หลังจากตกลงการซื้อกิจการโรงเยื่อกระดาษและโรงกระดาษของประเทศฝรั่งเศสเมื่อต้นปีที่ผ่านมา จากรัฐบาลฝรั่งเศส เนื่องจากโรงงานแห่งดังกล่าว ซึ่งเป็นของบริษัท M-real บริษัทเอกชนจากฟินแลนด์ ภายใต้ชื่อ "โรงเยื่อและโรงกระดาษอลิเซ่ (Alizay)" ประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจจนทำให้ต้องปิดโรงงาน
ต่อมาได้รับการเข้าซื้อกิจการจากรัฐบาลฝรั่งเศส เพื่อนำมาขายต่อให้นักลงทุนเข้าเปิดดำเนินงาน ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับความไว้วางใจให้เข้ามาเป็นผู้ดำเนินการต่อ เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศฝรั่งเศส ขณะเดียวกันก็ถือเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ
จากโอกาสที่ได้รับดังกล่าว ส่งผลให้ ดั๊บเบิ้ล เอ สามารถเดินหน้าขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศได้อย่างเต็มสูบ เพราะจากการเข้าซื้อกิจการโรงงานดังกล่าว จะทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดั๊บเบิ้ล เอ คาดว่าโรงงานที่ฝรั่งเศสจะสามารถเดินเครื่องผลิตกระดาษได้ ซึ่งในส่วนของวัตถุดิบเยื้อกระดาษจะเป็นการนำเข้าจากประเทศไทย เพื่อผลิตกระดาษให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานกระดาษ แบรนด์ ดั๊บเบิ้ล เอ ที่ผลิตในประเทศไทย
สำหรับฐานการผลิตกระดาษแห่งใหม่ที่ประเทศฝรั่งเศสนั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนไว้ว่าจะตั้งเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ เพื่อส่งออกสินค้าไปทำตลาดในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกาตะวันตก จากเดิมการทำตลาดกระดาษในกลุ่มประเทศดังกล่าว จะนำเข้ากระดาษจากประเทศไทยทั้งหมด ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนในการดำเนินงานค่อนข้างสูง
นอกจากนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ยังมีแผนที่จะเดินเครื่องผลิตกระดาษรีไซเคิลเป็นครั้งแรก ภายใต้แบรนด์ “Evolve” ซึ่งเป็นแบรนด์เดิมที่โรงงานแห่งนี้ผลิต เพื่อเป็นการนำแบรนด์ “Evolve” กลับสู่ตลาดในยุโรป และออสเตรเลียอีกครั้ง เพราะ Evolve เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในกลุ่มประเทศเหล่านี้ โดยจะนำกระดาษสำนักงานที่ใช้แล้วมารีไซเคิลผลิตเพื่อเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยกำลังการผลิตกระดาษจากโรงงานในฝรั่งเศส 300,000 ตันต่อปี
ในส่วนของกำลังการผลิตในประเทศไทยนั้น ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตโรงงานผลิตกระดาษใน จ.ปราจีนบุรี ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 3 แห่ง มีกำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 700,000-800,000 ตันต่อปี ซึ่งหากนำกำลังการผลิตของโรงงานทั้ง 2 โรงงานมารวมกัน จะส่งผลให้ปีนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ จะมีกำลังการผลิตรวมเป็น 1.12 ล้านตันต่อปี
นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ(1991) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น บริษัทจะออกมาทำการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศได้อย่างจริงจัง หลังจากปีที่ผ่านมาต้องชะลอการทำตลาด เนื่องจากกำลังการผลิตกระดาษไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า จึงทำให้บริษัทไม่กล้าที่จะออกมาทำกิจกรรมทางการตลาด เพราะทุกครั้งที่ทำจะมียอดขายเพิ่มขึนจากปกติค่อนข้างมาก
สำหรับแผนการทำตลาดในปีนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้เตรียมงบจำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการทำกิจกรรมการตลาด แบ่งเป็นในประเทศ 200 ล้านบาท และต่างประเทศ 800 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีการส่งออกกระดาษไปทำตลาดต่างประเทศมากกว่า 130 ประเทศทั่วโลก จึงทำให้ต้องใช้งบส่วนใหญ่ไปกับตลาดต่างประเทศ ซึ่งปีนี้จะเป็นปีแรกที่ทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างจริงจัง เพราะมีกำลังผลิตเพียงพอกับการทำตลาดแล้ว
ส่วนแผนการทำตลาดในประเทศ นั้น ดั๊บเบิ้ลเอ จะหันมาขยายช่องทางการทำกิจกรรมการตลาดและโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์มากขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวนิยมรับสื่อออนไลน์มากกว่าสื่อทีวี ดังนั้น ดั๊บเบิ้ล เอ จึงได้ออกมาเปิดตัวแอพพลิเคชั่นรูปแบบใหม่สไตล์ MY-vedio "เรื่องเล่า ณ หมู่บ้านต้นกระดาษ" ในรูปแบบภาพยนตร์แอนนิเมชั่น 3 มิติ
การออกมาเปิดตัวภาพยนตร์อนิเมชั่น 3 มิติ ของ ดั๊บเบิ้ล เอในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างความแปลกใหม่ให้แก่โลกออนไลน์ เพราะเป็นครั้งแรกที่ผู้เล่นสามารถเข้าไปสวมบทบาทเป็นตัวละครในภาพยนตร์อนิเมชั่นดังกล่าว และยังสามารถนำเอาภาพใบหน้าของตัวเองและเพื่อนๆ มาใส่เป็นตัวละครต่างๆ ในเรื่อง แล้วแชร์ VDO ให้กันผ่านทาง Social Media เพื่อให้เกิดความสนุกสนาน
นอกจากนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ยังมีโปรโมชั่นพิเศษในโอกาสเปิดตัวแอพพลิเคชั่น ให้ผู้เล่นได้ร่วมสนุกกับ VDO ที่เล่นเอง แสดงเอง โดยเมื่อเล่นเสร็จเพียงผู้เล่นกดแชร์ VDO ที่เป็นเวอร์ชั่นของตัวเองขึ้นไปยัง Facebook ก็จะได้รับกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ 1 แพ็คขนาด 40 แผ่นไปใช้ฟรี! ทำให้ผู้เล่นมีส่วนร่วมเป็นเกษตรกรปลูกต้นกระดาษบนคันนาและได้กระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ไปใช้จริงๆ เหมือนกับเราได้ “ใช้เอง ปลูกเอง”
ช่วงที่ออกมาทำกิจกรรมทางการตลาดในรูปแบบดังกล่าว ดั๊บเบิ้ลเอ คาดว่าจะได้ผลการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ขณะเดียวกันก็คาดว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายให้เพิ่มขึ้นจากปกติได้เป็นที่น่าพอใจ แม้ว่าช่วงเวลาการทำโปรโมชั่นจะมีไปถึงแค่วันที่ 15 มิ.ย. นี้ ซึ่งรูปแบบของการทำกิจกรรมจะดำเนินการ ผ่านช่องทาง www.facebook.com/DoubleAPaper
นอกจากนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ยังจะเดินหน้าขยายธุรกิจภายใต้แผนการทำตลาด 4 แนวทาง ประกอบด้วย 1.ขยายตลาดกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ 80 แกรม ในกลุ่มประเทศเปิดใหม่ โดยมุ่งเจาะตลาดยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เพื่อรองรับฐานการผลิตใหม่จากโรงกระดาษอลิเซ่ ในประเทศฝรั่งเศส 2.ขยายตลาดเพิ่มในประเทศอินเดีย อินโดนีเซีย อังกฤษ สเปน สหรัฐอเมริกา แคนาดา ซาอุดิอาระเบีย
3.ส่งเสริมกิจกรรมการตลาดในทุกช่องทางให้มีความครอบคลุมมากขึ้น พร้อมทั้งสร้างการรับรู้ในตลาดสินค้า ดั๊บเบิ้ล เอ ผ่านกิจกรรมจัดแสดงสินค้า 4.ออกภาพยนตร์โฆษณาในประเทศต่างๆ ซึ่งหลังจากเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ดั๊บเบิ้ลเอคาดว่าสิ้นปีนี้จะมียอดขายรวมเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2 หมื่นล้านบาท มีกำไร 1,400 ล้านบาท
ข่าวเด่น