หลังจาก "อิชิตัน" ประสบความสำเร็จกับธุรกิจเครื่องดื่มเป็นที่เรียบร้อย แม้ว่าจะเปิดตัวเครื่องดื่มชาเขียวเข้าทำตลาดได้เพียงแค่ 2 ปีจากผลการตอบรับที่ถล่มทลายจากลูกค้าที่เป็นแฟนพันธ์แท้ของเจ้าพ่อชาเขียว เนื่องจากกระโดดลงพรีเซ็นเตอร์โฆษณาสินค้าด้วยตัวเอง ขณะเดียวกันก็เดินสายไปบรรยายตามสถานที่ต่างๆ พร้อมกับทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง วันนี้คงมีน้อยคนที่ไม่รู้จัก “อิชิตัน”
เมื่อชาเขียวแรงได้ที่จนติดตลาดในระยะเวลาเกือบ 2 ปี อิชิตันก็เพิ่มความแรงด้วยการส่งเครื่องดื่มชาเขียวผสมน้ำสมุนไพรภายใต้ชื่่อ "เย็นเย็น" เข้ามาเสริมทัพทันที โดยสิ้นปีนี้ อิชิตันคาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 35% ขณะที่คู่รักคู่แค้นอดีตแบรนด์ที่ปั้นมากับมือจะมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 40% จากตลาดรวมที่คาดว่าจะพุ่งสูงถึง 15,000 ล้านบาท
จากความสำเร็จที่ได้รับดังกล่าวส่งผลให้ อิชิตัน มีแผนที่จะนำบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปลายปีนี้ แต่ก่อนที่จะถึงวันนั้น อิชิตัน ก็ขอแตกธุรกิจอาหาร เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับภาพรวมของธุรกิจก่อน ด้วยการเปิดตัวบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ บริษัท กินกับตัน จำกัด เพื่อดูแลธุรกิจอาหารโดยเฉพาะ
ปัจจุบั นร้านอาหารภายใต้การบริหารงานของบริษัท กินกับตัน จำกัด มีด้วยกัน 5 แบรนด์ ประกอบด้วย เมลทมี ฮอกไกโด ช็อคโกแลต แอนด์ เฮลธี เจลาโต้ , ราเมนแชมเปี้ยนส์ , ตันตัน อิซากายะ บุฟเฟ่ต์ , โทคิยะเจแปนิส ฟูล คอร์ส และซูชิ โอตารุ ซึ่งในอนาคตก็มีแผนที่จะเปิดตัวร้านอาหารแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
สำหรับในส่วนของร้านเมลทมี ฮอกไกโด ช็อคโกแลต แอนด์ เฮลธ์ เจลาโต้ ปัจจุบันมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการอยู่ที่ประมาณ 10 สาขา โดยในส่วนของปลายปีนี้ กินกับตัน มีแผนที่จะรีเฟรชแบรนด์ใหม่และเปิดสาขาเพิ่มที่เมกาบางนา ขณะเดียวกันก็เตรียมเปิดตัวร้านรูปแบบใหม่ภายใต้ชื่อ เมลทมีช็อคโกแลตคาเฟ่ ที่ศูนย์การค้าสยามวัน เพื่อขายช็อคโกแลต เครื่องดื่ม และอาหารที่มีส่วนผสมของช็อคโกแลต
ขณะที่ร้านราเมนแชมเปี้ยนส์ เดิมมีราเมน 6 แบรนด์จะเอาออก 3 แบรนด์ และนำอาหารแบบใหม่ 3 แบรนด์มาแทน คือ ร้านอุคุชิ ซากุระซากุ ร้านปลาและอาหารทะเลปิ้งย่าง ร้านชองมารุ สเต๊กเมนูคอร์ส และร้านโชแนนเคอรี่ ข้าวหน้าแกงกะหรี่ โดยในไตรมาส 3 นี้คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการร้านอาหารแบรนด์ดังกล่าวที่ทองหล่ออารีน่าเทน
ส่วนร้านตันตัน อิซากายะ บุฟเฟ่ต์ สไตล์ญี่ปุ่น มี 4 สาขาคือ อารีนาเทน เอสพละนาด ลพบุรี อุดรธานี และภูเก็ต ขณะที่ร้านโทคิยะ แจแปนิส ฟูล คอร์ส ปัจจุบันมี 2 สาขา คือ สยามดิสคัฟเวอรี่และทองหล่อ เป็นอาหารเซ็ตคอร์สแบบโมเดิร์นแจแปนิส ในปีนี้ยังมีแผนเปิดให้บริการเพิ่ม และแบรนด์สุดท้ายร้านซูชิโอตารุ ปัจจุบันมีสาขาเปิดให้บริการที่อารีนาเทน เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าญี่ปุ่นและไทย ระดับบน
ในด้านของแผนการลงทุน กินกับตันมีแผนที่จะใช้งบลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท ในการขยายธุรกิจร้านอาหารในช่วง 3-5 ปีนับจากนี้ เพื่อให้มีจำนวนร้านอาหารในเครือเปิดให้บริการรวมกันครบ 50-60 สาขา ขณะที่แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ กินกับตัน มีแผนที่จะใช้งบลงทุน 60-70 ล้านบาท ในการเปิดร้านอาหารสาขาใหม่อีกประมาณ 4 สาขา และขยายธุรกิจรับจัดเลี้ยงหรือแคเธอริ่ง
นางสุนิสา ภาสกรนที รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กินกับตัน จำกัด กล่าวว่า ผู้บริโภคชาวไทยรู้จักอาหารญี่ปุ่นมานานพอสมควรแต่เป็นการรู้จักอาหารญี่ปุ่นที่ได้ปรับรสชาติให้ถูกปากคนไทยจนอาจสูญเสียความดั้งเดิมออกไปบ้าง ขณะเดียวกันก็มีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบรสชาติอาหารแบบญี่ปุ่นแท้ๆ และรู้จักลึกซึ้งถึงรสชาติจากท้องถิ่นดั้งเดิมของภูมิภาคต่างๆ ในญี่ปุ่นประกอบกับจำนวนคนญี่ปุ่นที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นธุรกิจอาหารภายใต้บริษัท กินกับตัน จึงเน้นการให้บริการลูกค้ากลุ่มนี้ด้วยการบริการด้านอาหารที่มีรสชาติความเป็นญี่ปุ่นต้นตำรับอย่างแท้จริง
หลังจากแยกบริษัทออกมา กินกับตัน มีแผนที่จะเดินหน้าพัฒนาแบรนด์ต่างๆให้คงความพรีเมี่ยม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุด ซึ่งนอกจาก กินกับตัน จะเน้นดำเนินธุรกิจร้านอาหารแล้ว ยังมีแผนที่จะมุ่งไปที่ธุรกิจใหม่ภายใต้ชื่อ "เคเทอริ่ง บาย กินกับตัน" (Cateringby KinKabTan) ที่มีการจัดเตรียมอาหาร เครื่องดื่ม และอุปกรณ์สำหรับงานเลี้ยงทุกรูปแบบ เป็นการรวมจุดเด่นของ 3 แบรนด์ไว้ร่วมกัน
สำหรับความโดดเด่นของธุรกิจ เคเทอริ่ง บาย กินกับตัน จะเป็นการนำเมนูอาหารของร้านอาหารทั้ง 3 แบรนด์ มาใช้สำหรับจัดเลี้ยง ด้วยการเน้นอาหารรสชาติญี่ปุ่นแท้ๆ ของตันตันอิซากายะ ขนมแบบโฮมเมดพรีเมี่ยมสไตล์ญีปุ่น ของเมลทมีช็อคโกแล็ต และการบริการเป็นเลิศ ระดับโรงแรมของโทคิยะ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “GoodTaste Comes with Great Mood” ซึ่งเป็นการให้บริการอย่างครบวงจรมากขึ้น
นางสุนิสา กล่าวว่า หลังจากตั้งบริษัท กินกับตัน ขึ้นมาเมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว เพื่อปรับโครงสร้างทางธุรกิจแยกธุรกิจร้านอาหารออกมา บริหารจัดการเอง ซึ่งเพิ่งเริ่มต้นยังมีรายได้ไม่มากนัก แยกจากธุรกิจเครื่องดื่มแบรนด์อิชิตันที่มีรายได้มากกว่าที่ยังคงอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด เหมือนเดิม เพื่อสร้างความชัดเจนและโอกาสในการเติบโตของแต่ละธุรกิจ เนื่องจากในปลายปีนี้ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ขณะนี้ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด ได้ยื่นไฟล์ลิ่งไปแล้ว โดยมีบริษัท เอเซียพลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งตอนนี้บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทจาก 600 ล้านบาทเป็น 1,000 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และหลังจากนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะเพิ่มทุนอีก 300 ล้านบาท รวมเป็น 1,300 ล้านบาท
จากจำนวนร้านอาหารที่เริ่มมีมากขึ้น กินกับตัน จึงมีแผนที่ทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างแบรนด์ร้านอาหารให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งล่าสุดได้มีการเปิดตัวโปรโมชั่นกับร้านอาหารทุกร้านที่ตั้งอยู่ในอารีนาเทนทองหล่อ ด้วยการจัดโปรโมชั่นมา 4 จ่าย 3 เพื่อสร้างแบรนด์ร้านอาหารและกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้า โดยในส่วนของแคมเปญดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1-9 มิ.ย.นี้
หลังจากออกมาทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง กินกับตัน คาดว่าปีนี้น่าจะมีรายได้จากธุรกิจอาหารเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท โดยในอีก 5 ปีข้างหน้า กินกับตัน คาดว่าจะมีรายได้จากธุรกิจร้านอาหารไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท
ทั้งนี้ หากนำมารวมกับรายได้ของ อิชิตัน ที่ปีนี้ตั้งเป้ารายได้ธุรกิจเครื่องดื่มไว้ที่ 4,500 ล้านบาท จะส่งผลให้มีรายได้รวมของทั้ง 2 ธุรกิจสิ้นปีนี้ไม่ต่ำกว่า 5,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 3,800 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่ม 3,400 ล้านบาท และอาหาร 400 ล้านบาท
จากแนวทางการดำเนินธุรกิจที่วางไว้เป็นสเต็ป กับเป้าหมายรายได้ทะลุ 5,000 ล้านบาทในสิ้นปีนี้จาก 2 ขาธุรกิจที่คุ้นเคย เชื่อว่าคงทำให้บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป คว้าเป้าหมายมาได้ไม่ยาก แม้ว่าตอนนี้ทุกอย่างจะอยู่ในจุดเริ่มต้น แต่จากผลลัพธ์ที่สะท้อนกลับมาเกินคาดสมกับการเป็นนักมาร์เก็ตติ้งตัวยงของ ตัน ภาสกรนที คงไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
การก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 ของ อิชิตัน กรุ๊ป ในปีนี้จากแผนการดำเนินงานที่ประกาศไปคงพอจะทำให้เห็นทิศทางวางจะเดินไปทางไหน แม้ว่าขณะนี้ อิชิตัน กรุ๊ป จะประสบความสำเร็จมาในระดับหนึ่ง แต่ก่อนที่จะถึงจุดที่ประสบความสำเร็จสูงสุดคงได้เห็นฝีมือทางการการตลาดของผู้ชายที่ชื่อ "ตัน ภาสกรนที" อีกหลายยก.
ข่าวเด่น