สุขภาพ
ปวดศีรษะไมเกรน "ปลิงบำบัด" รักษาได้












 

เคยมีคำกล่าวที่ว่า "จากสูงสุดคืนสู่สามัญ" น่าจะช่วยสะท้อนสภาพสังคมของคนยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี เมื่อมีการปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตใหม่ หลังจากค้นพบว่า “ความศิวิไลซ์” นำมาซึ่งปัญหาหลากหลาย ทั้งภาวะโลกร้อน การทำลายพื้นที่ป่าธรรมชาติ ปัญหามลพิษ ขยะมูลฝอยมากมาย เกิดโรคร้ายมากมาย ทั้งโรคเก่าโรคใหม่และเชื้อโรคใหม่ๆ โดยคนยุคใหม่พยายามใกล้ชิดกับธรรมชาติเพิ่มขึ้น หันมาเพาะปลูกและบริโภคพืชผักอินทรีย์ เช่นเดียวกับการรักษาความเจ็บป่วยที่หันมาใช้สิ่งที่เรียกกันว่า “การแพทย์ทางเลือก” กันเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการเยียวยาแบบธรรมชาติ ไม่ต้องใช้ยา หรือบ้างก็เป็นภูมิปัญญาที่ใช้กันมานานแต่โบราณ

การบำบัดรักษาโรคอย่างหนึ่งที่ถูกนำมาใช้กัน คือ นำสัตว์มาช่วยในการบำบัดรักษาโรค เช่น ใช้ “ผึ้งบำบัด” (Apitherapy ) โดยให้ผึ้งฝังเหล็กในรักษาผู้ป่วยโรคต่าง ๆ เช่น ไขข้ออักเสบ รูมาตอยล์ นิ้วล็อก ปวดริดสีดวง อัมพฤกษ์ ภูมิแพ้ ไอเรื้อรัง ถุงน้ำดีอักเสบเรื้อรัง ลำไส้อักเสบเรื้อรัง ความดันโลหิตสูงเส้นเลือดตีบ อ่อนเพลีย

ในไทยมีให้บริการรักษาอยู่หลายแห่ง เช่น  โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย และศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จ.ชุมพร  หรือ การใช้ “หนอนแมลงวันบำบัด” (Maggot Therapy) ช่วยรักษาบาดแผลเพื่อกำจัดเนื้อตายให้ผู้ป่วยโดยไม่ต้องดมยาสลบเพื่อทำการผ่าตัด เป็นวิธีที่ได้ผลดี ได้รับการยอมรับและความนิยมในต่างประเทศ เช่น เยอรมนี เป็นต้น 

การบำบัดอีกอย่างที่มีการนำมาใช้กันในปัจจุบันได้แก่ “ปลิงบำบัด” (Hirudotherapy) สัตว์น่ากลัว น่าขยะแขยงที่ถูกนำมาใช้ในการบำบัดรักษามานาน นับจากยุคกรีก โรมัน และอาหรับกว่า 2,500 ปี ที่ใช้ปลิงดูดเลือดเสียออกจากร่างกาย ในอียิปต์ก็มีหลักฐานใช้ปลิงรักษาโรคมาราว 3,000 ปีเช่นกัน ในศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมาเริ่มทำในเชิงการค้าโดยมีการเพาะเลี้ยงปลิงและส่งออกขายให้กับทางโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อใช้ในการรักษาโรค ซึ่งมี 15 สปีชีส์ที่นิยมนำมาใช้ทางการแพทย์ จากที่มีอยู่ประมาณ 600 สปีชีส์
 

"ปลิง" เป็นสัตว์ไม่มีพิษ และดูดเลือดสัตว์อื่นเป็นอาหาร จึงช่วยเยียวยาและป้องกันโรคได้มากมาย ซึ่งในการบำบัดแพทย์จะใช้วิธีนำปลิงไปวางบนตำแหน่งที่ต้องการรักษา โดยใช้รักษาโรคหลายอย่าง เช่น ฝีหนองบวมอักเสบ โรคหัวใจ โรคไขข้ออักเสบ โรคเกี่ยวกับหลอดเลือดดำ โรคตึงเครียดของกล้ามเนื้อ การเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด หรืออาการปวดของกระดูกสันหลัง เป็นต้น นอกจากนี้ ยังนิยมใช้ปลิงในด้านศัลยกรรมความงามช่วยดูดเลือดเสียออกมาไม่ให้คั่งค้าง
 
ความลับที่อยู่เบื้องหลังการบำบัดโรคต่าง ๆ ด้วยปลิงอยู่ที่สารในน้ำลายของมัน โดยเมื่อปลิงเริ่มดูดเลือดและปล่อยน้ำลายออกมา ในน้ำลายนอกจากมีสารที่คล้ายยาชาแล้ว ยังมีเอนไซม์หลายชนิดที่สามารถใช้ในการรักษาโรคได้ เช่น ฮิรูดิน (Hirudin) ที่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการแข็งตัว การตกตะกอนของเลือด เอกลินส์ (Eglins)ช่วยต้านอักเสบและ คาร์บอกซิเพปทิเดสเออินฮิบิเตอร์ (Carboxipeptidase A inhibitors)ที่ช่วยเพิ่มการไหลเข้าของเลือดไปยังตำแหน่งที่ถูกกัด เป็นต้น

แม้แต่ “ปวดศีรษะไมเกรน” ปัจจุบันยังมีการนำปลิงมาช่วยบำบัดได้อีกทางหนึ่ง ดังการให้บริการของอะลิกจา โคลีสโก ผู้เชี่ยวชาญชาวสหรัฐในลาสเวกัสและนิวยอร์กที่เปิดให้บริการปลิงบำบัดที่มีลูกค้าจากทั่วโลก  สำหรับอาการไมเกรนนั้นเป็นอาการปวดศีรษะที่เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทที่หลอดเลือดแดงบริเวณศีรษะ เป็นโรคเรื้อรังไม่หายขาดและอาจจะมีอาการเป็นครั้งคราว สร้างความทุกข์ทรมานแก่ผู้ป่วยพอสมควร จนองค์การอนามัยโลก(WHO) ถึงกับเปรียบอาการปวดศีรษะรุนแรงจากไมเกรนว่า ร้ายแรงไม่ต่างไปจากโรคสมองเสื่อม อัมพาตทั้งแขนและขา และโรคจิต เลยทีเดียว
 
ส่วนขั้นตอนการรักษา เริ่มจากนำปลิงวางที่ศีรษะบริเวณขมับ คิ้ว เพื่อให้ปลิงดูดเลือด ซึ่งจะให้ความรู้สึกคล้ายเข็มฉีดยาเจาะผิวหนัง เจ็บเล็กน้อยแต่อยู่ในระดับที่สามารถทนได้ เพราะปลิงจะหลั่งสารที่ทำให้รู้สึกชาออกมาทำให้ไม่เจ็บมาก การรักษาใช้เวลาเพียง 40 นาที ซึ่งปลิงจะดูดเลือดจนอิ่มและหลุดออก จากนั้นผู้รักษาจะนำไปแช่ในอัลกอฮอล์เพื่อกำจัด ไม่นำมาใช้ซ้ำ เพราะจะทำให้เสี่ยงต่อการนำเชื้อในตัวผู้ป่วยรายหนึ่งไปยังอีกรายหนึ่งได้ 
 
คอร์สรักษาจำเป็นต้องทำประมาณ 3 ครั้งต่อสัปดาห์เป็นเวลาหลายสัปดาห์ แต่ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาสามารถรู้สึกได้ว่า ตัวเองมีอาการดีขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรก ขณะที่แผลรอยปลิงกัดจะหายใน 2-3 วันเท่านั้น  ส่วนโรคอื่นที่ผู้เชี่ยวชาญบริการรักษา คือ เป็นหมัน ปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจและศีรษะล้าน
 
เห็นประโยชน์ของปลิงแล้ว เชื่อว่า คงจะทำให้หลาย ๆ คนมองเห็นมันเป็นสัตว์ที่น่ากลัว น่าขยะแขยง น้อยลงไปได้
 
 
 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 03 มิ.ย. 2556 เวลา : 18:33:01
22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 5:49 pm