เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
กรุงศรีฯฟันธงปีนี้เห็นแน่ "เงินบาท"ทะลุ 29.00 บาทต่อดอลลาร์ แนะผู้ส่งออกรีบตั้งการ์ดป้องกันความเสี่ยง


กรุงศรีฯจับเทรนด์เงินบาท ใกล้จ่อระด้บ 29.30 บาทต่อดอลลาร์ เชื่อภายในปีนี้มีสิทธิ์เห็นทะลุระดับ 29.00 บาทต่อดอลลาร์ แนะผู้ส่งออกรีบตั้งการ์ดป้องกันความเสี่ยง และเพิ่มศักยภาพแข่งขัน

นายตรรก บุนนาค ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านบริหารการเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ผลจากการแข็งค่าของเงินบาทในช่วงนี้ เริ่มเป็นประเด็นอีกครั้งหลังจากแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 29.39 บาท/ดอลลาร์ (19 มี.ค.56) ซึ่งถือว่าแข็งค่าที่สุดในรอบ 28 เดือน และเชื่อมีโอกาสที่จะขยับไปถึง 29.30 บาท/ดอลลาร์ และ 29.00 บาท/ดอลลาร์ ได้ภายในปีนี้

"ธนาคารประเมินว่าทิศทางของเงินบาทก็ยังอยู่ในแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง จากปัจจัยเศรษฐกิจที่ยังขยายตัวได้ดี และบัญชีการชำระเงินของไทยที่ยังเกินดุลอยู่ค่อนข้างมาก ทำให้เชื่อมั่นว่าจะยังมีนักลงทุนเข้ามาลงทุนและเก็งกำไรจากค่าเงินบาทอยู่ค่อนข้างมากหลังจากที่เกิดขึ้นในช่วงเดือน ม.ค. มาแล้วครั้งหนึ่ง และในเดือนมี.ค. ก็เริ่มเห็นสัญญาณการเข้าถือเงินบาทเพื่อเก็งกำไรมากขึ้นเรื่อยๆ แต่คงตอบได้ยากว่านักลงทุนจะเทขายในช่วงไหน"

เขากล่าวอีกว่า ทิศทางของเงินบาทตั้งแต่ต้นปี จนถึงวันที่ 15 มี.ค. 2556 แข็งค่ามาแล้ว 3.27% ถือว่าแข็งค่าเร็วที่สุดเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค จึงเป็นภาระหนักสำหรับกลุ่มธุรกิจด้านการส่งออกที่จะต้องเผชิญปัญหาด้านความสามารถในการแข่งขันเมื่อเทียบกับประเทศอื่นที่ค่าเงินแข็งค่าน้อยกว่า

แนวทางในเวลานี้ธนาคารพยายามแนะนำให้ผู้ประกอบการที่มีธุรกรรมเป็นสกุลต่างประเทศเริ่มปิดความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันลูกค้าธุรกิจรายใหญ่จะป้องกันความเสี่ยงมากกว่า 50% ของมูลค่าธุรกรรมที่เป็นเงินสกุลต่างประเทศ ขณะที่ธุรกิจเอสเอ็มอีกลับตื่นตัวในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนน้อยกว่า เพราะประเมินว่าจะทำให้ธุรกิจเสียโอกาสในการทำกำไรในจังหวะที่ค่าเงินอ่อนลงบางช่วงเวลา

อย่างไรก็ตาม ในรายที่ลูกค้ายืนยันจะไม่ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ธนาคารก็จะพยายามให้ข้อมูลเป็นการแนะนำจังหวะการซื้อ-ขายเงินสกุลต่างประเทศว่าในแต่ละช่วงเวลาน่าจะมีแนวโน้มเป็นอย่างไร รวมถึงระดับที่ผู้ประกอบการต้องติดตามต่อไปด้วย  เช่น หากหลุดระดับ 29.50 บาท/ดอลลาร์ ถือว่าเป็นระดับที่สำคัญ ถ้าหลุดไปแล้วก็น่าจะย้อนกลับมาแตะระดับที่เหนือกว่านี้อีกได้ยาก ธุรกิจมีความพร้อมจะรองรับสถานการณ์เหล่านี้อย่างไร และเมื่อเทียบกับคู่แข่งในประเทศอื่นๆ ที่อาจจะแข็งค่าน้อยกว่าเงินบาทแล้วจะสู้ได้หรือไม่ เป็นต้น 

นอกจากนี้ เขายังแนะนำว่าในจังหวะเช่นนี้ธุรกิจอาจจะต้องเริ่มพิจารณาการปรับลดต้นทุนส่วนอื่นๆ ลงเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันชดเชยกับการแข็งค่าของเงินบาทอีกด้วย


LastUpdate 19/03/2556 10:47:54 โดย : Admin
24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 12:21 pm