หลังจากเกิดเป็นแนวคิดมานานเกี่ยวกับ "ไมโครอินชัวรันซ์" หรือประกันภัยสำหรับผู้มีรายได้ไม่มากนัก เน้นความคุ้มครองที่คุ้มค่า ราคาเบี้ยไม่แพง เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงระบบประกันอย่างทั่วถึงแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการได้ดีนัก เพราะต้นทุนด้านช่องทางขายยังคงเป็นข้อจำกัดที่สำคัญ
ล่าสุด นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ทางสำนักงาน คปภ. ได้ออกใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัยและนายหน้าประกันชีวิตแบบไมโครอินชัวรันซ์ให้แก่ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด ผู้ให้บริการเครือข่ายชำระเงินต่างๆ ที่มีอยู่เคาน์เตอร์กว่า 8,500 สาขาทัั่วประเทศ เพื่อให้สามารถจำหน่ายแบบประกันไมโครอินชัวรันซ์ในโครงการ "ออลอินชัวรันซ์"
ในเบื้องต้นได้มี 4 บริษัทประกันวินาศภัยและ 1 บริษัทประกันชีวิต เข้าร่วมโครงการนี้ โดยจับมือเป็นพันธมิตรกับเคาน์เตอร์เซอร์วิสในการเป็นช่องทางจำหน่ายแบบประกันในลักษณะไมโครอินชัวรันซ์ที่ค่าเบี้ยไม่สูง เข้าใจง่าย เงื่อนไขไม่ซับซ้อน ไม่ต้องคอยตอบคำถาม ซึ่งจะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การผลักดันให้ประกันภัยเข้าถึงตลาดผู้บริโภคได้ในวงกว้างและเป็นเครื่องมือในการดูแลสวัสดิภาพของประชาชนได้อย่างทั่วถึง
ทั้งนี้ กรมธรรม์ที่เริ่มวางขายแล้วประกอบด้วย "เที่ยวทั่วไทย" เป็นประกันภัยการเดินทางจาก บมจ.เมืองไทยประกันภัย ที่ให้เลือก 2 รูปแบบ คือ คุ้มครอง 1-5 วัน ค่าเบี้ย 120 บาท และแบบคุ้มครอง 6-10 วัน ค่าเบี้ย 200 บาท โดยทั้งสองแบบจะคุ้มครองกรณีเสียชีวิตในอุบัติเหตุระหว่างเดินทางท่องเที่ยววงเงิน 200,000 บาท และมีวงเงินค่ารักษาพยาบาลกรณีอุบัติเหตุอีก 10,000 บาท
แบบประกันอุบัติเหตุ (Personal Accident) ในชื่อ "PA อุ่นใจ" รับประกันโดย บมจ.กรุงเทพประกันภัย คุ้มครองกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 100,000 บาท ในปีแรก และหากซื้อต่อเนื่องในปีถัดไปจะได้รับเพิ่มวงเงินคุ้มครองอีก 25,000 บาท/ปี สูงสุดคือ 5 ปี ซึ่งจะเท่ากับได้วงเงินคุ้มครองถึง 200,000 บาท ในราคาเบี้ยเท่าเดิม 490 บาททุกปี นอกจากนี้ กรมธรรม์ยังมีความคุ้มครองภาระหนี้สินให้พิเศษอีก 50,000 บาท
ประกันอัคคีภัยเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่เข้าร่วมรายการ โดย บมจ.อลิอันซ์ ซี.พี. ประกันภัย เป็นเจ้าของกรมธรรม์ "ประกันอัคคีภัย ไมโครอินชัวรันซ์" โดยให้ความคุ้มครองตัวบ้านสูงสุดถึง 500,000 บาท ด้วยค่าเบี้ยประกันเพียง 500 บาท/ปี จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับบ้านที่อยู่อาศัยจะสามารถสร้างความคุ้มครองแก่ทรัพย์สินได้ง่ายๆ และทำได้เอง โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัดที่สัดส่วนการทำประกันอัคคีภัยยังค่อนข้างน้อย
ปิดท้ายฝั่งประกันวินาศภัยด้วย "ไทยวิวัฒน์ มะเร็ง ใจป้ำ" แบบประกันโรคมะเร็งจาก บมจ.ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ที่ให้ความคุ้มครองกรณีตรวจพบว่าเป็นมะเร็งโดยคำวินิจฉัยของแพทย์ ผู้เอาประกันจะได้รับเงินประกันทันที 50,000 บาท และยังได้รับเงินรายเดือนอีก เดือนละ 2,000 บาท เป็นเวลา 10 เดือน รวมผลประโยชน์ทั้งสิ้น 70,000 บาท ค่าเบี้ยประกันเท่ากับชื่อเซเว่นอีเลฟเว่น (7-11) ก็คือ 711 บาท/ปี
ขณะที่ประกันชีวิตก็นำร่องมาเพียงบริษัทเดียวคือ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต ที่ออกกรมธรรม์ "เมืองไทย สุดคุ้ม" เป็นประกันชีวิตแบบชั่วเวลา จ่ายเบี้ยปีละ 1,000 บาท ต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี ตลอดสัญญาจะได้รับความคุ้มครองประกันชีวิตวงเงินสูงสุด 270,000 บาท (ขึ้นอยู่กับอายุของผู้เอาประกัน) รับประกันตั้งแต่อายุ 15-65 ปี รับประกันง่ายโดยไม่ต้องตรวจสุขภาพ แต่จะมีคำถามสุขภาพสั้นๆ เพียง 3 ข้อ
ทั้งนี้ ในขั้นตอนการซื้อสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงลูกค้าแจ้งแบบประกันที่ต้องการซื้อและแสดงบัตรประชาชนแบบแถบแม่เหล็กในเครื่องรับบัตร (EDC) พร้อมกับป้อนหมายเลขโทรศัพท์มือถือ จากนั้นชำระเงิน รอรับ SMS ยืนยันการทำประกันภัย และเก็บสลิปการชำระเงินไว้เป็นหลักฐาน ก็เสร็จสิ้นกระบวนการ ลูกค้าได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ทันที
"โครงการนี้เรามองว่าธุรกิจประกันภัยคงไม่ได้มุ่งหวังจะหาผลกำไรอย่างเป็นกอบเป็นกำ เพราะแนวคิดของไมโครอินชัวรันซ์จะคิดค่าเบี้ยค่อนข้างต่ำอยู่แล้ว การร่วมมือในโครงการนี้เป็นความมุ่งหวังที่จะทำให้ประชาชนทั่วประเทศเริ่มเข้าถึงและเข้าใจการประกันภัย ตลอดจนตระหนักถึงการป้องกันความเสี่ยงมากขึ้น จากนั้นถ้าเริ่มเห็นประโยชน์ และอยากซื้อมากกว่านี้ก็อาจจะขยับไปซื้อกรมธรรม์ปกติได้ โดยปีแรกของโครงการได้ตั้งเป้าหมายกรมธรรม์ไว้ประมาณ 3 แสนฉบับ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในขั้นแรกได้ดี" นายประเวช กล่าว
.jpg)
ข่าวเด่น