สรุปการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
หมายเหตุ ข้อมูลที่นำมาคำนวนมาจาก Bisnews และ DailyFX.com และการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของสินทรัพย์คิดจากราคาเปิดและราคาปิดในรอบสัปดาห์ ขณะที่การเหวี่ยงตัวคิดจากราคาสูงสุดและต่ำสุดของสัปดาห์
สรุปการเคลื่อนไหวในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
กระแสข่าวภายในประเทศดูเหมือนจะร้อนแรงกว่าประเด็นต่างประเทศ เนื่องจากประเด็นข่าวเกี่ยวกับค่าเงินบาทออกมาสร้างความผันผวนอย่างมากให้กับตลาดทองคำในประเทศ โดยกระแสที่เป็นที่สนใจของนักลงทุนก็คือ ความความหวังว่าธนาคารแห่งประเทศไทยอาจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงตาม ธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ธนาคารกลางอินเดีย ธนาคารกลางเกาหลีใต้ ธนาคารกลางออสเตรเลีย และธนาคารกลางเวียดนาม ซึ่งจะเห็นได้ว่า การลดอัตราดอกเบี้ยนั้นเป็นหนึ่งในนโยบายการเงินที่หลายประเทศเลือกใช้ สิ่งที่เกิดขึ้นผลักดันค่าเงินบาทให้อ่อนตัวลง จนทำให้ราคาทองคำในประเทศปรับตัวสูงขึ้นมากหากเทียบกับราคาทองคำในตลาดโลก
ขณะเดียวกันนั้นสถานการณ์ในต่างประเทศ มุ่งไปที่การรายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ ซึ่งปรับตัวลง 4,000 ตำแหน่ง มาอยู่ที่ 323,000 ตำแหน่ง (ต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี) สร้างมุมมองเชิงบวกให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯได้เป็นอย่างดี กดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลง ประกอบกับราคาทองคำไม่สามารถผ่าแนวต้านบริเวณ 1,480 ดอลาร์ต่อออนซ์ไปได้ ส่งผลให้เกิดแรงขายทางเทคนิคอออกมาอย่างต่อเนื่อง
ประเมินสถานการณ์และทิศทางราคาทองคำในสัปดาห์นี้
ราคาทองคำ : แนวรับ 1,420(20,100) 1,400(19,800) 1,380(19,500)
แนวต้าน 1,480(20,900) 1,500(21,200) 1,520(21,500)
หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เสนอมาตรการดูแลค่าเงินบาท ซึ่งจะไม่ให้ต่างชาติซื้อพันธบัตรของ ธปท. หรือการถือพันธบัตรของกระทรวงการคลังจำเป็นต้องกำหนดระยะเวลา เพื่อป้องกันการเก็งกำไร รวมไปถึงเสนอให้เก็บภาษีและค่าธรรมเนียมสำหรับต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้เมื่อได้รับผลตอบแทน และนักลงทุนต่างชาติที่นำเงินทุนเข้ามาต้องทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน สิ่งที่เกิดขึ้นต้องติดตามว่าจะส่งผลต่อทิศทางของค่าเงินบาทอย่างไร โดยในวันจันทร์จะมีการหารือเกี่ยวกับประเด็นการแข็งค่าของเงินบาทอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ทางยุโรปนั้นอาจต้องติดตามการประชุมของ Eurogroup เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ประธานอีซีบีตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อส่งสัญญาณถึงความกระตือรือร้นต่อการแก้ไขสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ดังนั้นนักลงทุนควรติดตามท่าทีของ Eurogroup ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจของยูโรโซน รวมไปถึงติดตามประเด็นใหม่ที่เกิดขึ้นในการประชุม และในขณะเดียวกันยังต้องติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจอีกหลายตัวซึ่งจะส่งผลต่อทิศทางของราคาทองคำในระยะสั้นๆได้
สำหรับทางสหรัฐเองนั้นยังคงเป็นไปในลักษณะเดิมคือตัวเลขเศรษฐกิจประจำสัปดาห์โดยเฉพาะตัวเลขในตลาดแรงงาน ซึ่งมักจะส่งผลต่อทิศทางของราคาทองคำ
กลยุทธ์การลงทุน
เนื่องจากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,480 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้เกิดแรงเทขายลงมาที่ระดับ 1,420 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ดังนั้นแล้วกลยุทธ์การลงทุนควรเน้นการเก็งกำไรระยะสั้นเป็นสำคัญ และมีการวางจุดตัดขาดทุนทุกครั้งด้วย อย่างไรก็ตามหากในระหว่างสัปดาห์ราคาไม่สามารถดีดผ่านบริเวณ 1,480 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ อาจเกิดแรงขายออกมาจนเข้าสู่ระดับ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือต่ำกว่าก็เป็นได้ แต่ในทางกลับกันหากราคาทองคำสามารถผ่าน 1,480 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำจะมีโมเมนตัมเชิงบวกให้สามารถขึ้นไปทดสอบระดับ 1,520 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง ส่วนกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ ได้แก่แนวรับบริเวณ 1,420 - 1,380 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวต้านในบริเวณ 1,480 - 1,520 ดอลลาร์ตอออนซ์
การประกาศตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์หน้า
ข่าวเด่น