หุ้นทอง
จับตาขาลง "ราคาทองคำ"








 

ราคาทองคำที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2556 ที่ผ่านมา เป็นทิศทางที่สวนทางอย่างรุนแรงกับการปรับราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา และยังถือเป็นฝันร้ายของนักลงทุน  ซึ่ง นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด  เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรก ราคาทองคำในประเทศได้รับแรงกดดันจากค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงมากถึง 9%  ขณะที่ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลดลง 4.93%

ราคาทองคำที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง  ยังทำให้ทางสถาบันและกองทุนชั้นนำของโลก ปรับการคาดการณ์ราคาทองคำลง เช่น แบงก์ออฟอเมริกา, เมอร์ริล ลินช์  และบาร์เคลย์ แคปิตอล ขณะที่กองทุน  SPDR ก็ได้ลดการถือครอง  ทองคำลงในไตรมาส 1 ถึง 129.56 ตัน   แสดงถึงมุมมองเชิงลบต่อทิศทางของราคาทองคำ

ส่วน ศูนย์วิจัยทองคำ รายงานว่า  ในเดือนมีนาคม ราคาทองคำในไทยปรับตัวลดลงประมาณบาทละ 250 บาท  หรือลดลงประมาณ 1.11% จากวันที่ 28 ก.พ. ราคาทองคำอยู่ที่บาทละ 22,450 บาท ได้ปรับลดลงมาปิดที่บาทละ 22,200 บาท เมื่อ วันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา  ซึ่งเป็นผลจากช่วงเดือนมีนาคม ค่าเงินบาทได้ปรับแข็งค่าขึ้นประมาณ 1.61% จากระดับค่าเงินบาท ที่ 29.76 บาทต่อดอลลาร์  ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์  มาอยู่ที่ระดับ 29.28 บาท ต่อดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา

นายภูษิต วงศ์หล่อสายชล  ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ (Gold Price Sentiment Index) ประจำเดือนเมษายน มีค่าเท่ากับ 52.84 จุด สะท้อนมุมมองของกลุ่มผู้ค้าและนักลงทุนที่ดีขึ้นในช่วงเดือนเมษายน อย่างไรก็ตาม ค่าเฉลี่ยที่สูงกว่าค่ากลางที่ 50 จุดเพียงเล็กน้อย สะท้อนกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจอาจยังไม่มั่นใจต่อราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นมากนัก แต่ยังดีกว่าในเดือนมีนาคมที่อยู่ระดับต่ำ 44.07 จุด

โดยกลุ่มตัวอย่างเชื่อมั่นว่า โอกาสที่ราคาทองคำจะปรับขึ้นมาจากปัจจัยบวกเรื่องปัญหาหนี้ยุโรปที่เกิดจากไซปรัส และการเมืองอิตาลี ที่ส่งผลให้ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย  ส่วนปัจจัยกดดันราคาทองคำมาจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ที่จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น  ตลอดจนการเทขายทองคำของกองทุน นอกจากนี้ความน่าสนใจในการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง และประเด็นค่าเงินบาทยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในช่วงสามเดือนข้างหน้า กลุ่มผู้ลงทุนและกลุ่มผู้ค้าทองคำ มีทัศนคติไปในทิศทางเดียวกันว่า ราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้น มีค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 65.06 จุด แต่เมื่อเทียบกับระดับความเชื่อมั่นในช่วงเดือนมีนาคมที่อยู่ระดับ 75.72 จุด ถือว่าลดลงมากถึง 14.04% สะท้อนมุมมองระยะยาวที่เริ่มมีทัศนคติในเชิงบวกลดลง

ส่วนราคาทองคำในประเทศ เชื่อว่า ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบที่บาทละ 21,500-23,000 บาท  และมีช่วงค่าเฉลี่ยราคาระหว่าง 22,000-22,500 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ

ด้านมุมมองของผู้ค้าทองคำ นายจิตติ  ตั้งสิทธิภักดี  นายกสมาคมค้าทองคำ  เปิดเผยว่า ปัจจัยหลักที่มีผลต่อราคาทองคำให้ปรับลดลง  มาจากกระแสข่าวลือว่านักลงทุนรายใหญ่ในตลาดทองคำโลก "จอร์จ โซรอส" ขายทองคำออกมาเพิ่ม  ส่งผลเชิงจิตวิทยาของนักลงทุนเทขาย ซึ่งสวนทางกับปกติที่หากมีข่าวเรื่องความตึงเครียดทางการเมือง เช่น กรณีของเกาหลีเหนือ จะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ  แต่นักลงทุนยังรอดูว่าราคาทองคำจะปรับลดลงอีกหรือไม่

ต้องยอมรับว่าปัจจัยที่จะมากดดันการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในปีนี้มีไม่น้อย  ดังนั้นนักลงทุนควรต้องระมัดระวังการลงทุนในสินทรัพย์ประเภททองคำให้มาก  แม้ครั้งหนึ่งจะเคยได้ขึ้นชื่อว่า เป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูงประเภทหนึ่ง 

 


LastUpdate 09/04/2556 20:44:22 โดย : Admin
22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 11:07 am