การตลาด
สกู๊ป : "ซีทีเอช" เร่งเพิ่มทีมติดตั้งกล่องรับสัญญาณ หลังลูกค้าทะลัก


 
 
 
 
หลังจาก "ซีทีเอช" ออกมาเปิดตัวแพ็คเกจพรีเมียร์ลีกอังกฤษไม่ถึง 1 เดือน ปรากฏว่าได้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี  ส่งผลให้ปัจจุบันซีทีเอชมียอดลูกค้าใหม่ลงทะเบียนขอติดตั้งกล่องรับสัญญาณแล้วกว่า 200,000 ราย และเมื่อวันที่ 20  มิ.ย.ที่ผ่านมา ซีทีเอชได้เริ่มทยอยติดตั้งกล่องรับสัญญาณให้กับลูกค้าที่เข้ามาลงทะเบียน แต่เนื่องจากทีมติดตั้งที่มีเพียง 2,200 ทีมเท่านั้น ทำให้ซีทีเอชมีความกังวลว่าอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น ภายในเดือน ก.ค.นี้ ซีทีเอชจึงมีแผนที่จะเพิ่มทีมติดตั้งเป็น 4,000 ทีม เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทีมติดตั้งที่ซีทีเอสจะดันเข้ามาช่วยเสริมทัพในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งจะมาจากทีมติดตั้งกล่องรับสัญญาณและจานดาวเทียมอิสระที่กระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 5,000 ทีม ซึ่งแต่ละทีมจะมีเจ้าหน้าที่ดำเนินการประมาณ 2-3 คน

สำหรับการติดตั้งในแต่ละวัน ถ้าเป็นการติดตั้งจานดาวเทียมและกล่องรับสัญญาณจะสามารถติดตั้งให้ลูกค้าได้วันละ 3-6 ราย แต่ถ้าลูกค้ามีสายเคเบิ้ลอยู่แล้วใน 1 วันจะสามารถติดตั้งได้ประมาณ 15 ราย อย่างไรก็ตาม จากจำนวนลูกค้าที่เข้ามาลงทะเบียนขอติดตั้งกล่องรับสัญญาณที่มีจำนวนมาก อาจต้องรอคิวในการติดตั้งประมาณ 3-4 วัน    

 
 
 
นายกฤษณัน งามผาติพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า สิ่งที่บริษัทกลัวมากที่สุดในขณะนี้ คือ กลัวว่าจะติดตั้งกล่องรับสัญญาณให้กับลูกค้าไม่ทัน แต่จากการที่บริษัทกำลังจะเพิ่มทีมติดตั้งให้มากขึ้น มั่นใจว่าก่อนเปิดฤดูกาลแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษในเดือน ส.ค.นี้ น่าจะติดตั้งกล่องรับสัญญาณให้กับลูกค้าได้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านราย

นอกจากนี้ ซีทีเอชยังมีแผนที่จะจ้างโรงงานในประเทศไทยผลิตกล่องรับสัญญาณให้อีกจำนวน 2 โรงงาน เพื่อให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 10,000 เครื่องต่อเดือน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาคาดว่าจะได้ข้อสรุปพร้อมเดินเครื่องผลิตสินค้าในปลายเดือน มิ.ย. หรือต้นเดือน ก.ค.นี้ จากปัจจุบันซีทีเอชมีกำลังการผลิตจากโรงงาน 4  แห่งในประเทศจีน อยู่ที่ประมาณ 500,000-600,000 เครื่องต่อเดือน

 
ในด้านของแพ็คเกจพรีเมียร์ลีกที่ซีทีเอชได้เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีอยู่ด้วยกัน 4 แพ็คเกจ ประกอบด้วย แพ็คเกจที่ 1 ราคา 899 บาทต่อเดือน จ่ายมัดจำล่วงหน้า 1 เดือน พร้อมค่าบริการรายเดือนๆ แรก และค่าติดตั้ง 50% ของราคาทั้งหมด ซึ่งขึ้นอยู่กับความยากง่ายของการติดตั้ง หลังจากนั้นจ่ายรายเดือนตามปกติ

ขณะที่ แพ็คเกจที่  2 ราคา 748 บาทต่อเดือน จ่าย 10 เดือน ได้ดู 12 เดือน หรือจ่ายเต็มจำนวนเพียงครั้งเดียว ค่าติดตั้ง 50% ของราคาทั้งหมด ซึ่งขึ้นอยู่กับความยากง่ายของการติดตั้ง ลูกค้าสามารถผ่อนจ่าย 0% ได้ทั้ง 10 เดือน แพ็คเกจที่ 3 ราคา 673 บาทต่อเดือน จ่าย 18 เดือน ได้ดู 24 เดือน หรือจ่ายเต็มจำนวนเพียงครั้งเดียว พร้อมค่าติดตั้งฟรี ลูกค้าสามารถผ่อนจ่าย 0% ได้ทั้ง 10 เดือน และ แพ็คเกจที่ 4  ราคา 599 บาทต่อเดือน จ่าย 24 เดือนได้ดู 36 เดือน หรือจ่ายเต็มจำนวนเพียงครั้งเดียว พร้อมค่าติดตั้งฟรี ลูกค้าสามารถผ่อนจ่าย 0% ได้ทั้ง 24 เดือน 

 
 
 
ในแต่ละแพ็คเกจ ลูกค้าสามารถชม ช่อง HD 31 ช่อง (ชมฟุตบอลแบบ HD + ช่องรายการต่างๆแบบ HD ) และช่องอื่นๆ 140 ช่อง ในระบบเคเบิ้ล ตัวอย่างเช่น รายการ เพลง,ภาพยนตร์, ซีรี่ฝรั่ง ,ซีรี่เอเชีย,สารคดี, วิทยาศาตร์และเทคโนโลยี, กีฬา, การ์ตูน, ข่าว, ข่าวต่างประเทศ และรายการเคเบิ้ลท้องถิ่น  

นายกฤษณัน กล่าวต่อว่า หลังจากเปิดตัวแพ็คเกจพรีเมียร์ลีกไปเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา แพ็คเกจที่ได้ผลการตอบรับที่ดีมาก คือ แพ็คเกจราคา 748 บาท  จ่าย 10 เดือน ดูได้ 12 เดือน เพราะปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายสูงถึง 70% ตามด้วยแพ็คเกจราคา 599 บาท จ่าย 24 เดือน ดูได้ 36 เดือน มีสัดส่วนยอดขาย 20%
 

จากผลการตอบรับที่ดีดังกล่าว ซีทีเอช คาดว่าสิ้นปีนี้น่าจะมียอดสมาชิกไม่ต่ำกว่า 3 ล้านราย และถ้าผลการตอบรับยังดีอย่างต่อเนื่อง อาจทะลุเป้าหมายอยู่ที่  4 ล้านราย จากปัจจุบันมียอดสมาชิกเก่าอยู่ที่ประมาณ 2.5 ล้านราย เช่นเดียวกับเป้าหมายรายได้สิ้นปีนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ตั้งเป้าไว้ที่  7,000 ล้านบาท แต่ตอนนี้คาดว่าจะเกิน 7,000 ล้านบาทแล้ว เนื่องจากปัจจุบันมีรายได้มาจากสปอนเซอร์แพ็คเกจใหญ่มาครบแล้ว 5 ราย ประกอบด้วย โตโยต้า,ฮอนด้า, สิงห์, เอไอเอส และ การบินไทย

นอกจากนี้ ซีทีเอชยังแย้มออกมาว่าขายแพ็ตเกจสปอนเซอร์ใหญ่ที่สามารถรับได้อีก 2  รายได้แล้ว ซึ่ง 1  ในนั้น จะเป็นการขายสิทธิ์การถ่ายทอดสดให้กับฟรีทีวี และล่าสุดมีกระแสข่าวออกมาว่า อสมท. เป็นผู้ได้สิทธิการถ่ายทอดนั้นไปด้วยเม็ดเงิน 480  ล้านบาท พร้อมกันนี้ยังขายแพ็คเกจสปอนเซอร์ขนาดเล็กได้อีก  2-3 ราย

 
 
 
นายวิชัย ทองแตง ประธานกรรมการ บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เงินกู้จากสถาบันการเงินที่บริษัทนำมาใช้กับการลงทุนพรีเมียร์ลีกเป็นมูลค่า 30,000  ล้านบาท ขณะนี้บริษัทได้ใช้เม็ดเงินก้อนดังกล่าวไปแล้วจำนวน 16,000 ล้านบาท แบ่งเป็น งบลงทุนด้านเทคโนโลยีและซอฟแวร์ รวมถึงระบบต่างๆ 14,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 2,000 ล้านบาท เป็นการใช้ไปกับการลงทุนซื้อคอนเทนต์จากต่างประเทศ 

 
 
 
สำหรับคอนเทนต์ต่างประเทศที่ซีทีเอชได้ใช้งบลงทุนซื้อไปสูงถึง 2,000 ล้านบาท คือ การซื้อคอนเทนต์รายการจาก ฟ็อกซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล แชนแนล (เอฟไอซี) ยาว 5 ปี นำรายการดังของฟ็อกซ์มาออกอากาศทั้งหมด 35 ช่อง ซึ่งช่วงนี้จะนำมาออกมากาศก่อน 15 ช่อง หลังจากนั้นช่วงปลายปีและต้นปีหน้าจะนำจำนวนช่องที่เหลือมาออกอากาศอย่างเต็มรูปแบบ 

อย่างไรก็ตาม เม็ดเงินที่ "ซีทีเอช" ได้ลงทุนไปทั้งหมด ซีทีเอชมั่นใจว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 3 ปีนับจากนี้ หลังจากนั้นจะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อระดมทุนนำเงินมาขยายธุรกิจต่อไป เพราะนอกจากธุรกิจเคเบิลทีวีที่ซีทีเอชดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ในปีนี้ซีทีเอชยังมีแผนที่จะเปิดตัวธุรกิจอินเตอร์เน็ตอย่างเป็นทางการ โดยขณะนี้ได้เริ่มทดลองสัญญาณอินเตอร์เน็ตแล้วในหมู่บ้านนันทวัน

นายวิชัยกล่าวว่า หลังจากที่บริษัทรับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกให้กับประเทศลาวและประเทศกัมพูชา ซึ่งหากการเจรจาสำเร็จจะทำให้บริษัทมีรายได้จากการขายสิทธิ์จาก 2 ประเทศ อยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ ซีทีเอชได้ออกมาวางยุทธศาสตร์ของการดำเนินธุรกิจไว้ด้วยกัน 8 ธุรกิจหลัก ประกอบด้วย เคเบิ้ลทีวี ,ดิจิตอลมีเดีย,รีเสิร์ชเฮ้าส์,โฮมช้อปปิ้ง,บีทูบี,อินเตอร์เน็ต,ดาต้าเบสมาร์เก็ตติ้ง และ ไดเร็คมาร์เก็ตติ้ง ซึ่งขาธุรกิจแรกที่ซีทีเอชจะเน้นเป็นหลักในปีนี้ คือ เคเบิ้ลทีวี ตามด้วยอินเตอร์เน็ต โฮมช้อปปิ้ง และ ดิจิตอลมีเดีย คาดว่าภายใน 2 ปี จะทยอยเปิดตัวขาธุรกิจที่เหลือให้ครบทั้ง 8  ธุรกิจ เพื่อผลักดันให้มีรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 1 แสนล้านบาทในอีก 2 ปีนับจากนี้

 
 
จากเม็ดเงินที่ซีทีเอชซื้อสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ จำนวน 3 ฤดูกาลซ้อน ที่มีมูลค่าสูงถึง 12,000 ล้านบาท ส่งผลให้หลายฝ่ายต่างจับตามองว่า ซีทีเอชจะมีการบริหารสิทธิ์การถ่ายทอดสดอย่างไร  และการขายแพ็คเกจสปอนเซอร์จะมีราคาเท่าใด เพราะซื้อมาแพง แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงวันนี้ ซีทีเอชได้แสดงความสามารถให้เห็นอีกขั้นว่าทำได้

แต่นั่นก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เพราะตอนนี้การแข่งขันยังไม่เริ่มต้นขึ้น ขณะเดียวกัน ซีทีเอชก็อยู่ระหว่างดำเนินการเตรียมความพร้อมก่อนวันถ่ายทอดสดจะมาถึง จากจำนวนลูกค้าที่สนใจติดตั้งกล่องที่มีเป็นจำนวนมาก ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่า "ซีทีเอช" จะทำงานได้ทันเวลาที่เหลืออีกประมาณ  2 เดือนก่อนการถ่ายทอดสดทันหรือไม่  และจากการถ่ายทอดสดจะมีปัญหาเรื่องสัญญาณออกอากาศหรือเปล่า  ล้วนแต่เป็นคำถาม ซึ่งถ้าผ่านไปได้ เป้าหมายคุ้มทุนภายใน 3 ปี กับการลงทุน 30,000 ล้านบาท ก็ไม่น่าจะยากเกินความสามารถ
 
 

LastUpdate 23/06/2556 16:00:54 โดย : Admin
24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 4:26 pm