หุ้นทอง
KTAM ชี้ "กองตราสารหนี้" รีเทิร์นแคบ 2.85% เข็น "อีทีเอฟ" ดัชนีธุรกิจพาณิชย์ดึงนักลงทุนกลับ


KTAM ระบุ กองทุนตราสารหนี้ถึงเวลาแผ่ว หลังผลตอบแทนลดต่อเนื่องเหลือแค่ราว 2.85% แถมมีแนวโน้มหดอีก หาก กนง.ตัดสินใจลดดอกเบี้ยวันที่ 29  พ.ค.นี้ ลง0.25% เล็งขน "KTAM SET Commerce ETF Tracker" กองทุนรวมอีทีเอฟอ้างอิงดัชนีธุรกิจพาณิชย์ เสนอขายเพิ่มทางเลือกการลงทุนแทน

 
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาความน่าสนใจในกองทุนตราสารหนี้ (Fix income fund) มีแนวโน้มปรับตัวลดลง เนื่องจากผลตอบแทน (Yield) ของพันธบัตรระยะยาวโดยเฉลี่ยในขณะนี้เหลือเพียงประมาณ 2.85-3% จากต้นปีที่อยู่ประมาณ 3.5% ดังนั้นนักลงทุนระยะยาวจึงอาจไม่สนใจที่จะเข้าลงทุนในกองทุนดังกล่าวมากนัก

ขณะเดียวกันกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น (Term Fund) ซึ่งเป็นกองทุนที่มีส่วนผสมทั้งพันธบัตรในประเทศและต่างประเทศก็มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนลดลงเช่นกัน เนื่องจากปัจจุบัน บลจ.หลายแห่งต่างแข่งขันกันเข้าซื้อพันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนดี ผลักดันให้ราคาตราสารปรับตัวขึ้น และเป็นผลกดดันให้ Yield ปรับตัวลดลง จึงเป็นปัจจัยลบต่อการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้

นอกจากนี้ หากการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 29 พ.ค.นี้ มีข้อสรุปว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ก็จะยิ่งกดดันให้Yieldกองทุนตราสารหนี้ปรับตัวลดลงอีกทางหนึ่งด้วย 

"ที่ผ่านมาผลตอบแทนของกองทุนตราสารหนี้ระยะยาวก็ปรับลดลงต่อเนื่อง ส่วนตราสารหนี้ระยะสั้นก็หาของยากขึ้น ดังนั้นถ้ามารวมกับปัจจัยลบที่ว่า กนง.อาจจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในรอบการประชุมวันที่ 29พ.ค.นี้ ก็จะยิ่งทำให้กองทุนตราสารหนี้มีโอกาสได้รับความสนใจลดลง ดังนั้นเราจึงต้องหากองทุนทางเลือกอื่นๆที่น่าสนใจเข้ามาดึงดูดนักลงทุน"นายสมชัยกล่าว

ทั้งนี้ บลจ.กรุงไทย จึงเตรียมเสนอขายกองทุนเปิด "KTAM SET Commerce ETF Tracker" (ECOMM) ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟที่อ้างอิงกับดัชนีหมวดธุรกิจพาณิชย์ (SET Commerce Sector Index) กองทุนแรกของประเทศไทย โดยจะเสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไปครั้งแรก(IPO) ระหว่างวันที่ 27-31 พ.ค.56 มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท ลงทุนขั้นต่ำ 5,000บาท โดยกองทุนดังกล่าวจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 11 มิ.ย.นี้

นายสมชัยกล่าวว่า ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจพาณิชย์ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 39.49% สูงกว่าเมื่อเทียบกับการปรับตัวขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นไทยในภาพรวมที่เพิ่มเพียง 22.20% อีกทั้งคาดว่ากลุ่มธุรกิจพาณิชย์จะมีแนวโน้มเติบโตได้ต่อจากปัจจัยหนุนด้านพฤติกรรมการบริโภคของประชาชน รวมถึงโอกาสการกระจายสินค้าไปยังประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในอาเซียน ซึ่งกำลังจะมีความสัมพันธ์ระหว่างกันมากขึ้นจากการเปิดเสรีประชาคมอาเซียนในปี 2558 ที่จะถึงนี้



บันทึกโดย : Adminวันที่ : 23 พ.ค. 2556 เวลา : 13:55:09
22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 6:51 pm