบริการสาธารณูปโภค บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้ไว้ราว 2 พันล้านบาทเติบโต 20% จากปีก่อน โดยครอบคลุมบริการเกี่ยวกับน้ำ ตั้งแต่การผลิตน้ำประปาจนถึงการบริการบำบัดน้ำเสีย ซึ่งสามารถทำรายได้สัดส่วน 22% ของรายได้รวม

              โดยปัจจัยหนุนมาจาก 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ การขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรม ที่จะส่งผลความต้องการด้านสาธารณูโภคเพิ่มขึ้น และความต้องการพื้นฐานด้านการบริโภคของลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เหล็ก ปิโตรเคมี และการผลิตไฟฟ้า ตั้งแต่น้ำดิบ น้ำประปา และน้ำเพื่อการอุตสาหกรรม จนถึงระบบการจัดการน้ำเสียและบำรุงรักษา

               นอกจากนี้ บริษัทมีแผนลงทุนโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP)  7 แห่ง โดยแต่ละโครงการมีกำล้งการผลิต 120 เมกะวัตต์ ส่วนโรงไฟฟ้า SPP ที่ร่วมก้บบริษัท กัลฟ์ เจพี จำกัด มีกำลังการผลิต 126 เมกะวัตต์ โดยบริษัทถือหุ้นสัดส่วน 25.01% ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในช่วงกลางปี 56

              ทั้งนี้ บริษัทได้รับเงินปันผลจากการลงทุนโรงไฟฟ้า คิดเป็น 8% ของรายได้ และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเท่าตัวภายใน 5 ปี ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย

             "ช่วง 9 เดือนของปีที่ผ่านมา กำไรขั้นต้นของเราอยู่ที่ 46% ส่วนกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 36% ซึ่งอนาคตหากมีการให้เช่าโรงงานมากกว่านี้ อัตรากำไรก็จะเพิ่มสูงขึ้น และในปีนี้ก็จะมีกำไรส่วนแบ่งจากโครงการไฟฟ้าซึ่งจะบันทึกเป็นกำไรสุทธิด้วย ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ"เดวิด กล่าว

              คงต้องจับตากันต่อไปว่า ในปี56นี้  "HEMRAJ" จะต่ออายุปีทองของธุรกิจได้ตามที่ตั้งใจหรือไม่
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 07 ก.พ. 2556 เวลา : 03:30:43
22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 6:00 am