สมัยนี้ใครที่ว่าโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างเอดส์ว่าน่ากลัวที่สุดแล้ว คงต้องคิดใหม่ เพราะด้วยพฤติกรรม รสนิยมที่หลากหลาย ชัดเจนมากขึ้นของคนยุคปัจจุบันนี้ มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพนัธ์อีกหลายโรค ซึ่งนอกจากเอดส์แล้ว ที่ต้องระวังมากๆก็คือเชื้อ HPV
ที่ผ่านมามีการรณรงค์ให้ผู้หญิงต้องป้องกันเชื้อHPV ด้วยการฉีดวัคซีน เพราะเชื้อนี้เกิดขึ้นได้ทางเพศสัมพันธ์ จนทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูก แต่ล่าสุดไม่ใช่แค่ในผู้หญิงเท่านั้นที่ติดเชื้อHPV ได้ เพราะอย่างกรณีของดาราหนุ่มใหญ่ฝั่งฮอลลีวูด ไมเคิล ดักลาส ก้ได้ออกมายอมรับว่า ตนนั้นกำลังเผชิญกับโรคมะเร็งในลำคอที่เกิดจากเชื้อไวรัสHPVอยู่ด้วย
ทั้งนี้นายแพทย์กมล ภัทราดูลย์ สูติ-นรีแพทย์ด้านมะเร็ง โรงพยาบาลเวชธานีเผยว่า เชื้อHPV เป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ดังนั้นทั้งหญิงและชายหากมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ ก็สามารถติดเชื้อ HPV ได้ทุกทาง ซึ่งสามารถติดต่อและก่อให้เกิดมะเร็งในอวัยวะสืบพันธุ์ส่วนอื่นๆได้เช่นกัน เช่น ในผู้หญิงก่อให้เกิดมะเร็งช่องคลอด,อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก และทวารหนักได้ เป็นต้น ส่วนในผู้ชาย สามารถก่อให้เกิดมะเร็งที่องคชาติ และทวารหนัก เป็นต้น แต่ความเกี่ยวข้องหรือความสัมพันธ์ในแง่การเป็นต้นเหตุสำคัญยังไม่ชัดเจนเท่ามะเร็งปากมดลูก คือ ตรวจไม่พบเชื้อ HPV ในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งของอวัยวะดังกล่าวทุกคนเช่นเดียวกับในมะเร็งปากมดลูก แต่ทั้งนี้เชื้อHPV ยังถูกพบว่าหลักฐานความเกี่ยวข้องของ HPV กับมะเร็งในช่องปากและคออีกด้วย
สำหรับใน ผู้หญิงจะพบเชื้อ HPV (Human Papilloma Virus) ในเนื้อเยื่อของมะเร็งปากมดลูกถึงร้อยละ 99.7 สรุปได้ว่าเชื้อ HPV เป็นสาเหตุจำเพาะของมะเร็งปากมดลูก ส่วนสาเหตุหรือปัจจัยอื่นๆ เป็นเพียงปัจจัยที่ทำให้ปากมดลูกมีโอกาสติดเชื้อ HPV ได้ง่ายขึ้น เช่น
- การตั้งครรภ์หรือมีลูกหลายคน
- การมีประวัติเป็นกามโรค
- การรับประทานยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน
- การไม่มารับการตรวจคัดโรคมะเร็งปากมดลูก
- การมีคู่นอนหลายคน
- การมีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุน้อย
ในส่วนของผู้ชายเอง อย่าคิดว่าเชื้อHPV จะมีแค่ในผู้หญิงที่จะเป็นโรคนี้เท่านั้น เพราะปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลต่อฝ่ายชายก็มีอยู่มาก โดยเฉพาะพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้ เช่น การมีเพศสัมพันธ์ในแบบออรัลเซ็กซ์กับฝ่ายหญิงที่มีเชื้อHPV บริเวณปากมดลูก ในขณะที่ช่องปากของฝ่ายชายไม่สะอาด มีแผล, การเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ เป็นต้น
นอกจากนี้ ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น การสูบบุหรี่, ภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ, สตรีที่มีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมต่ำ, พันธุกรร และ การขาดสารอาหารบางชนิดก็มีส่วนเช่นกัน
ทางที่ดีที่สุดเพื่อการป้องกันอันดับแรกเลยก็คือต้องรู้เขารู้เรา สังเกตความผิดปกติของคู่นอน โดยเฉพาะผู้หญิง ถ้ามีอาการตกขาวมากกว่าปกติ ประจำเดือนมาผิดปกติ และมีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์ ก็ควรหลีกเลี่ยงการทำออรัลเซ็กซ์ และการมีเพศสัมพันธ์ชั่วคราว และควรให้ฝ่ายชายป้องกันด้วยการใส่ถุงยางอนามัย
นายแพทย์กมล ภัทราดูลย์
สูติ-นรีแพทย์ด้านมะเร็งโรงพยาบาลเวชธานี
ข่าวเด่น