ในคืนวันที่ 14 มีนาคม ณ Radio City Music Hall ณ นครนิวยอร์กของสหรัฐ “ซัมซุง” ผู้ผลิตมือถือสัญชาติเกาหลีใต้ได้เปิดตัว “Samsung Galaxy S4” ที่หลายคนรอคอยออกมาแล้ว ซึ่งนับว่าไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะมาพร้อมฟังก์ชั่นใหม่ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบาย ความสนุกและความสุขให้กับผู้ใช้ สมกับคอนเซ็ปต์ที่หวังให้เพื่อนคู่กายของผู้ใช้ในโลกยุคใหม่

นายไรอัน ไบดัน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ของซัมซุงรับหน้าที่นำสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ที่พกพาความสามารถมาเพียบแก่สาวก ที่ตั้งตาคอยอย่างใจจดจ่อ
มาดู สเปคของ Galaxy S4 กันว่าเป็นอย่างไรบ้าง
- หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5" ความละเอียด 441 ppi
-เด่นด้านความบางและเบา โดยบางแค่ 7.9 มม. หนักแค่ 130 กรัม พร้อมขอบโลหะที่ช่วยให้เครื่องแข็งแรง เคส ทำจากวัสดุโพลีคาร์บอเนต
-ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 Jelly Bean
-รองรับ 3G และ 4G LTE พร้อมให้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายด้วย WiFi a/b/g/n/ac และ Bluetooth 4.0 และยังมี IR LED ซึ่งจะทำให้สามารถใช้งาน Galaxy S4 เป็นเสมือนรีโมทคุมทีวีหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ได้
- กล้องหลัง 13 ล้านพิเซล กล้องหน้า 2 ล้านพิเซล
-แบตเตอรี่ขนาด 2,600 mAh
ตัวอย่างฟังก์ชั่นที่โดดเด่น มีดังนี้

กล้องแบบ Dual กล้องที่ทำงานได้เยี่ยมกว่าเดิม ตรงที่กล้องหน้าและหลังทำงานพร้อมกันได้ จึงได้ภาพของผู้ถ่ายพร้อมคนที่อยู่ข้างหน้าในชอตเดียวกัน เมื่อได้ภาพออกมาแล้ว ฟังก์ชั่น ERASOR ยังช่วยให้ลบส่วนที่ไม่ต้องการออกได้เพียงปลายนิ้ว Sound & Shot ยังช่วยอัดเสียงเข้าไปในภาพได้ด้วย ซึ่งเมื่อเปิดภาพดูจะมีเสียงที่เราบันทึกไว้ออกมาให้ได้ยิน แถมยังจัดอัลบั้มให้สวยงามให้ได้อีกผ่าน Story Album พร้อมแชร์ให้เพื่อนบนสังคมออนไลน์ชม

สำหรับฟังก์ชัน Air View ซึ่งจะคล้ายกับ S-Pen ใน Galaxy Note 2 ที่สามารถให้เข้าดูคอนเท็นต์ได้โดยไม่ต้องแตะหน้าจอ โดยใช้นิ้วมือจ่อบนหน้าจอแทน หรือจะใช้วิธีขยับมือ โบกมือ เพื่อใช้งานต่าง ๆ ผ่านฟังก์ชั่น Air Gesture ก็ได้ เช่น เลื่อนหน้าจอ เปลี่ยนภาพ หรือท่องเว็บ แม้สวมถุงมือก็สามารถใช้สมาร์ทโฟนฉลาดนี้ได้ (Glove Friendly)
นอกจากตรวจจับความเคลื่อนไหวมือและนิ้วมือได้แล้ว ฟังก์ชั่น Smart Scroll และ Pause ยังช่วยจับการเคลื่อนไหวของตาได้ด้วย โดยหากตาไม่ได้จ้องดูวีดีโอบนหน้าจอ มันจะหยุดทำงานและเล่นต่อเมื่อเราหันกลับมามอง ขณะเดียวกันหน้าจอยังปรับการแสดงผลอัตโนมัติตามแสงของสภาพแวดล้อมด้วยฟังก์ชั่น Adapt Display

ส่วน S Voice Drive เป็นแผนที่นำทางในรถยนต์รองรับการสั่งการด้วยเสียง ทำให้เราสามารถสั่งงานผ่านบลูทูธให้อ่าน SMS หรือให้ตอบข้อความหรือโทรกลับขณะขับได้
ที่พิเศษอีกอย่างหนึ่งได้แก่ S Translator เหมาะมากสำหรับคนที่เดินทางต่างแดนบ่อยครั้ง หรือผู้พิการทางการได้ยิน เพราะมันจะช่วยแปลภาษาให้เราได้ถึง 9 ภาษาด้วยกัน โดยแปลเสียงเป็นข้อความและแปลข้อความเป็นเสียง เรียกว่า พกสมาร์ทโฟนคู่กายนี้ไปไหนด้วยเป็นอุ่นใจทำให้สามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้ง่ายขึ้น

นอกเหนือจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นเพื่อสุขภาพ S Health หรือการช่วยซิงค์อุปกรณ์อื่น ๆ พร้อมกันได้ 8 อุปกรณ์ อัดแน่นในสมาร์ทโฟนใหม่นี้
จะเห็นได้ว่า Galaxy S4 มีทีเด็ดหลายอย่าง ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่กำลังคิดจะซื้อ iPhone 5 เปลี่ยนใจก็เป็นได้ เพราะมีหลายอย่างที่เด่นกว่า อีกไม่นานจะเข้าตลาดแล้ว คาดว่าจะเป็นราวเดือนเมษายนนี้ ส่วนสนนราคาในไทยคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาทขึ้นไป
ข่าวเด่น