ที่ผ่านมามีความพยายามที่จะสร้างยานพาหนะลูกครึ่งระหว่าง “เครื่องบินและรถยนต์” ที่สามารถบินได้ในอากาศและวิ่งบนท้องถนน หรือที่เรียกกันว่า "รถบินได้" เพื่อให้สามารถใช้เป็นยานพาหนะในชีวิตประจำวันเหมือนในนิยายวิทยาศาสตร์ ช่วยให้เดินทางได้สะดวกสบายคล่องตัว โดยเฉพาะในยามที่การจราจรติดขัดหรือเกิดเหตุฉุกเฉิน
“รถบินได้” เริ่มมีการพัฒนามานานนับแต่ทศวรรษ 1930 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน แต่พาหนะเหล่านั้นมักเป็นเพียงต้นแบบและไม่ได้ถูกนำมาใช้งานจริง โดยยังเหลือเก็บไว้เป็นที่ระลึกในพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ
สำหรับโครงการที่ใกล้เป็นจริงมากที่สุด ได้แก่ โครงการที่เรียกว่า "Transformer" ของสำนักงานโครงการวิจัยขั้นสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ (DARPA) ซึ่งตั้งวิจัยเป็นมูลค่าสูงถึง 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างยานบินที่สามารถวิ่งบนท้องถนนได้ภายในปี 2015
โดยมีเงื่อนไขว่า ยานพาหนะดังกล่าวต้องสามารถขึ้นลงได้ในแนวดิ่งและเดินทางได้เป็นระยะทางไกล 280 ไมล์ และเป็นยานพาหนะที่มีชิ้นส่วนต่าง ๆ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันหรือสามารถถอดชิ้นส่วนทิ้งไว้ที่สนามบินได้เมื่อแปลงร่างเป็นรถยนต์ โดยโครงการนี้มีบริษัท 3 แห่งได้เข้าทำสัญญา รวมถึง Terrafugia, AAI Corporation, และ Textron
ในขณะที่ยังมีบริษัทเอกชนอีกมากมาย พยายามพัฒนายานพาหนะตามแนวคิดดังกล่าว แต่มีเพียงไม่กี่บริษัทที่สามารถพัฒนายานพาหนะบินได้อย่างอิสระ เช่น FSC-1 ของบริษัท LaBiche Aerospace แต่ยังต้องพัฒนาอีกหลายอย่างเพื่อให้ผ่านเกณฑ์ของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) และนำไปสู่การได้รับอนุญาตบินได้โดยผู้ขับไม่ต้องมีใบอนุญาตนักบินส่วนบุคคล (เครื่องบิน) แต่ข่าวเงียบหายไปนับแต่ช่วงปลายปี 2010
เวลานี้ทีมที่ก้าวหน้าที่สุดเห็นจะเป็นทีมงานของ Terrafugia ที่ออกมาประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า จะสามารถนำยานพาหนะพันธุ์ใหม่เข้าตลาดได้อย่างเร็วใน 2 ปี หรือปี 2015
รถบินได้รุ่นนี้มีชื่อว่า “Transition” ถูกออกแบบให้มี 4 ล้อ 2 ปีกที่พับได้ และโดยสารได้ 2 ที่นั่ง ในปี 2012 ที่ผ่านมา Transition เคยบินทดสอบประสบความสำเร็จที่ความสูง 1,400 ฟุต นาน 8 นาที แต่รุ่นที่นำเข้าตลาดจะสามารถบินได้สูง 35,000 ฟุต และทำความเร็วได้สูงถึง 70 ไมล์ต่อชั่วโมงบนท้องถนน และ115 ไมล์ต่อชั่วโมงในอากาศ และใช้พลังจากก๊าซไร้สารตะกั่วเพียงอย่างเดียว
ใครอยากเป็นเจ้าของอาจต้องเร่งหยอดกระปุกกันหน่อย เพราะยานพาหนะใหม่นี้มีสนนราคาขายสูงอยู่ที่ประมาณ 279,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคัน
นอกจากนี้หากคิดจะใช้เอง ต้องเตรียมตัวให้พร้อม เนื่องจากจำเป็นต้องมีใบอนุญาตนักบินส่วนบุคคล และต้องมีประสบการณ์การทดสอบบินรวม 20 ชั่วโมง
ส่วนอีกรุ่นที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา ได้แก่ TF-X ซึ่งมีขนาด 4 ที่นั่ง สามารถขึ้นและลงในแนวดิ่งจึงไม่ต้องใช้รันเวย์ แต่อาศัยใบพัดยกที่ได้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ปีกแต่ละข้าง เพื่อช่วยให้ผู้ขับเปลี่ยนไปใช้โหมดงานบินได้ทันที เพื่อเลี่ยงการจราจรติดขัด ใช้พลังงานจากแบตเตอรี โดยสามารถทำความเร็วได้สูงถึง 321 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและบินได้ไกลถึง 800 กิโลเมตร มีระบบช่วยลงจอดอัตโนมัติ พร้อมเก็บปีกและใบพัดเตรียมพร้อมสำหรับวิ่งบนท้องถนนทั่วไป ซึ่งทางบริษัทจะทำตลาดแข่งกับรถหรูหราทั้งหลาย
.jpg)
ข่าวเด่น