จากการออกมาประกาศแผนรุกธุรกิจนอน-แอลกอฮอล์อย่างจริงจังของบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด หรือที่รู้จักกันดีในนามของผู้ดำเนินธุรกิจเบียร์สิงห์ และลีโอ ตั้งแต่ปี 2554 ที่ผ่านมา ด้วยการวางแนวทางการดำเนินธุรกิจไว้ว่าในแต่ละปีต้องมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ทั้งในกลุ่มเครื่องดื่มและอาหารเข้าทำตลาดปีละประมาณ 2-4 รายการ เพื่อผลักดันให้ธุรกิจนอน-แอลกอฮอล์ มีอัตราการเติบโตปีละ 15% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปกติที่จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 7-8% เท่านั้น
แผนการดำเนินงานดังกล่าว บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น มีแผนที่จะผลักดันให้สัดส่วนรายได้ของธุรกิจ นอน-แอลกอฮอล์ มีสัดส่วนรายได้เพิ่มเป็น 30% ในอีก 5 ปีนับตั้งแต่ปี 2554 มาปีนี้บริษัท บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ยังคงเดินหน้าเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มนอนแอลกอฮอล์เข้าทำตลาดอย่างต่อเนื่อง จากเดิมมีเพียงโซดา น้ำดื่มสิงห์ น้ำแร่เพอร่า เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพบีอิ้ง สาหร่ายมาชิตะ และข้าวพันดีเข้าทำตลาด
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจในส่วนของสินค้าแฟชั่นภายใต้ชื่อ "สิงห์ ไลฟ์" เน้นจำหน่ายสินค้าในกลุ่มเสื้อผ้าทำงานผู้ชาย, เสื้อผ้าลำลองผู้ชาย และเสื้อผ้าผู้หญิง กระเป๋า และรองเท้า ซึ่งในส่วนของช่องทางจำหน่ายก็จะเน้นเปิดเป็นช็อปภายในห้างสรรพสินค้าภายใต้ชื่อ "สิงห์ ไลฟ์"
พร้อมกันนี้ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ยังมีแย้มๆออกมาว่า อยู่ระหว่างศึกษาตลาด และพัฒนาสินค้าอุปโภค-บริโภคในกลุ่มสกินแคร์ เช่น เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว แชมพู และสบู่ ด้วยการใช้วัตถุดิบจากเบียร์มาผลิตสินค้า โดยก่อนหน้านี้ได้เคยทดลองวางจำหน่ายแชมพูและสบู่ในร้านสิงห์ ไลฟ์ บ้างแล้ว
ล่าสุด ได้มีการส่งน้องใหม่ในธุรกิจนอน-แอลกอฮอล์ กลุ่มเครื่องดื่มเกลือแร่ ภายใต้ชื่อ "ซันโว" เข้าทำตลาด เนื่องจากตลาดดังกล่าวมีผู้เล่นน้อยจำนวน 2 รายเท่านั้น คือ สปอนเซอร์ และเอ็มสปอร์ต ส่งผลให้ยังมีช่องว่างและโอกาสในการเข้ามาทำตลาดได้อีกมาก
นายภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการบริหาร และผู้อำนวยการสายการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ นอน-แอลกอฮอล์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัวเครื่องดื่มเกลือแร่ “ซันโว” เข้ามาทำตลาดในครั้งนี้ถือเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯในกลุ่มของผลิตภัณฑ์ นอน-แอลกอฮอล์ เนื่องจากบริษัทมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนของธุรกิจ นอน-แอลกอฮอล์ ขึ้นเป็น 30% ของธุรกิจรวม ซึ่งปัจจุบันธุรกิจที่ทำรายได้หลักให้กับบริษัทยังคงเป็นธุรกิจแอลกอฮอล์
ปัจจุบันตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 4,200 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นมูลค่าที่สูงแม้ว่าจะมีผู้เล่นในตลาดไม่มาก โดยหลังจากเปิดตัวเครื่องดื่มเกลือแร่ซันโวเข้าทำตลาด บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ก็มั่นใจว่าด้วยรสชาติและคุณภาพของ “ซันโว” บวกกับการทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างเต็มรูปแบบ จะทำให้ “ซันโว” ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างแน่นอน
สำหรับการทำตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ ซันโว ในปีนี้ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ได้เตรียมงบการตลาดกว่า 150 ล้านบาท ในการเปิดตัวเครื่องดื่มเกลือแร่ซันโว ซึ่งหลังจากเริ่มนำสินค้าดังกล่าวเข้าทำตลาดตั้งแต่ช่วงกลางเดือน มี.ค.ที่ผ่านมาได้ผลการตอบรับเป้นที่น่าพอใจ เนื่องจากใช้ช่องทางขายเดียวกับกลุ่มเบียร์ เน้นช่องทางเทรดดิชันนอล 70% และโมเดิร์นเทรด 30%
นอกจากนี้ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ยังได้เพิ่มหน่วยรถกระจายสินค้ากว่า 200 คัน สำหรับส่งสินค้าภายในกรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อให้สินค้ากระจายได้รวดเร็วมากขึ้นและครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย
ปัจจุบันเครื่องดื่มเกลือแร่ซันโว มีสินค้าให้เลือกด้วยกัน 2 รสชาติ รสมิกซ์ฟรุต และรสมิกซ์เบอรี่ เพราะจากการศึกษาตลาดพบว่า ผู้บริโภคกว่า 80% มีความชื่นชอบในรสชาติดังกล่าว และพร้อมที่จะซื้อเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ ดังนั้นบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จึงเลือก 2 รสชาติดังกล่าวเป็น 2 รสชาติแรกในการทำตลาด
ทั้งนี้ ในส่วนของรสมิกซ์ฟรุต เครื่องดื่มจะมีลักษณะสีเหลือง เนื่องจากเป็นรสชาติที่มาพร้อมด้วยรสชาติของผลไม้รวมหลายชนิด สร้างความสดชื่นและถูกใจผู้บริโภคมากที่สุด ขณะที่รสมิกซ์เบอร์รี่ รูปลักษณ์ของเครื่องดื่มจะมีสีแดง ถือว่าเป็นรสชาติและสีใหม่ในตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ เนื่องจากมีการรวมรสชาติของผลไม้ตระกูลเบอรี่ มีกลิ่นที่หอมหวาน ที่จะสร้างความสดชื่น ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีใครเคยทำตลาด
สำหรับกลุ่มเป้าหมายของเครื่องดื่มเกลือแร่ซันโว จะมุ่งเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมาย 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มผู้เสียเหงื่อจากการทำงานในสถานที่อากาศร้อน หรือกลางแจ้ง 70% และกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายทั้ง 2 กลุ่มเป็นกลุ่มที่เสียเหงือมาก
ขณะเดียวกัน บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ยังได้ดึงฮีโร่นักชกขวัญใจคนไทยและแฟนมวยทั่วโลก อย่าง “บัวขาว” สมบัติ บัญชาเมฆ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกให้กับเครื่องดื่มเกลือแร่ซันโว เพื่อสื่อถึงความเป็น เครื่องดื่มเกลือแร่ และสร้างสีสันให้กับตลาดดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีผู้ประกอบการในตลาดเข้ามาทำกิจกรรมผ่านสื่ออย่างจริงจัง
นอกจากจะมีการโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่องแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทีวี สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออินเตอร์เน็ต รวมไปถึงการทำ Brand Activation และการทำโรดโชว์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ยังมีแผนที่จะเดินสายแจกสินค้าทดลองดื่มกว่า 2 ล้านขวดทั่วประเทศ เพื่อให้กลุ่มผู้บริโภคได้ลองชิมสินค้า
นายภูริต กล่าวว่า หลังจากได้ทดลองวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไปแล้วในช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา สามารถสร้างยอดขายไต่อันดับขึ้นท๊อปชาร์ตได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากผู้บริโภคและคู่ค้า เพราะราคาจำหน่ายอยู่ที่ขวดละ 10 บาท ในขนาดบรรจุขวดละ 250 มิลลิลิตร
หลังจากนำสินค้าเข้าทำตลาด คาดหวังว่า จะสามารถจำหน่ายได้กว่า 9 ล้านลิตรภายใน 6 เดือนหลังจากนี้ หรือมีแชร์ในตลาดได้ 15-20% และส่งผลให้รายได้กลุ่มนอน-แอลกอฮอล์ เพิ่มขึ้นอีก 1-2% สู่สัดส่วน 30% ในอีก 3 ปีข้างหน้า
ปัจจุบัน ตลาดรวมเครื่องดื่มเกลือแร่ มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 4,200 ล้านบาท โดยในส่วนของปีที่ผ่านมา ตลาดมีอัตราการเติบโต 21% ถือเป็นตลาดที่ค่อนข้างนิ่ง เนื่องจากมีผู้เล่นหลักเพียง 2 ราย คือ สปอนเซอร์ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำตลาดด้วยการครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 80% ตามด้วยเอ็มสปอร์ต มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 15%
นายภูริต กล่าวต่อว่า ภายหลังจากเปิดตัวเครื่องดื่มเกลือแร่ซันโวเข้ามาทำตลาด เชื่อว่าจะทำให้ตลาดรวมเครื่องดื่มเกลือแร่มีสีสีนและมีความคึกคักมากขึ้น เพราะมองว่านับจากนี้ไปผู้เล่นรายเดิมในตลาดน่าจะออกมาทำกิจกรรมการตลาด เพื่อป้องกันส่วนแบ่งการตลาดของตัวเอง
หลังจากส่งน้องใหม่เครื่องดื่มเกลือแร่ซันโว ลงตลาด คงต้องจับตามองกันต่อไปว่า สินค้ากลุ่มนอน-แอลกอฮอล์ ของบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ตัวต่อไป จะเป็นอะไร จะเป็นกลุ่มเครื่องดื่มหรือของใช้ คงต้องรอลุ้น.
ข่าวเด่น