นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC)  ที่ได้ข้อสรุปว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯยังคงเดินหน้าเข้าซื้อสินทรัพย์ทางการเงิน ภายใต้มาตรการคิวอีด้วยวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือนเหมือนเดิม แต่ในรายละเอียดของการประชุมนั้นกลับกดดันราคาทองคำอย่างหนัก โดยได้มีการปรับการมุมมองภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาในทางที่ดีขึ้น และมีคาดการณ์ว่าเป้าหมายอัตราการว่างงานของสหรัฐฯที่ 6.5% นั้น อาจลดลงได้ในปี 2014 จากเดิมที่วางไว้ในปี 2015 ซึ่งบ่งบอกว่าสถานการณ์ของตลาดแรงงานของสหรัฐฯได้ปรับตัวดีขึ้น

นอกจากนี้คำแถลงการณ์ของประธานเฟดภายหลังการประชุมนั้น ได้มีการส่งสัญญาณที่ค่อนข้างชัดเจนว่าจะมีการปรับลดขนาดของการเข้าซื้อสินทรัพย์ทางการเงิน ภายใต้มาตรการ QE ได้ภายในปีนี้ และมีความเป็นไปได้ที่จะสิ้นสุดมาตรการนี้ลงในช่วงกลางปีหน้า ส่งผลให้ราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงมา

ดังนั้นวายแอลจี จึงแนะนำกลยุทธ์การลงทุนทองคำในช่วงนี้ ให้นักลงทุนอาจต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เนื่องจากราคาทองคำได้อยู่ในระดับที่ลงมาค่อนข้างเยอะ ทำให้อาจเกิดแรงเหวี่ยงระหว่างวันค่อนข้างสูงได้ และยังคงเน้นให้นักลงทุนเก็งกำรไรระยะสั้นเป็นสำคัญ และวางจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง โดยหากราคาทองคำหลุดบริเวณ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็มีโอกาสที่ราคาทองคำจะลงมาที่แนวรับบริเวณ 1,250-1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์  หรือประมาณ 18,500-18,000 บาทต่อบาททองคำ  อย่างไรก็ตามหากราคาทองคำดีดตัวขึ้นมาบริเวณ 1,340-1,360 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 19,800-20,100 บาทต่อบาททองคำ นักลงทุนอาจทยอยขายทำกำไรออกมาก่อน นอกจากนี้นักลงทุนอาจพึงระวังการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินบาทที่โดนกระทบจากข่าวของการประชุมนโยบายการเงินของเฟดด้วย