กองทุนรวม
"บลจ.กรุงศรี" คาดหุ้นไทยไป 1,800 จุด เล็งออกทาร์เก็ตฟันด์ ดัน AUM แตะ1.85แสนล้าน


  

 

 

นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปี 2556 ยังมีทิศทางปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยประเมินว่าจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบแนวรับ 1,300-1,350 จุด ส่วนแนวต้านมีโอกาสพุ่งขึ้นไปสูงถึง 1,800 จุด ซึ่งคิดเป็นอัตราความผันผวนอยู่ที่ราว 30%


ทั้งนี้ สาเหตุที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นมาก เป็นเพราะได้รับแรงหนุนจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดย บลจ.กรุงศรี คาดว่าในปีนี้จีดีพีไทยจะมีโอกาสจะขยายตัวประมาณ 6.7% ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยบวกจากการอนุมัติงบลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ซึ่งหากเสร็จสิ้นไม่เกินไตรมาส 2/56 นี้ จะยิ่งส่งผลดีต่อจิตวิทยาการลงทุนมากขึ้นด้วย

"ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสทีี่จะปรับตัวขึ้นไปได้ถึง 1,800 จุด ซึ่งภาวะการลงทุนที่ดีแบบนี้ หลาย บลจ.อาจจะหาจังหวะออกกองทุนประเภท ทริกเกอร์ และ ทาร์เก็ตฟันด์ ขึ้นมาก็ได้ เพราะมีโอกาสที่จะสร้างกำไรให้กับนักลงทุนได้เร็ว ซึ่ง บลจ.กรุงศรี ก็คงจะออกด้วย แต่จะพยายามหาจังหวะเปิดกองทุนอย่างระมัดระวัง เพราะต้องยอมรับว่าความผันผวนก็ยังมีอยู่มาก"นายประภาสกล่าว

 
 
 
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงศรี กล่าวว่า แนวโน้มการขยายตัวทางธุรกิจในปีนี้จะยังคงสดใส โดยบริษัทตั้งเป้าว่าจะมีสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหารจัดการ (Asset under management:AUM) อยู่ที่ราว 1.85 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่อยู่ 1.53 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 20% 
 
ทั้งนี้ การปรับตัวขึ้นดังกล่าวจะมาจากหลายส่วน เช่น การออกกองทุนใหม่ ทั้งทริกเกอร์-ทาร์เก็ตฟันด์ ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นไทยโดยมีเป้าหมายสร้างอัตราผลตอบแทนให้ได้ตามระยะเวลาที่กำหนด เนื่องจากพบว่าปัจจุบันกองทุนดังกล่าวยังคงได้รับความนิยมสูงตามภาวะตลาดหุ้นที่มีแรงซื้อขายคึกคัก

นอกจากนี้ บริษัทจะพิจารณาออกกองทุนใหม่ เช่น กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้เกณฑ์กองทรัสต์เพื่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ (REIT:Real Estate Investment Trust) ซึ่งจะลงทุนในกองทุนหลักเพียงกองเดียวที่ิอยู่ในต่างประเทศ โดยคาดว่าน่าจะสร้างผลตอบแทนได้ดี เพราะค่าเฉลี่ยของกองทุนอสังหาฯตามปกติก็อยู่ที่ประมาณ 7-8% แล้ว จึงถือว่าน่าพึงพอใจสำหรับนักลงทุนในขณะนี้

พร้อมกันนี้ บลจ.กรุงศรี จะผสานความร่วมมือกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา เพื่อใช้สาขาที่มีเป็นช่องทางจัดจำหน่ายให้มากขึ้น เพราะจะเห็นได้ว่าในปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทมี AUM ราว 1.53 แสนล้านบาทนั้น คิดเป็นการขายผ่านช่องทางสาขาเพียงประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ดังนั้นจึงแสดงให้เห็นว่ายังมีโอกาสที่จะขยายตัวได้อีก
      

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 20 ก.พ. 2556 เวลา : 09:59:00
23-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 23, 2024, 9:25 pm