แม้ว่าจะหายจากการทำตลาดผ่านสื่อไปนานถึง 5 ปี แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าฮิตาชิก็ไม่ได้มียอดขายหายไปเหมือนกับหน้าจอสื่อ ในทางตรงกันข้ามฮิตาชิกลับมียอดขายในด้านของมูลค่าขึ้นเป็นที่ 1 เกือบทุกรายการสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ เครื่องฟอกอากาศ และ หม้อหุ้งข้าว
สำหรับการกลับมาทำตลาดผ่านสื่อของฮิตาชิในครั้งนี้ นอกจากจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าทำตลาด ฮิตาชิยังมีแผนที่จะนำสินค้าที่ผลิตจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภคชาวไทย เนื่องจากสินค้าที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่นจะมีเทคโนโยลีที่ทันสมัย และมีภาพลักษณ์ที่สวยงาม เหมาะกับการใช้งาน
หลังจากเริ่มทดลองนำผลิตภัณฑ์จากญี่ปุ่น หรือ Made in Japan Models เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเมื่อปีที่ผ่านมา ปรากฎว่าได้ผลการตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทย จึงทำให้ปีนี้ฮิตาชิมีแผนที่จะนำผลิตภัณฑ์จากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาทำตลาดเพิ่ม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคชาวไทย และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด
ผลิตภัณฑ์ที่ฮิตาชิจะนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยปีนี้ มีด้วยกัน 5 กลุ่มสินค้า ประกอบด้วย ตู้เย็น , เครื่องซักผ้า, ตู้อบไมโครเวฟ, เครื่องฟอกอากาศ และ หม้อหุงข้าว ซึ่งในส่วนของราคาขาย ฮิตาชิยอมรับว่า ยังคงสูงกว่าสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย เฉลี่ยที่ประมาณ 15%-500% โดยในส่วนของตู้เย็นมีราคาสูงกว่าที่ผลิตในประเทศไทย 40% ขณะที่เครื่องซักผ้าจะมีราคาสูงกว่า 15-20% ไมโครเวฟสูงกว่า 5 เท่า เครื่องฟอกอากาศราคาสูงกว่า 10% และหม้อหุ้งข้าวราคาสูงกว่า 300%
นายบุญชัย พุทธาโกฐิรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ฮิตาชิเชลล์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าราคาขายจะสูงแต่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาลูกค้าให้ความสนใจผลิตภัณฑ์จากญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัด สังเกตได้จากดีลเลอร์ใน จ.อุบลราชธานี สามารถขายไมโครเวฟได้ 3-5 เครื่องในวันเดียว แม้ว่าราคาจะสูงกว่าปกติ
ในด้านการทำตลาดผลิตภัณฑ์จากญี่ปุ่น ฮิตาชิจะใช้ช่องทางทั้งห้างค้าปลีกและร้านตัวแทนจำหน่ายจัดเป็นคอนเนอร์เฉพาะสำหรับจำหน่ายสินค้ากลุ่มดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันฮิตาชิสามารถขยายคอนเนอร์ผลิตภัณฑ์จากญี่ปุ่นได้แล้วประมาณ 60-80 แห่ง สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเปิดคอนเนอร์ได้ประมาณ 30 แห่ง โดยคอนเนอร์ส่วนใหญ่อยู่ในตลาดต่างจังหวัด
สำหรับภาพรวมของการทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของฮิตาชิในปีนี้ จะเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าทำตลาด ประมาณ 50 รุ่น แบ่งเป็น กลุ่มตู้เย็น 12 รุ่น, เครื่องปรับอากาศ 4 รุ่น, เครื่องซักผ้า 25 รุ่น, เครื่องดูดฝุ่น 4 รุ่น และหม้อหุงข้าว 5 รุ่น
นอกจากนี้ ฮิตาชิ ยังมีแผนที่จะใช้งบกว่า 1,000 ล้านบาท ในการทำกิจกรรมทางการตลาดและโฆษณาผ่านสื่อสินค้าในเครือทุกรายการ เพื่อสร้างแบรนด์สินค้าให้เป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะสินค้านวัตกรรมใหม่ ซึ่งงบประมาณที่เตรียมไว้ดังกล่าว ถือว่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ใช้ไปประมาณ 800 ล้านบาท
นายบุญชัยกล่าวว่า กลุ่มสินค้าที่ฮิตาชิจะเน้นทำตลาดเป็นพิเศษ จะเป็นกลุ่มเครื่องปรับอากาศ เพราะปัจจุบันฮิตาชิยังมีส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มสินค้าดังกล่าวน้อยมาก เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดที่มีส่วนแบ่งค่อนข้างสูงและใกล้เคียงกัน ซึ่งกลยุทธที่ฮิตาชิจะนำมาทำตลาดในครั้งนี้ จะเป็นเทคโนโลยีอากาศอัจฉริยะ “สแตนเลสคลีน” หรือการใช้สแตนเลสคุณภาพสูงเป็นส่วนประกอบภายในถึง 3 ส่วน มาประกอบในตัวเครื่อง ทั้งแผ่นกรองนาโนไททาเนียม สแตนเลส ฟรีฟิลเตอร์ ช่องปล่อยลม และบานสวิง ช่วยลดการสะสมของฝุ่นและแบคทีเรีย
จากการออกมารุกทำตลาดดังกล่าว ส่งผลให้ปีนี้ฮิตาชิต้องออกมาใช้งบการตลาดเครื่องปรับอากาศสูงถึง 200 ล้านบาท โดยสิ้นปีฮิตาชิคาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดเครื่องปรับอากาศเพิ่มเป็น 7-8% จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่เพียง 5% เท่านั้น
สำหรับในส่วนของตู้เย็น ปีนี้ฮิตาชิจะเน้นทำตลาดตู้เย็น ไซด์ บาย ไซด์ ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีประหยัดพลังงานได้สูงกว่า 30% เมื่อเทียบกับตู้เย็นไซด์ บาย ไซด์ ในรุ่นเดียวกัน เนื่องจากฮิตาชิยังมีเทคโนโลยีที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของฮิตาชิ โฟรส์ท รีไซเคิล คูลลิ่ง ที่ผสมผสานกับระบะอินเวสเตอร์ ซึ่งหลังจากเปิดตัวสินค้าใหม่ คาดว่าสิ้นปีจะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 25% จากปัจจุบันมี 23%
ขณะที่เครื่องซักผ้า เครื่องดูดฝุ่น และหม้อหุ้งข้าว ฮิตาชิก็จะพัฒนาสินค้าเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยในส่วนของเครื่องซักผ้าจะเน้นไปที่ระบบถนอมผ้าและการปั่นหมาด คาดสิ้นปีจะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 16-18% จากปัจจุบันมีอยู่ที่ 15%
ในส่วนของเครื่องดูดฝุ่นจะชูธงในด้านของพลังดูดไซโคลน คาดสิ้นปีจะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็นที่น่าพอใจ จากปัจจุบันมีอยู่ที่ 17-19% และหม้อหุ้งข้าวจะชูจุดเด่นด้วยระบบฟัซซี่คอนโทรล ซึ่งพัฒนามาเป็นพิเศษ เพื่อให้เหมาะกับการหุ้งข้าวหอมมะลิของไทยให้มีความอร่อยมากกว่าการหุ้งในหม้อทั่วไป
หลังจากออกมารุกทำการตลาดสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอย่างต่อเนื่อง ฮิตาชิคาดว่าสิ้นปีบัญชี 2556 (เม.ย.56-มี.ค.57) น่าจะมียอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% สูงกว่าภาพรวมตลาดที่สิ้นปีนี้คาดว่าจะเติบโต 10% จากมูลค่า 60,000 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา
ขณะที่ปีรอบบัญชี 2555 (เม.ย.55-มี.ค.56) ฮิตาชิมียอดขายเติบโตสูงถึง 30-40% แม้ว่าช่วงต้นปีจะยังประสบปัญหาผลกระทบด้านปัญหาน้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปี 2554 แต่เนื่องจากฮิตาชิออกมาทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาด รวมไปถึงการได้รับความร่วมมือที่ดีจากดีลเลอร์กว่า 900 รายทั่วประเทศ จึงทำให้ฮิตาชิกลับมายืนผงาดได้พร้อมรุกทำตลาดอย่างเต็มสูบอีกครั้งในปีนี้.
ข่าวเด่น