น้ำอบไทย เป็นเครื่องหอมที่มีมาแต่โบราณ สันนิษฐานกันว่า น่าจะเริ่มใช้ภายในพระบรมมหาราชวังมาก่อน โดยแต่ละตำหนักจะมีการปรุงเครื่องหอมใช้กันเอง ซึ่งกลิ่นเครื่องหอมของแต่ละตำหนักก็จะแตกต่างกันไปตามความชอบใจของแต่ละคน ทว่า กรรมวิธีการผลิตไม่แตกต่างกันนัก คือจะมีรากไม้ ดอกไม้หอม และเครื่องปรุงความหอมอื่นๆ เช่น กำยาน พิมเสน ฯลฯ เป็นส่วนผสมหลักเพื่อสร้างกลิ่นหอมเฉพาะตัว
และด้วยความหอมยวนใจนี้เอง ทำให้เมื่อยามสาวชาววังเยื้องกรายไปที่ไหนจึงมักมีผู้คนสนใจเสมอ โดยเฉพาะสาวชาวบ้านที่อยากมีกลิ่นกายหอมละไมเช่นสาวชาววัง ต่อมาน้ำอบไทยก็ค่อยๆ เผยแพร่จากพระบรมมหาราชวังสู่สังคมสยาม จนกลายเป็นเครื่องหอมในชีวิตประจำวันที่สาวๆ ยุคนั้นพึงพอใจ
เมื่อเอ่ยถึงน้ำอบไทยที่ยังครองใจคนไทยมาตลอดในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา เชื่อแน่ได้ว่า “น้ำอบนางลอย”ตำรับเก่าแก่ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2467 ยังคงเป็นน้ำอบยี่ห้อแรกๆ ที่ผู้ใช้จะนึกถึง ไม่ว่าจะเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีปริมาณการใช้น้ำอบไทยตามประเพณีสูงที่สุดในรอบปี หรือแม้แต่ในงานพิธีต่างๆ ก็ตามที
แม้น้ำอบนางลอยจะดูเหมือนเป็นสินค้าที่ผูกขาดเฉพาะเทศกาลสงกรานต์เท่านั้น แต่ด้วยความนิยมในตัวสินค้าที่ได้รับการยอมรับด้านคุณภาพมาเป็นเวลานาน ส่งผลให้ยอดจำหน่ายรวมในแต่ละปีนั้นไม่น้อยเลย
สัญลักษณ์ “นางฟ้า” ที่อยู่บนฉลากนั้น เกิดจากแนวคิดที่อยากหารูปให้เข้ากับชื่อร้าน คือ น้ำอบนางลอย ซึ่งรูปแบบ “นางฟ้า” ที่เลือกมานั้น คัดเลือกมาจากรูปเขียนนางรำหลายๆ แบบ ซึ่งแบบที่เลือกมานั้นเผอิญอยู่ในลักษณะลอยเหมือนนางฟ้า ซึ่งเข้ากับชื่อสินค้าคือ “นางลอย” จึงนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์โดยให้นางฟ้าถือขวดน้ำอบเพิ่มเติม ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าก็จะจดจำตราสัญลักษณ์นางลอย ควบคู่ชื่อ “น้ำอบนางลอย” ได้เป็นอย่างดี
น้ำอบนางลอย ของตระกูล ธ.เชียงทอง เป็นหนึ่งในยี่ห้อน้ำอบไทยที่อยู่เคียงคู่กับผู้ใช้มากว่า 90 ปี หลายคนยังคงคุ้นเคยกับภาพนางฟ้าถือขวดน้ำหอมที่ลอยเด่นอยู่บนฉลาก สืบทอดและรักษามาตรฐานในการผลิตมาถึง 3 ชั่วอายุคน
คุณย่าเฮียง ธ.เชียงทองเป็นผู้คิดค้นสูตรน้ำอบและได้เริ่มทำออกมาจำหน่ายบริเวณตลาดนางลอยและที่นั่นเองเป็นจุดเริ่มต้นของกิจการน้ำอบ
“บริษัทได้ก่อตั้งมา 95 ปีแล้ว รักษามาตรฐานของตัวผลิตภัณฑ์รวมทั้งวัตถุดิบที่ใช้ให้มีความเป็นดั้งเดิมมากที่สุดและมีการเปลี่ยนแปลงสูตรการทำน้ำอบเพียงเล็กน้อยเพื่อที่จะให้ตัวน้ำอบนั้นเหมือนกับสมัยที่คุณย่าเฮียงเริ่มทำ ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงสูตรน้อยมาก โดยอาจจะมีการปรับปรุงในส่วนของการเพิ่มรายละเอียดเกี่ยวกับสรรพคุณของตัวน้ำอบซึ่งใครหลายๆคนยังไม่ทราบถึงประโยชน์ของการใช้น้ำอบ รวมทั้งน้ำอบนั้นสามารถทำอะไรได้บ้าง”
วิธีการผลิตเป็นกรรมวิธีที่ค่อนข้าง ซับซ้อน และต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมาก การผลิตนั้นจะต้องใช้แรงงานคนเป็นจำนวนมาก โดยเริ่มจากการนำน้ำที่เต็มไปด้วยเครื่องหอม 7- 8ชนิดหลักๆก็จะมี กำยาน เทียนหอม การบูร ส้มป่อย เป็นส่วนผสมหลักนอกนั้นก็จะเป็นสมุนไพรหอมต่างๆ ไปต้มในโอ่ง นำมาอบอีก 9 รอบ แล้วก็พักไว้ 3 วันหลังจากนั้นก็เติมหัวน้ำหอมซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของทางร้านลงไปถือเป็นอันเสร็จสมบูรณ์ ส่วนจะนำน้ำอบมาบรรจุใส่ขวดหรือผอบก็แล้วแต่การสั่งของลูกค้า
แม้ว่าใครหลายๆ คนอาจจะคิดว่าสินค้าประเภทน้ำอบจะสามารถขายได้เฉพาะในงานเทศกาลสงกรานต์เท่านั้น แต่ด้วยความเป็นสินค้าที่เป็นที่ยอมรับในเรื่องของคุณภาพและความเป็นเอกลักษณ์ของตัวน้ำอบมาเป็นเวลายาวนาน จึงส่งผลให้ยอดขายในแต่ละปีไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด ถึงแม้โดยหลักๆแล้วจะขายดีในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่รายได้ที่แท้จริงและสม่ำเสมอ ก็ได้มาจากการสั่งออเดอร์ตามต่างจังหวัดและวัดต่างๆ ทั่วกรุงเทพ
สินค้าโดยส่วนใหญ่แล้วจะขายส่ง โดยส่งออกไปตามต่างจังหวัดและตามวัดต่างๆที่มีการสั่งออเดอร์เข้ามาทางร้านก็จะจัดส่งถึงที่
เนื่องจากภาพลักษณ์ของสินค้า ดูจะเป็นสินค้าที่เหมาะแก่ผู้สูงอายุ ดังนั้นทางร้านจึงมีการกระตุ้นยอดขายโดยไปเจาะที่กลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น ด้วยการเปิดโรงงานให้แก่ผู้ที่สนใจเข้ามาดูงานและเก็บข้อมูลรวมทั้งบรรยายถึงสรรพคุณต่างๆ ของน้ำอบว่าสามารถทำอะไรได้บ้างให้แก่ผู้ที่สนใจเพื่อทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
สินค้าสามารถที่จะใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งเมื่อก่อนนั้นจะเน้นไปที่ผู้สูงอายุซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ในปัจจุบันนี้ได้มีการขยายตลาดไปที่กลุ่มวัยรุ่นโดยการให้ความรู้และอธิบายถึงประโยชน์และสรรพคุณต่างๆ ของตัวน้ำอบ ผลตอบรับก็ถือว่าดีมาก เด็กๆให้ความสนใจและนิยมใช้เป็นจำนวนมาก ยิ่งช่วงสงกรานต์ทำขายแทบไม่ทัน
ข่าวเด่น