หลังจากเดือน พ.ค.2556 "ทรูวิชั่นส์" จะหมดสัญญาการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2012/2013 ส่งผลให้ทรูวิชั่นส์ต้องปรับกระบวนทัพการทำตลาดใหม่ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่ประมาณ 2 ล้านราย ซึ่งหลังจากพลาดท่าเสียทีหลุดการประมูลฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปลายปีนี้ ทรูวิชั่นส์ก็ออกมายอมรับว่าสมาชิกส่วนหนึ่งเสียความรู้สึก
ด้วยเหตุนี้ "ทรูวิชั่นส์" จึงต้องออกมาทุ่มงบลงทุนครั้งใหญ่อีกครั้ง สำหรับการปรับระบบการออกอากาศและซื้อคอนเทนท์คุณภาพจากต่างประเทศเข้ามาออกอากาศเพิ่มเติม เพื่อดึงความสนใจของลูกค้าให้อยู่เป็นสมาชิกต่อไป ขณะเดียวกันก็มีแย้มๆ มาว่าสนใจที่จะดึงการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกบางรายการจากซีทีเอช ซึ่งเป็นผู้ได้รับสิทธิ์รายล่าสุดมาออกอากาศในทรูวิชั่นเหมือนเดิม โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งก็ยังไม่ได้มีความคืบหน้าหรือข้อสรุปใดๆ ในตอนนี้
นายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความคืบหน้าของการเจรจากับบริษัท เคเบิลไทยโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ซีทีเอช ผู้ได้รับลิขสิทธิ์ฟุตบอลอังกฤษพรีเมียร์ลีก เพื่อขอสิทธินำการแข่งขันบางรายการมาออกอากาศนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับการตอบรับกลับมาแต่อย่างใด เชื่อว่าทางซีทีเอชยังไม่พร้อมที่จะเจรจาในเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทรูวิชั่นได้ดำเนินการวางยุทธศาสตร์ เพื่อรองรับการทำตลาดในอนาคตหลังสัญญาการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษจบลง ด้วย 5 กลยุทธหลัก ฃประกอบด้วย 1. ด้านรายการ มุ่งมั่นพัฒนา สรรหารายการคุณภาพ ทั้งจากไทยและต่างประเทศมานำเสนอ 2. ด้านนวัตกรรม คือ การส่งสัญญาณภาพในระบบเอชดีมาให้บริการมากขึ้น 3. ด้านการบริการ มุ่งเน้นการให้บริการที่ประทับใจอย่างครบวงจร กับบริการ Call Center ทรูวิชั่นส์แคร์ตลอด 24 ชม.4. ด้านสิทธิประโยชน์ต่างๆที่มอบให้เป็นพิเศษสำหรับสมาชิก และ 5. ด้านแพกเกจ ได้พัฒนาและปรับแพกเกจต่างให้ตรงใจผู้ชมมากที่สุด
นอกจากนี้ ทรูวิชั่นส์ยังได้เตรียมงบลงทุนประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการซื้อคอนเทนท์ต่างๆ และพัฒนาระบบการออกอากาศ โดยในส่วนของเฟสแรกทรูวิชั่นส์ จะใช้งบลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท ในการเพิ่มอุปกรณ์และคอนเทนต์ต่างๆ โดยเฉพาะคอนเทนท์กีฬาและภาพยนตร์ เนื่องจากคอนเนทน์ดังกล่าวได้รับความนิยมจากสมาชิกมากที่สุด
หลังจากเพิ่มคอนเทนท์รายการ ทรูวิชั่นส์ยังได้เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิกแพคเกจแพลทินัม จากเดิมรับชมได้ 17 ช่อง เป็น 23 ช่อง และแพคเกจโกลด์ จากเดิมรับชมได้ 3 ช่อง เป็น 16 ช่อง ขณะเดียวกันยังสามารถรับชมช่องมาตรฐานได้อีก 11 ช่อง แต่หากสมาชิกแพคเกจแพลทินัมและโกลด์ใดสนใจเข้าร่วมแพคเกจดังกล่าวก็จะมอบเป็นส่วนลดค่ารายเดือนเป็นเงิน 100 บาทต่อเดือน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับสมาชิก
สำหรับช่องรายการในระบบเอชดี จำนวน 6 ช่อง ประกอบด้วย MoterVition,OutdoorChannel,NBA TV,HBO Signature,HBO Hit และ H2 ซึ่งในส่วนของช่อง H2 จะเริ่มรับชมได้ตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.นี้เป็นต้นไป ขณะที่รายการใหม่ในระบบปกติ จำนวน 11 ช่อง ประกอบด้วย Channel L,Activ TV ,Block A ,Sky Theater ,Channal 6 ,h+ ,Sun Channel ,SME Channel ,Li ,Disney Junior และ Disney Thailand
ในส่วนของช่อง Li จะเริ่มรับชมได้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ขณะที่ช่อง Activ TV ,Block A ,Sky Theater ,Channal 6 ,h+ ,Sun Channel ,SME Channel และ Disney Junior จะรับชมได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ส่วนช่อง Disney Thailand จะเริ่มรับชมได้ในเดือน ก.ค. และช่อง Channel L จะเริ่มรับชมได้ในวันที่ 1 ส.ค. นี้
ส่วนช่องคุณภาพจากช่องรายการ จากระบบปกติเป็นระบบเอชดีสูงสุด จำนวน 7 ช่อง ประกอบด้วย HBO HD, Fox Movie Premium HD ,Fox Family Movies HD ,History Channel HD , Nation Geographic HD, AXN HD และ Golf Channel Thailand โดยในส่วนของช่อง Golf Channel Thailand จะเริ่มรับชมได้ในวันที่ 1 พ.ค.นี้
จากการเพิ่มช่องรายการใหม่ในระบบเอชดีเป็น 23 ช่อง จากปัจจุบันมี 17 ช่อง ขณะที่ช่องทั่วไปมีทั้งหมด 144 ช่อง ส่งผลให้ทรูวิชั่นส์ต้องปรับระบบสัญญาณการออกอากาศใหม่ทั้งหมดในคืนวันที่ 18 เม.ย. หลังเวลา 24.00 น.เป็นระยะเวลา 8 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากปรับปรุงระบบเวลา 08.00 น.ของวันที่ 19 เม.ย.นี้ ทุกช่องจะกลับมารับชมได้ตามปกติ
นอกจากนี้ ประมาณไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ทรูวิชั่นส์ยังมีแผนที่จะใช้งบลงทุนที่เหลืออีกประมาณ 500-1,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการซื้อคอนเทนท์รายการกีฬาและภาพยนตร์เพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลให้ในไตรมาสที่ 3 ทรูวิชั่นส์จะมีช่องรายการในระบบเอชดีสูงสุดอยู่ที่ 30 ช่อง ขณะที่ช่องทั่วไปหรือเอสดีจะอยู่ที่ประมาณ 150 ช่อง
นายอาณัติกล่าวว่า ในภาวะที่ธุรกิจมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทรูวิชั่นส์จึงมีเป้าหมายหลักในการดำเนินธุรกิจ ด้วยการเพิ่มความล้ำหน้าในด้านของคอนเทนท์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ และพาผู้ชมก้าวล้ำไปพร้อมๆ กันกับประสบการณ์สุดพิเศษ ซึ่งทรูวิชั่นจะเน้นไปที่คอนเทนท์กีฬาและบันเทิง เพราะเป็นคอนเทนท์ที่สมาชิกให้ความนิยมรับชมมากที่สุด โดยในส่วนของของคอนเทนท์กีฬา ล่าสุดได้นำ 3 ช่องกีฬาใหม่มาออกอากาศ เพื่อเอาใจคอกีฬา ประกอบด้วย NBA TV ,MoterVition และ Outdoor Channel
ปัจจุบัน ทรูวิชั่น มีฐานสมาชิกทั้งหมดประมาณ 2 ล้านราย ในจำนวนดังกล่าวเป็นสมาชิกแพคเกจโกลด์และแพลทินัมประมาณ 3 แสนราย ซึ่งหลังจากมีการนำคอนเทนท์รายการต่างๆ มาออกอากาศเพิ่ม และเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้า คาดว่าจะสามารถเพิ่มสมาชิกใหม่ในแพคเกจโกลด์และแพลทินั่มได้ไม่ต่ำกว่า 10% ขณะที่สมาชิกทั่วไปคาดว่าจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10-20% ส่วนภาพรวมรายได้รวมในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตใกล้เคียง 10% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่กว่า 10,000 ล้านบาท
ข่าวเด่น