
เรื่องของสุขภาพเป็นเรื่องที่คนทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ไม่เว้นแม้แต่ในวงการเพลงฮิปฮ็อปของสหรัฐฯ ที่นักร้องหลายคนต้องจบชีวิตก่อนวัยอันควร ด้วยสาเหตุของการพึ่งพายาเสพติด และเจ็บป่วย
ย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษปี 1990 เหมือนกันกลายเป็นวัฒนธรรมของคนในวงการดนตรีสหรัฐฯที่จะต้องหันไปพึ่งยาเสพติด และนั่นทำให้มีบุคคลในวงการบันเทิงหลายคนต้องจบลง ไม่เว้นแม้แต่คนในวงการฮิปฮ็อปล่าสุด คือ "คริส เคลลี" (Chris Kelly) ที่เพิ่งเสียชีวิตด้วยวัยเพียง 34 ปี เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่แอนแลนตาด้วยการเสพยาเกินขนาด หรือถ้าไม่ใช้ยาเสพติด การใช้ชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ของนักร้องเพลงแร็ปหลายคนที่ทำให้พวกเขาต้องเสียชีวิตลง อย่างเช่น เฮฟวี่ ดี (Heavy D) รวมทั้ง เนท ดอก (Nate Gogg) และ ทิม ดอก (Tim Dog) ที่ต่างจบชีวิตด้วยวัยเพียง 40 กว่าปีเท่านั้น
นักร้องเพลงแร็ปรุ่นเก๋าบางคนออกมากล่าวว่าเขาเป็นห่วงนักร้องรุ่นน้อง โดยเฉพาะที่ยังเป็นเยาวชน ที่ตอนนี้มุ่งเน้นไปที่การจัดปาร์ตี้อย่างมีอิสระ และมีคติว่ามีชีวิตอยู่แค่ครั้งเดียวต้องใช้ชีวิตให้คุ้ม ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวเตร่ บุหรี่ เหล้า ซึ่งค่านิยมนี้เป็นสิ่งที่ผิด และส่งผลให้หลายคนป่วยหนักและเสียชีวิตมาแล้ว
“ ฮิปฮอป ถือเป็นวัฒนธรรมการใช้ชีวิตอย่างหนึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมสหรัฐฯ ซึ่งคุณต้องให้ความสนใจว่าบางคนเติบโตไว และโตไวเกินไป” แมล เมล (Melle Mel) นักร้องเพลงแร็ปในตำนานกล่าว
“ ในบางครั้ง ต้องเรียนรู้ว่าฮิปฮอปต้องเรียนรู้วีที่จะเติบโต ซึ่งบางครั้งอาจจะดูเป็นเด็กๆ และเส้นทางยาวไกล แต่ก็เป็นวิธีที่ถูกต้อง”
แมล เมล ตอนนี้มีอายุ 51 ปี มีผลงานที่เป็นที่จดจำอย่างเพลง The Message เมื่อปี 1982 ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับคนหนุ่มสาวในเมืองที่มีชีวิตอย่างเร่งรีบและเสียชีวิตในขณะอายุน้อย ซึ่งตัวของ เมล เอง ก็เจ็บป่วยเป็นโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังเพราะควันบุหรี่และกัญชาจากคนรอบข้าง
“ การเอาตัวเข้าไปกับสิ่งที่ไม่ดีงามเหล่านั้น ก็เหมือนกับการฆ่าตัวตายล่ะครับ ต้องแยกแยะให้ดีว่าอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกดีจริงๆ กับอะไรที่เพียงทำให้คุณรู้สึกดี ไม่คุ้มค่าหรอกครับการทำลายตัวเอง”
นอกเหนือจาก เคลลี แล้ว ยังมีนักร้องเพลงแร็ปอีกหลายคนที่เสียชีวิตด้วยวัยเพียง 30 ปีเศษๆ ในช่วงทศวรรษที่แล้ว อาทิ พิมพ์ ซี ( Pimp C) และ ออล เดอร์ตี้ บัสตาร์ด (Ol Dirty Bastard) แห่งวง Wu-Tang Clan ซึ่งทั้งคู่เสียชีวิตเพราะเสพยาเกินขนาด
อย่างไรก็ตาม เรื่องของนักร้องเพลงฮิปฮ็อปที่จากโลกนี้ไปก่อนไปวัยอันควร ไม่ได้มีเพียงสาเหตุการไปยุ่งกับยาเสพติด หรือเพราะการใช้ชีวิตที่สุดขั้วเท่านั้น ยังมีนักร้องอีกหลายคนที่เสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บที่เข้ามา อย่างเอ็มซี บรีด (MC Breed) ก็เสียชีวิตเพราะไตล้มเหลวเมื่อปี 2008 ขณะที่มีอายุเพียง 37 ปี รวมทั้ง กูรู (Guru) นักร้องเพลงแร็ปชื่อดังก็เสียชีวิตเมื่อปี 2010 ในวัย 48 เพราะโรคมะเร็ง และ อดัม ยอช ( Adam Yauch) แห่งวง Beastie Boys ก็เสียชีวิตด้วยวัย 47 ปี
ผลจากการที่มีนักร้องจำนวนมากเสียชีวิต ทำให้ ลิล เวย์น (Lil Wayne) แลพ ริก รอส (Rick Ross) สองนักร้องฮิปฮ็อปชื่อดังหันมาสนใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะทั้งคู่ก็เพิ่งประสบปัญหาสุขภาพเช่นกัน เช่นเดียวกับ 50 เซ็นต์ (50 Cent) ที่กล่าวว่าเขาแทบจะไม่ดื่มเครื่องดื่อมแอลกอฮอลอีกต่อไป หลังจากเห็นเพื่อนนักร้องหลายคนที่สุขภาพย่ำแย่เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล และเขาก็ตระหนักว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอลไม่ใช่สิ่งที่ควรจะดื่ม เพราะมีโทษต่อร่างกายมากมาย
“ ผมเคยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล ซึ่งจะว่าไปก็เหมือนกับแฟชั่นครับ เวลาคุณไปเที่ยวผับหรือเจอเพื่อนๆ ก็จะมีคนเอาเครื่องดื่มแอลกอฮอลให้คุณ ซึ่งคุณก็ดื่มๆไปจนเคยชิน ซึ่งผมจะไม่ทำอย่างนั้นอีกแล้วครับ ผมไม่อยากทำร้ายตัวเอง ผมยังอยากมีชีวิตอยู่”
ซึ่งจริงๆแล้ว เรื่องของสุขภาพเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เพียงคนในวงการบันเทิงเท่านั้นที่ควรจะใส่ใจ นอกจากดูแลสุขภาพแล้ว สิ่งสำคัญคือการไม่ยุ่งเกี่ยวกับ เหล้า บุหรี่ และ ยาเสพติด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เคยให้อะไรใคร นอกจากทำให้ตายเร็วขึ้นเท่านั้น
ข่าวเด่น