น้ำดื่มถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่ยังคงมีการแข่งขันกันรุนแรง เพราะถือเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีพของผู้บริโภค และจากการเป็นสินค้าที่มีความจำเป็น ส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายรายให้ความใจเข้าสู่สมรภูมิน้ำดื่ม โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนนี้ ซึ่งถือเป็นช่วงหน้าขายของน้ำดื่ม
ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาตลาดน้ำดื่มมีอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างสูงเฉลี่ยที่ประมาณ 20-30% ต่อปี ส่งผลให้ปัจจุบันตลาดน้ำดื่มมีมูลค่าสูงถึง 23,000 ล้านบาท ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องไม่น่าแปลกใจว่าทำไมผู้ประกอบการหลายรายให้ความสนใจเข้ามาทำตลาดน้ำดื่มกันมากขึ้น
นอกจากจะมีแบรนด์หลักๆ ดำเนินการขับเคลื่อนตลาดให้เติบโตอย่างต่อเนื่องแล้ว แบรนด์ย่อยๆ ที่มีอีกนับไม่ถ้วน ซึ่งเกิดจากการที่แต่ละองค์กรโดดลงมาผลิตน้ำดื่มของตัวเอง ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ทำตลาดน้ำดื่มมีฐานตลาดที่ใหญ่ขึ้น
จากจำนวนน้ำดื่มเฮ้าส์แบรนด์ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้แบรนด์หลักในตลาดต้องออกมาป้องกันแชร์ของตัวเองมากขึ้น จากเดิมจะออกมาปกป้องแชร์เฉพาะจากคู่แข่งแบรนด์หลักในตลาดเท่านั้น
นายฐิติวุฒิ์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและทำตลาดน้ำดื่ม "คริสตัล" กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะเดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมแคมเปญน้ำดื่มอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวแคมเปญ “ดูดีสไตล์อิตาลีได้ทุกขวด" เข้าสร้างสีสันให้กับตลาดน้ำดื่ม ด้วยการจับมือกับศิลปินชื่อดัง อย่างครูปาน สมนึก คลังนอก ในการดีไซน์เวสป้า รุ่นคริสตัล ลิมิเต็ดเอดิชั่น ดีไซน์ลายเส้นสไตล์อิตาลี 2 ดีไซน์ มอบเวสป้า รุ่นคริสตัล ลิมิเต็ดเอดิชั่น 30 คัน รวมมูลค่ากว่า 3,315,000 บาท
หลังจากออกมาทำกิจกรรมการตลาดในรูปแบบดังกล่าว เสริมสุขมั่นใจว่าจะสามารถผลักดันให้ยอดขายน้ำดื่มคริสตัลในปีนี้มีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 25% และมีส่วนแบ่งการตลาดในตลาดน้ำดื่มเพิ่มอีก 3% จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 16% เป็นอันดับ 2 ในตลาดรองจากน้ำสิงห์
นายฐิติวุฒิ์กล่าวว่า จากการเป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรมแคมเปญการตลาดและส่งเสริมการขายในตลาดน้ำดื่ม คุณภาพของผลิตภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยในปีก่อนหน้าได้แนะนำบรรจุภัณฑ์แบบใหม่คริสตัลขนาด 1 ลิตร ออกสู่ตลาด ปรากฎว่าได้ผลการตอบรับที่ดีจากลูกค้าในช่องทางร้านอาหารเป็นอย่างดี จากปกติผลิตภัณฑ์หลักที่มียอดขายสูงสุดจะเป็นผลิตภัณฑ์ขนาดบรรจุ 600 มิลลิลิตร ซึ่งจากการรุกทำตลาดอย่างหนักดังกล่าว มั่นใจว่าภายใน 3 ปีนับจากนี้จะสามารถผลักดันน้ำดื่มคริสตัลขึ้นเป็นผู้นำในตลาดน้ำดื่มได้อย่างแน่นอน
ด้านน้ำดื่มช้าง ปีนี้ก็ขอบุกหนักตลาดน้ำดื่มเช่นกัน เพราะปัจจุบันน้ำดื่มช้างยังมีส่วนแบ่งการตลาดในตลาดน้ำดื่มน้อยมาก เมื่อเทียบกับคู่แข่งสายพันธ์เดียวกันอย่างน้ำสิงห์ ซึ่งยังคงครองความเป็นผู้นำตลาดน้ำดื่ม ด้วยส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 20%
นายสรกฤต ลัทธิธรรม ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มตราช้าง บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำดื่ม “ช้าง” กล่าวว่า แผนการทำตลาดน้ำดื่มช้างในปีนี้ บริษัทจะเน้นการทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีภายใต้งบการตลาดรวมประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อสร้างแบรนด์ของน้ำดื่มช้างให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วนของแผนการทำตลาดในไตรมาส 2 นี้ บริษัทจะเน้นไปที่การสร้างการรับรู้ของแบรนด์ตราช้าง ผ่านกลยุทธ์มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง ซึ่งล่าสุดได้เตรียมจัดงาน “Chang Fest”เทศกาลดนตรีกลางฤดูร้อน “อากาศแบบนี้ มันน่าร็อคอ่ะ” เป็นคอนเสิร์ตครั้งยิ่งใหญ่ครั้งแรกของปี 2556 ผ่านงบประมาณ 100 ล้านบาท ด้วยการดึงวงดนตรีชั้นนำ 4 วง คือ บอดี้แสลม ,โปเตโต้ ,บิ๊กแอส และพาราด็อกซ์ มาเล่นคอนเสิร์ต เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ซึ่งงานดังกล่าวจะจัดขึ้นวันที่ 27 เม.ย.นี้ ที่ริมทะเลสาป เมืองทองธานี โดยภายในงานบริษัทคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 20,000 คน
ขณะที่ไตรมาส 3 บริษัท ไทยเบฟฯมีแผนที่จะต่อยอดการทำกิจกรรมการตลาด ด้วยกลยุทธ์สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง โดยในเดือนส.ค. จะมีการดึงทีมฟุตบอล “บาร์เซโลน่า” เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการทำตลาดน้ำดื่มในประเทศไทย ซึ่งหลังจากที่ออกมาทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง บริษัท ไทยเบฟฯคาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลข 2 หลัก และผลักดันให้มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็นที่น่าพอใจ จากปัจจุบันน้ำดื่มช้างมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 10% อยู่ในอันดับที่ 5 ของตลาดรวมน้ำดื่ม
นายสรกฤตกล่าวว่า ภาพรวมตลาดน้ำดื่มในช่วงหน้าร้อนนี้ บริษัทคาดว่าจะมีการเติบโตสูงถึง 30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติที่จะมีการเติบโตประมาณ 10% เนื่องจากสภาพอากาศร้อนมากขึ้น ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไปคือ หันมาซื้อน้ำดื่มประเภทบรรจุขวดบริโภคมากขึ้น จึงส่งผลให้ตลาดน้ำดื่มมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้น
จากการออกมารุกตลาดน้ำดื่มมากขึ้น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจหลักของบริษัท ไทยเบฟฯ ในกลุ่มเครื่องดื่มนอนแอลกอฮอล์ (ปราศจากแอลกอฮอล์) บริษัท ไทยเบฟฯ มั่นใจว่าปีนี้จะสามารถสร้างการเติบโตให้กับกลุ่มธุรกิจดังกล่าวได้ในตัวเลข 2 หลัก
ในด้านของเจ้าตลาดน้ำดื่มอย่าง น้ำดื่มสิงห์ แม้จะยังไม่ออกมาเปิดแผนธุรกิจในปีนี้อย่างจริงจัง แต่จากการออกมาทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างดต่อเนื่อง ทั้งกลยุทธมิวสิค มาร์เก็ตติ้ง และสปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง ก็ยังคงทำให้น้ำดื่มสิงห์สามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดน้ำดื่มไว้ได้อย่างเหนี่ยวแน่น
ประกอบกับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงปีทีผ่านมา ซึ่งเคยประกาศไว้ว่าจะมีการขยายโรงงานน้ำดื่มเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง ภายใต้งบลงทุนประมาณ 500-600 ล้านบาทต่อโรงงาน น่าจะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับการเพิ่มยอดขายน้ำดื่มสิงห์
นอกจากกลยุทธในด้านของการทำกิจกรรมทางการตลาดที่ผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับการทำตลาดน้ำดื่มแล้ว ในด้านของบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการมีความหลากหลายถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธที่ผู้ประกอบการในตลาดน้ำดื่มงัดออกมาใช้ เพราะแต่ละขนาดของบรรจุภัณฑ์ก็มีกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสม
ปัจจุบันขนาดของขวดน้ำดื่ม (PET) มีหลายขนาดให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อ เริ่มตั้งแต่ขนาด 250, 300, 350, 500, 600, 750, 1000 และ 1500 ซีซี. นอกจากนี้ยังเพิ่มในส่วนของบริการจัดส่งถึงบ้านเมื่อโทรสั่ง เรียกได้ว่าอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าอย่างเต็มที่
อีกหนึ่งช่วงเวลาที่น่าจะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับผู้ประกอบการน้ำดื่มคือ เทศกาลสงกรานต์ที่ใกล้จะถึงในเร็ววันนี้ แม้เป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่จากความต้องการที่มีมากขึ้นของเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวที่ต้องการความสดชื่นจากน้ำ และน้ำดื่มก็เป็นอีกทางเลือกที่ผู้บริโภคเลือก เนื่องจากมีความสะดวกในการพกพาสำหรับการท่องเที่ยวในเทศกาลสงกรานต์ แต่ใครจะโกยยอดขายได้มากหรือน้อย คงต้องขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งตัวการกระจายสินค้าว่าจะครอบคลุ่มกลุ่มเป้าหมายได้มากน้อยแค่ไหน.
ข่าวเด่น