บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ออกแถลงการณ์ หลังจากที่ศาลแพ่งมีคำพิพากษาตัดสินเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า การที่ เทสโก้ โลตัส นำสัญลักษณ์ เครื่องมือ และกลไกทางการตลาดของบิ๊กซีและบริษัท เซ็นคาร์(ผู้ประกอบการห้างคาร์ฟูร์) ไปใช้จัดทำโฆษณาและแคมเปญส่งเสริมการขายโดยมิชอบเพื่อสร้างรายได้และฐานลูกค้าให้แก่ตนเอง ถึง 2 ครั้ง ใน 2 วาระ ในปี 2554 ซึ่งกระทำหลังจากบิ๊กซีซื้อกิจการคาร์ฟู ถือเป็นการใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น และเป็นการกระทำละเมิดต่อ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ และ บ. เซ็นคาร์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 421 และได้มีคำพิพากษา ให้เทสโก้ โลตัส ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ บมจ. บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เป็นจำนวนเงิน 2.456 ล้านบาท และแก่ บ. เซ็นคาร์ จำกัด 1.523 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็นของวันที่ 25 มิถุนายน 2556 บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม ผู้ประกอบการ เทสโก้ โลตัส ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการถึงสื่อมวลชนหลายสำนัก ความว่า "เทสโก้ โลตัส มีความยินดีกับคำพิพากษาของศาลในวันนี้ บริษัทฯ ไม่ได้กระทำการขัดต่อพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า" ซึ่ง บิ๊กซี เห็นว่า เป็นข้อความที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เนื่องจาก
1) ศาลแพ่ง มีคำพิพากษาว่า การกระทำของเทสโก้ โลตัส ในการนำคูปองของบิ๊กซีและคาร์ฟูร์ไปใช้เพื่อประโยชน์ของตน โดยให้ลูกค้านำคูปองดังกล่าวมาใช้ซื้อสินค้าที่ห้างเทสโก้ฯ แล้วได้ส่วนลดเพิ่มเป็นสองเท่าของคูปอง และอีกกรณี ที่ให้ลูกค้านำบัตรไอวิชการ์ดของคาร์ฟูร์ ไปแสดงและสมัครสมาชิกบัตรคลับการ์ดกับเทสโก้ฯ และรับบัตรของขวัญมูลค่า 200 บาทนั้น เป็น “การกระทำอันมีแต่จะทำให้ผู้อื่นเสียหาย เป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย และเป็นพฤติการณ์มุ่งแย่งชิงลูกค้าและจงใจให้เกิดผลกระทบต่อรายการส่งเสริมการขายของโจทก์ทั้งสองโดยตรง เป็นการละเมิดต่อบิ๊กซีและคาร์ฟูร์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 421”
2) ศาลแพ่ง พิพากษากรณีดังกล่าว โดยใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะ 5 หมวด 1 ความรับผิดเพื่อละเมิด เท่านั้น
3) ศาลแพ่ง มิได้มีการกล่าวถึงพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า ในคำพิพากษา และมิได้พิพากษา เกี่ยวกับพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้าแต่อย่างใด
4) ดังนั้น ศาลแพ่ง จึงไม่ได้วินิจฉัยว่า เทสโก้ โลตัส ไม่ได้กระทำขัดต่อพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้าฯ อย่างที่เทสโก้ โลตัส จงใจกล่าวอ้างแต่อย่างใด
5) สำหรับในส่วนของการดำเนินคดีอาญา ซึ่งจะต้องมีการตัดสินว่า เทสโก้ โลตัส ได้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้าหรือไม่นั้น บิ๊กซีได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า กระทรวงพาณิชย์ และอยู่ระหว่างการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำของเทสโก้โลตัส เพื่อพิจารณาตัดสินต่อไป ซึ่งในวันนี้ (26 มิถุนายน 2556) ผู้แทนของ บมจ. บิ๊กซี ก็ได้เข้าให้ปากคำต่อคณะอนุกรรมการสอบสวนเกี่ยวกับกรณีคูปอง และได้นำคำพิพากษาของศาลแพ่งแจ้งต่อคณะอนุกรรมการฯ แล้ว
แถลงการณ์ ยังระบุว่า บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เคารพในคำพิพากษาของศาล และเห็นว่า ชัยชนะในครั้งนี้เป็นเรื่องสำคัญยิ่งต่อสาธารณชน เพราะจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานให้กับสังคมไทยและสร้างมาตรฐานให้แก่ผู้ประกอบการต่างๆ ว่า การจัดรายการส่งเสริมการขายที่อ้างอิงรายการส่งเสริมการขายของผู้อื่น ดังเช่นที่เทสโก้ โลตัส ได้กระทำนั้น เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายไทยตามที่ศาลแพ่งได้พิพากษาแล้ว และหวังว่า ผู้ประกอบการทุกธุรกิจทุกอุตสาหกรรม จะให้ความสำคัญกับการวินิจฉัยของศาลและไม่ทำพฤติกรรมทางการค้าใดๆ ที่ผิดกฎหมายในลักษณะดังกล่าว เพื่อร่วมกันสร้างจรรยาบรรณและมาตรฐานของการดำเนินการตลาดที่ทุกฝ่ายควรยึดปฏิบัติ เพื่อส่งเสริมการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภคในระยะยาว
"บริษัทฯ หวังว่า ผลของคดีนี้ จะนำไปสู่การบังคับใช้ พรบ. การแข่งขันทางการค้าเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงบทบาทและความสำคัญของพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า ในการส่งเสริมการแข่งขันอย่างเสรีและสร้างสรรค์ ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม การให้เกียรติและเคารพสิทธิและความคิดสร้างสรรค์ของเพื่อนร่วมธุรกิจต่อไป"
ข่าวเด่น