พอก้าวเข้าสู่หน้าฝนหนึ่งสินค้าที่มีหน้าขายในฤดูกาลนี้คงจะหนีไม่พ้น "เครื่องซักผ้า" ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างทยอยเปิดตัวเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่เข้ามาทำตลาด เพื่อชิงยอดขายก่อนเข้าสู่หน้าฝน
ปัจจุบันภาพรวมตลาดเครื่องซักผ้ามีมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 1.7 ล้านเครื่อง โดยเครื่องซักผ้าฝาหน้ามีสัดส่วนตลาดอยู่ที่ประมาณ 10% ฝาบน 50% และ 2 ฝา 40% ซึ่งในส่วนของปีนี้คาดว่าภาพรวมตลาดเครื่องซักผ้าจะอัตราการเติบโตที่ 10% หรือประมาณ 1.9 ล้านเครื่อง แบ่งเป็นตลาดเครื่องซักผ้าฝาหน้าอยู่ที่ 1.3 ล้านเครื่อง ฝาบนกว่า 8 แสนเครื่อง และ 2 ฝา กว่า 9 แสนเครื่อง
ในด้านของผู้นำตลาดปัจจุบัน "แอลจี" ยังคงครองความเป็นผู้นำตลาดต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 ด้วยการครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 30% ตามด้วย "ซัมซุง" ครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 25% และ "ฮิตาชิ" ครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ประมาณ 10% ซึ่งแบรนด์อันดับ 2 และอันดับ 3 ได้ออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
สำหรับแบรนด์เจ้าตลาด ล่าสุด "แอลจี" ได้ออกมาเปิดตัวเปิดตัวเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ในระบบ "ซิกส์ โมชั่น อินเวอร์เตอร์ ไดเร็ค ไดร์ฟ" เข้ามาทำตลาดทั้งหมด 19 รุ่น แบ่งเป็นฝาหน้า 10 รุ่น และฝาบน 9 รุ่น ซึ่งจำนวนสินค้าดังกล่าวที่เตรียมนำเข้ามาทำตลาดในปีนี้ถือว่าเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่เปิดตัวไปเพียง 12 รุ่น
แต่รุ่นที่จะเป็นหัวหอกสำหรับการทำตลาดในปีนี้ คือ เครื่องซักผ้าฝาหน้า รุ่น WD-1755RDS ขนาด 17 กิโลกรัม ซึ่งถือเป็นเครื่องซักผ้าที่ใหญ่ที่สุดในตลาดที่มาพร้อมเทคโนโลยีทรงประสิทธิภาพ “ซิกส์ โมชั่น อินเวอร์เตอร์ ไดเร็ค ไดร์ฟ” ลิขสิทธิ์เฉพาะของแอลจี ด้วยการชูระบบถังซักเคลื่อนที่ได้ถึง 6 ทิศทาง
นอกจากนี้ เครื่องซักผ้ารุ่นดังกล่าวยังมาพร้อมเทคโนโลยี “ทรูสตรีม” ทำงานด้วยไอน้ำร้อน 100 องศาเซลเซียส สามารถช่วยขจัดสารก่อภูมิแพ้ และทำให้ผ้าสะอาดหมดจดอย่างแท้จริง ขณะเดียวกันยังช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดพลังงานได้ถึง 45% เนื่องจากมีเทคโนโลยีอัจฉริยะ สมาร์ท ไดแอกนอซิส ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้อย่างง่ายๆ ด้วยตัวเอง
นายนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน บริษัท แอลจี อิเล็กทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การที่นำเครื่องซักผ้าฝาหน้า ซิกส์ โมชั่น อินเวอร์เตอร์ ไดเร็ค ไดร์ฟ ระบบถังซักเคลื่อนที่ได้ 6 ทิศทาง รุ่น WD-1755RDS ขนาด 17 กิโลกรัมเข้ามาทำตลาดในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดแล้ว ยังถือเป็นการตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดเครื่องซักผ้าที่มีขนาดตั้งแต่ 10 กิโลกรัมขึ้นไป
สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักของการทำตลาดสินค้าดังกล่าวนั้น จะเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าที่อยู่อาศัยในโครงการคอนโดมิเนียม เนื่องจากเครื่องซักผ้าฝาหน้าสามารถบิ้วอินรวมไปกับเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่นๆได้ เพื่อไม่ให้กินพื้นที่ในการแต่งห้อง ซึ่งเครื่องซักผ้าฝาหน้าถือเป็นเครื่องซักผ้าชนิดเดียวที่แอลจียังไม่เป็นผู้นำตลาดในปัจจุบัน
ดังนั้น ในปีนี้แอลจีจึงหันมาโหมเปิดตัวสินค้าใหม่ และทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องภายใต้งบการตลาดทั้งปีที่เตรียมไว้ประมาณ 300 ล้านบาท เพิ่มขึ่นจากปีที่ผ่านที่ใช้ไปประมาณ 250 ล้านบาท เพื่อทำการตลาดแบบ 360 องศา ทั้งการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น การจัดโรดโชว์ไปตามสถานที่ต่างๆ เป็นต้น
สำหรับช่วงไตรมาสสองนี้จนไปถึงช่วงหน้าฝนนี้ นายนิพนธ์มองว่า ภาพรวมตลาดน่าจะทรงตัวเท่าปีก่อน ขณะที่การแข่งขันจะรุนแรงเช่นเดิม มุ่งเน้นในเรื่องของเทคโนโลยี รวมถึงการแข่งขันทางด้านราคาเป็นหลัก ซึ่งปีนี้มีแนวโน้มการทำราคาโปรโมชั่นน่าจะลดลงราว 15% เช่นปีก่อน โดยแอลจีพร้อมใช้กลยุทธ์ทางการตลาดแบบ 360 องศา
นายนิพนธ์ กล่าวว่า แนวโน้มของราคาเ้ครื่องซักผ้าในปีนี้ยังคงทรงตัว เนื่องจากผู้เล่นในตลาดยังคงแข่งขันกันในเรื่องของนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยในส่วนของ 2 ถัง ราคาจะเฉลี่ยที่ 5,000-10,000 บาท ฝาบน 7,000-15,000 บาท และฝาหน้าราคา 15,000-60,000 บาท ซึ่งการที่บริษัทหันมารุกตลาดฝาหน้ามากขึ้นก็เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับรายได้ และเป็นผู้นำตลาดเครื่องซักผ้าในทุกเซ็กเมนท์
หลังจากหันมาทำกิจกรรมการตลาดมากขึ้น แอลจีคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีส่วนแบ่งการตลาดเครื่่องซักผ้าขนาดมากกว่า 10 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจาก 25% เป็น 40% ขณะเดียวกันก็จะขึ้นเป็นผู้นำตลาดในตลาดเครื่องซักผ้าฝาหน้าแทนที่อิเล็กโทรลักซ์ ด้วยการครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 35% เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 28%
อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา แอลจีมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นมาแล้วอยู่ที่ประมาณ 31% ขณะที่ภาพรวมยอดขายเครื่องซักผ้าของ แอลจีในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายรวมอยู่ที่ประมาณ 20% หรือมีมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมามียอดขายอยู่ที่ 4,100 ล้านบาท
นอกจากจะรุกทำการตลาดสินค้าใหม่แล้ว ในการผลิตปีนี้แอลจีก็มีแผนที่จะลงทุนในส่วนของโรงงานผลิตเครื่องซักผ้าภายใต้งบลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าจาก 2.1 ล้านเครื่องต่อปี เป็น 2.3 ล้านเครื่องต่อปี เพราะนอกจากผลิตเพื่อขายในประเทศแล้ว แอลจียังผลิตสินค้า เพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ อีกด้วย
ปัจจุบัน แอลจีมีการส่งออกเครื่องซักผ้าไปทำตลาดในต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 70% ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 30% เป็นการทำตลาดในประเทศ 30% ซึ่งในส่วนของฐานการผลิตในประเทศไทย ถือเป็น 1 ใน 4 ของฐานการผลิตเครื่องซักผ้าของแอลจีทั่วโกล โดยอีก 3 แห่งอยู่ที่ อินเดีย จีน และเกาหลี
แม้ว่าปีนี้ แอลจีจะประสบกับปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่า ส่งผลให้ผลกำไรที่ได้จากการส่งออกปรับลดลง แต่จากการที่แอลจีออกมาปรับแผนการดำเนินธุรกิจด้วยการมุ่งเน้นเรื่องของการลดต้นทุนและการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงทำให้แอลจีได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าไม่มากนัก
ขณะที่ผู้นำตลาดเครื่องซักผ้าออกมาบุกหนัก เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาด ในด้านของผู้เล่นอันดับ 2 และอันดับ 3 ก็ออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าทำตลาดอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยในส่วนของ "ซัมซุง" ปีนี้มีแผนที่จะเปิดตัวเครื่องซักผ้าเข้ามาทำตลาดจำนวน 20 รุ่น ซึ่งรุ่นที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภค คือ ฝาหน้า รุ่น Wobble WA10W9 รุ่น Wobble WA14W9 และ รุ่น Wobble WA14WP
หลังจากเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าทำตลาด ซัมซุงคาดการณ์ว่าสิ้นปีจะมียอดขายเติบโตเป็นที่น่าพอใจ และตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ซึ่งปัจจุบันซัมซุงเป็นผู้นำเกือบทุกกลุ่มสินค้า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศ หรือตู้เย็น
ขณะที่ "ฮิตาชิ" ปีนี้มีแผนที่จะเปิดตัวเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดทั้งหมด 25 รุ่น แต่ไฮไลท์ของสินค้าที่นำเข้ามาทำตลาดในปีนี้ก็คือ เครื่องซักผ้าถังเดี่ยวอัตโนมัติฝาบน ขนาดถัง 16 กิโลกรัม รุ่น SF-160KJ บีท เวฟ วอช เจท ดราย ซีรีย์ ซึ่งมาพร้อมระบบคลายผ้าหลังปั่นหมาด ลดรอยยับบนเสื้อผ้าและปัญหาผ้าพันกัน- โปรแกรมซักแบบประหยัด ช่วยประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ และซักผ้าน้อยชิ้น
จากการที่ผู้ประกอบการเครื่องซักผ้าออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนน่าจะช่วยให้ผู้ประกอบการมียอดขายโกยเข้ากระเป๋าได้เป็นที่น่าพอใจ.
ข่าวเด่น