จากปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากผลพวงนโยบายรถคันแรก และเงินบาทที่แข็งค่า ส่งผลให้หลายธุรกิจเริ่มได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นดังกล่าว เนื่องจากคนไทยส่วนหนึ่งนำเงินไปซื้อสินค้าต่างประเทศ ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งต้องหันมาประหยัดค่าใช้จ่าย เพื่อนำเงินไปผ่อนรถ
ทั้งนี้ จากปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว "ธุรกิจชุดชั้นใน" ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นดังกล่าว สังเกตได้จากภาพรวมของตลาดชุดชั้นในที่มีมูลค่า 7,000-8,000 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตเพียง 10% เท่านั้น เนื่องจากผู้หญิงชะลอการซื้อชุดชั้นใน โดยเฉพาะในระดับกลาง-ล่าง
ผลกระทบที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดต่างออกมาปรับตัว เพื่อรองรับกำลังซื้อของลูกค้าที่ปรับตัวลดลง และหนึ่งในนั้นก็คือ "แบรนด์ วาโก้" ซึ่งในปีนี้ของใช้งบการตลาดที่ 100 ล้านบาท ในการทำกิจกรรมการตลาดและนำเสนอนวัตกรรมชุดชั้นในรูปแบบใหม่อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์วาโก้ กล่าวว่า จากกำลังซื้อของลูกค้าที่ชะลอตัว ส่งผลให้ปีนี้บริษัทต้องออกมาทำกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะเดินหน้าเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า
สำหรับกลยุทธที่ "วาโก้" จะนำมาใช้ทำตลาดชุดชั้นในปีนี้ จะเน้นไปที่การเปิดตัวชุดชั้นในที่ใส่แล้วเย็นสบาย ต้อนรับฤดูร้อนในปีนี้ เนื่องจากสภาพอากาศของประเทศไทยในปีนี้ค่อนข้างร้อนจัด ขณะเดียวกันยังได้จัดแคมเปญ วาโก้ บรา เดย์ "บราเก่าของคุณ...อาชีพใหม่ของเขา" ปีที่ 2 เมื่อนำบรามาบริจาคจะได้รับส่วนลด 200 บาท เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายในปีนี้
นอกจากนี้ บริษัท ไอ.ซี.ซี.ฯ ยังมีแผนที่จะปรับโครงสร้างภายในครั้งใหญ่รอบ 43 ปี ด้วยการปรับสินค้าทั้งหมด 60 แบรนด์ จากสินค้ากว่า 100 กลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยการปรับโครงสร้างในครั้งนี้จะมุ่งเน้นการบริหารปรับกระบวนผลิต การจัดหาวัตถุดิบ และการจัดซื้อ ซึ่งจะต้องลงทุนระบบไอทีเพิ่มมากขึ้น เพื่อทำให้การจัดจำหน่ายสินค้าไปสู่คู่ค้าได้เร็วภายใน 1 วัน จากที่ผ่านมาการจัดส่งสินค้าใช้ เวลานานถึง 7 วัน ประเดิมปรับโครงสร้างกลุ่มชุดชั้นในวาโก้แบรนด์แรก จากนั้นจะทยอยปรับทั้งหมดคาดว่าแล้วเสร็จ 2-3 ปีนี้
ในส่วนของเป้าหมายรายได้รวมของบริษัท ไอ.ซี.ซี.ฯ ในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 15% หรือประมาณ 14,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 13,000 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มสินค้าชุดชั้นในวาโก้ เป็นกลุ่มสร้างรายได้หลัก 30% ครองส่วนแบ่งตลาด 60% ในตลาดรวมชุดชั้นใน
ชุดชั้นในอีกหนึ่งแบรนด์ที่ออกมาทำกิจกรรมการตลาดสร้างสีสันให้กับตลาดชุดชั้นในอย่างมากนั่นก็คือ "ซาบีน่า" หลังจากก่อนหน้านี้ดึงดาราสาวชื่อดังอย่าง "คริส หอวัง" มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ให้กับรุ่น ดูม ซีรีส์ บาย ซาบีน่า และคริส คลอลเคชั่น บาย ซาบีน่า มาปีนี้ได้ดึงราดาสาวชื่อดังอย่าง "ชมพู่- อารยา เอ ฮาร์เก็ต" มาเป็น "แบรนด์ แอมบาสเดอร์" ให้กับชุดชั้นในคอลเลคชั่น ‘โมเดิร์น วี’ เพื่อช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ของสินค้า
นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดชั้นในคุณภาพภายใต้แบรนด์ ‘ซาบีน่า’ กล่าวว่า หลังจากชุดชั้นในซาบีน่าได้เริ่มทำตลาด ชุดชั้นในคอลเลคชั่น “โมเดิร์น วี” ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ภายใต้แนวคิด “ยก กระชับ อกชิด” เพื่อช่วยดูแลปัญหาด้านสรีระทรวงอกให้กับสาวๆ วัยทำงาน ที่มักมีปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย เริ่มมีเนื้อส่วนเกินด้านข้าง และหน้าอกไม่ตึงกระชับ ทำให้เกิดปัญหาหน้าอกห่าง ให้กลับมาดูดีและช่วยสร้างความมั่นใจจากการสวมใส่ชุดชั้นในมากขึ้น ส่งผลให้ชุดชั้นในคอลเลคชั่น “โมเดิร์น วี” ได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในวัยทำงานเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น ในปีนี้ "ซาบีน่า" จึงได้ใช้งบ 30 ล้านบาท ในการทำตลาดชุดชั้นในสำหรับสาววัยทำงาน ภายใต้คอลเลคชั่น ‘โมเดิร์น วี’ อย่างจริงจัง โดยหวังว่าชุดชั้นในรุ่นดังกล่าวจะเป็นสินค้าหัวหอกในการผลักดันยอดขายในปีนี้ เนื่องจากได้ดาราสาวชื่อดังอย่าง "ชมพู่- อารยา เอ ฮาร์เก็ต" มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ของสินค้าและบุคลิกภาพของกลุ่มเป้าหมาย ที่เป็นสาววัยทำงานอายุระหว่าง 30-50 ปี
พร้อมกันนี้ ซาบีน่า ยังขอสร้างกระแสความแรงของคอลเลคชั่น โมเดิร์น วี ด้วยภาพยนตร์โฆษณาความยาว 15 วินาที จำนวน 3 ชุด ในแคมเปญ “มีร่องอกใน 6 วินาที ” เพื่อสร้างการรับรู้ถึงจุดเด่นของชุดชั้นในคอลเลคชั่น โมเดิร์น วี พร้อมแนะนำสินค้าใหม่ จำนวน 30 แบบ ที่ยังคงยึดแนวคิดการออกแบบผลิตภัณฑ์ ที่แสดงถึงนวัตกรรมที่ช่วยให้สาวๆ สามารถมีร่องอกชิดสวยได้ทันทีในเวลาอันรวดเร็ว เนื่องจากตัวผลิตภัณฑ์ มีคุณสมบัติเด่นจาก ฟอง Push รูปตัววีด้านใน
สำหรับในส่วนของราคาจำหน่ายชุดชั้นในซาบีน่า คอลเลคชั่น "โมเดิร์น วี" นี้ได้ตั้งราคาไว้ที่ประมาณ 650-790 บาท เพื่อให้สินค้าเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น ขณะที่ช่องทางจำหน่ายหลักก็ยังคงเน้นไปที่จุดขายชุดชั้นในภายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ และ ซาบีน่า ช้อปทุกสาขาทั่วประเทศ
นายบุญชัยกล่าวว่า หลังจากที่ออกมาเปิดตัวชุดชั้นใน โมเดิร์น วี เข้าทำตลาดอย่างจริงจังในปีนี้ เชื่อว่าจะประสบความสำเร็จ เป็นอย่างดี และได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าโดยเฉพาะสาวทำงาน ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของการทำตลาดสินค้าดังกล่าว โดยสิ้นปีคาดว่าจะมียอดขายจากคอลเลคชั่นดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 480 ล้านบาท
ขณะที่เป้าหมายรายได้รวมของซาบีน่าในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 2,400 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 20% โดยในส่วนของรายได้ไตรมาสแรกปีนี้คาดว่าจะเติบโตประมาณ 15% จากปีก่อน เนื่องจากมีการใช้งบลงทุนประมาณ 120-130 ล้านบาท ในการทำการตลาดและขยายสาขาเพิ่มรวมไปถึงการเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
ข่าวเด่น