"ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ติดบูโรเหมือนกัน แต่ปัจจุบันเป็นปรกติมาไม่กี่เดือน ลองไปกู้ผลออกมาไม่ผ่านเหมือนเดิมเพราะเขาดูตรงที่เราติด ไม่ได้ดูตรงที่เราเป็นปรกติแล้วหรือเปล่า ทุกวันนี้ผมเองต้องส่งเงินให้พวกนอกระบบวันละ 2,880 บาทต่อวัน ถ้าเป็นเดือนลองคำนวณดูเอาเองซิครับว่ามันเท่าไร ผมทำงานทั้งวันมีแค่พอจ่าย แต่ไม่มีปัญญาหาเงินไปปิด ผมว่าธนาคารควรใช้วิธีเหมือนนอกระบบในการปล่อยกู้คือ ถ้าจะให้ใครกู้ก็ต้องไปดูให้เห็นกับตา ไม่ใช่แค่โทรศัพท์เช็คอย่างเดียว พวกนอกระบบมันมาหาถึงบ้านเลยครับดูทุกอย่างให้เห็นกับตาแล้วจึงปล่อย (เร็วด้วยไม่ถึงชั่วโมง) ผมว่าธนาคารควรเลิกใช้วิธีดูแต่กระดาษอย่างเดียวดีมั้ย คุณติดบูโรเราก็ไม่ให้ สุดท้ายนี้ผมกราบขอร้องพวกท่านให้โอกาสพวกผมอีกสักครั้ง 1 ในชีวิตได้มั้ยครับ"

ข้อความข้างต้นผมเอามาจากสิ่งที่เจ้าของข้อมูลท่านหนึ่งเขียนมาถึงผมระบุถึงปัญหาการขอสินเชื่อไม่ได้เพราะเหตุว่าสถาบันการเงินที่เขาไปยื่นขอแจ้งว่าให้สินเชื่อไม่ได้เพราะติดบูโร เหตุทั้งหลายทั้งปวงผมขอเรียบเรียงเป็นอย่างนี้นะครับ

สำหรับท่านที่เขียนมาถึงผมในฐานะเจ้าของข้อมูลผมมีความเห็นอย่างนี้ครับ

1. เคยถามตัวเองมั้ยว่าเราไปกู้มาทำอะไร กู้มาแล้วเราได้นำไปใช้อย่างที่กำหนดไว้มั้ยหรือเราไม่มีระบบระเบียบในการใช้เงิน

2. เคยถามตัวเองมั้ยว่าทำไมเราจึงไม่มีเงินออม มันหายไปไหนนิสัยการออม เมื่อตอนเด็กๆเคยมีเงินฝากออมสินมั้ย

3. มีใครมาบอกให้เชื่อหรือว่า กู้มาทำโน่นทำนี่แล้วจะรุ่งเรือง ทำไมไม่มีใครบอกว่าการลงทุนต้องเริ่มที่การออมไม่ใช่เริ่มด้วยหนี้

4. เคยถามตัวเองไหมตอนเซ็นสัญญาเงินกู้ว่าหากเราเอาเงินกู้มาใช้แล้วหาคืนให้ไม่ได้ ไม่ว่าเหตุผลหรือข้ออัางใดๆเราจะทำอย่างไร ตัวเราทำไมไปเชื่อว่าเอาหนี้ใหม่จากนอกระบบมาแก้หนี้ในระบบ เคยมีใครรอดหรือ หนี้ใหม่ดอกเบี้ยเป็นวันเอาไปจ่ายหนี้เก่าดอกเบี้ยเป็นปี เคยเห็นใครประสบกับความสำเร็จกับการทำอย่างนี้บ้าง

5. เคยถามตัวเองไหมว่าเราบริหารเงิน บริหารหนี้แบบ กู้ให้ง่ายเข้าไว้ จนเป็นปัญหาแล้วทำไมเราจะไปบอกคนอื่นเขาให้ทำอย่างโน้นอย่างนี้ในมุมของเรา เขาทำของเขาแบบนั้นเพราะเขามีหน้าที่ดูแลเงินฝาก เขาไม่ใช่เจ้าของเงิน ไม่ว่าเขาจะดูให้เห็น หรือดูที่กระดาษความจริงก็คือความจริง ค้างก็คือค้าง เป็นหนี้ต้องใช้หนี้ สัญญาต้องเป็นสัญญา เพียงแต่ว่ามีปัญหาแล้วจะจ่ายคืนกันยังไง ธนาคารเขาพลาดไปหนหนึ่งแล้วตอนที่ให้กู้แล้วต่อมาค้างชำระ เขาก็ต้องกลัวว่าเขาจะผิดอีก อะไรคือความมั่นใจที่ธนาคาริจะได้รับว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกในเรื่องการค้างชำระในเงินกู้ที่ขอครั้งนี้ ธนาคารไม่ใช่เจ้าของเงินนะครับ เจ้าของเงินคือผู้ฝากเงินครับ

สำหรับธนาคารผมมีความเห็นอย่างนี้ครับ

1. เคยคิดว่าจะตอบได้ไหมว่า อะไรคือติดบูโร มันมีความหมายยังไง คนฟังเขารู้เรื่องมั้ย เขาควรมีสิทธิที่จะทราบไหมว่า เพราะอะไรเขาจึงกู้ไม่ได้ อย่าลืมนะครับว่าธนาคารได้เข้าไปดูข้อมูลอันเป็นความลับของเขาทั้งที่คู่สมรสยังดูไม่ได้เลย เราแฟร์กับคนที่มาขอสินเชื่อแล้วเราให้ไม่ได้เพียงพอหรือไม่ ในเมื่อเราประกาศเรื่อง good governance กันใหญ่โต

2. เคยคิดบ้างไหมว่าการให้ข้อมูลที่ไม่ใช่เหตุผล สิ่งทีี่บอกไม่ใช่ประโยคด้วยซ้ำ ทำไมเราจะบอกและช่วยเขาไม่ได้ในการที่จะให้คนที่มาขอกู้เขารู้เรื่องมากขึ้นเช่น ให้กู้ไม่ได้เพราะคุณลูกค้ามีประวัติค้างชำระหรือที่เรียกกันชัดๆว่า พี่เป็นคนเคยค้าง ต่อมาชำระหนี้ที่ค้างไปแล้ว ปัจจุบันไม่ค้างชำระ บัญชีปกติ หากจะพิจารณาให้ใหม่ต้องรอไปอีก ...เดือน และพี่ต้องมีรายได้อย่างน้อย...และพี่ต้องมีหนี้เก่าที่ต้องชำระบวกด้วยยอดชำระรายเดือนของหนี้ใหม่แล้วเอามาหารด้วยรายได้ต่อเดือนหากออกมาเกิน 40%แล้วก็ต้องไปแก้ปัญหาก่อนจึงจะมาขอกู้ที่เครดิตบูโรไม่ใครติดอะไรเพราะมันไม่มีความหมาย มันเป็นการสื่อสารบนข้อมูลที่ผิด และไม่รับผิดชอบหากโยนไปว่าติดบูโรจึงให้กู้ไม่ได้ เพราะสถาบันการเงินก็รู้ด้วยใจแล้วว่า เครดิตบูโรไม่ได้มีส่วนในเรื่องอนุมัติ เกณฑ์ที่จะให้ก็ไม่รู้ ตอบความจริงครับ ความจริงคือความจริง มันจะหมดยุคที่ทำมาค้าขายแบบเอาดีใส่ตัวคนเดียวแล้วครับ

สุรพล โอภาสเสถียร
ผู้จัดการใหญ่
บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด