การตลาด
สกู๊ป "ออฟฟิศเมท" เปิดแผนบุกหนัก กู้ยอดขายครึ่งปีแรก


 


               
 
 
ภายหลังจากบริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด(มหาชน) ได้เข้ามาอยู่ใต้ร่มชายคาธุรกิจในเครือเซ็นทรัล  ทำหน้าที่ดูแลธุรกิจทั้งในส่วนของออฟฟิศเมท และบีทูเอส  ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจก็เริ่มมีการขยับขยายเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น เนื่องจากมีการปรับปรุงหน้าร้าน  และมีการขยายสาขาใหม่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้  การที่บริษัทออฟิศเมทมีการทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่น การทำโปรโมชั่นสินค้าราคาพิเศษ และมีการขยายช่องทางจำหน่ายเพิ่มขึ้นผ่านระบบออนไลน์ จึงทำให้แบรนด์ของร้า ออฟฟิศเมทเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในกลุ่มลูกค้า    
 
 
 
นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากการปรับแผนธุรกิจและการปรับโฉมทั้งร้านออฟฟิศเมททั่วประเทศแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 1-2 ที่ผ่านมา บริษัทก็มีแผนที่จะออกมาทำกิจกรรมการตลาดทั้งในส่วนของร้านออฟฟิศเมทและร้านบีทูเอสมากขึ้น โดยเฉพาะสาขาที่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด เนื่องจากบริษัทมีแผนที่จะเปิดร้านใหม่ในต่างจังหวัดมากขึ้น

สำหรับแผนการขยายสาขาใหม่ของร้านออฟฟิศเมทในปีนี้ จะเปิดเพิ่มอีกประมาณ 10 สาขา เพื่อให้สิ้นปีมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการมากกว่า 100 สาขาทั่วประเทศ ขณะเดียวกันก็จะเดินหน้าปรับปรุงสาขาเก่าให้มีความทันสมัยอย่างต่อเนื่อง

 
 
นายวรวุฒิกล่าวว่า  ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงที่มีการปรับเปลี่ยน ปรับปรุง โฉมหน้าร้านกว่า 50 สาขาทั่วประเทศ พร้อมกันนี้บริษัทยังได้มีการรีแบรนด์ดิ้งและปรับภาพลักษณ์ของร้านออฟฟิศเมทให้ดูดี ด้วยการปรับดีไซน์ร้านใหม่เพื่อให้ดูทันสมัยและสะดวกต่อการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้า โดยเฉพาะการเชื่อมระบบการขายผ่านหน้าร้าน เข้ากับการขายผ่านระบบออนไลน์ เช่น การเพิ่มจุดให้บริการ Shopping Online บริเวณหน้าร้าน 

นอกจากนี้ บริษัท ออฟฟิศเมทยังได้มีการเพิ่มทีมโปรแกรมเมอร์มาเสริมความแข็งแกร่งในด้านของการทำการตลาดออนไลน์  เพื่อสร้าง Features ใหม่ๆ รวมไปถึงปรับปรุงเว็บไซต์ของ Officemate ให้ดูทันสมัยและสามารถเลือกหาสินค้าที่มีมากกว่า 25,000 รายการ ได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกค้านักช้อปออนไลน์

สำหรับโปรแกรม e-Procurement  ถือเป็นอีก 1 อาวุธหลักในช่องทางออนไลน์ ที่นายวรวุฒิบอกว่าจะหันมาให้ความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะการเข้าไปทำตลาดในกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักในปีนี้ โดยล่าสุดได้มีการเปิดตัวโปรแกรมสั่งซื้อออนไลน์ e-Procurement Version 5.0 ใหม่ล่าสุด มาเพื่อสนับสนุนการสั่งซื้อสินค้าสำหรับลูกค้าองค์กรที่สะดวกและง่าย รวดเร็วในการอนุมัติสั่งซื้อผ่าน Smart Phone

 
 
 
พร้อมกันนี้  ก็จะเสริมทีมกิจกรรมการตลาดออนไลน์ เพื่อเข้าไปทำกิจกรรมร่วมกับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น เช่น กิจกรรม Officemate Girl 2013 และกิจกรรม Like & Share รวมไปถึงการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านโปรโมชั่นต่างๆ ด้วยการจำหน่ายสินค้าในราคาพิเศษ  เพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ

ส่วน Officemate Contact Center  ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธที่บริษัทออฟฟิศเมท จะให้ความสำคัญมากขึ้นเช่นกันในปีนี้ด้วยการขยายทีมงานเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับปริมาณสายโทรศัพท์ของลูกค้าที่โทรเข้ามาสอบถาม  ซึ่งในอนาคตบริษัท ออฟฟิศเมท  มีแผนที่จะพัฒนาหน่วยธุรกิจดังกล่าว เป็นการให้บริการด้าน Call Center Outsource เพื่อดูแลช่วยเหลือลูกค้า

 
 
 
นอกจากนี้  ในส่วนของธุรกิจร้านบีทูเอส  ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกทันสมัย ที่รวมสินค้าหลากหลายประเภท ตอบสนอง lifestyle ของผู้บริโภครุ่นใหม่ ทั้งหนังสือ สื่อพัฒนาความรู้ เทคโนโลยี ความบันเทิง เพลง ภาพยนตร์ เครื่องเขียน และเครื่องใช้สำนักงานที่มีดีไซน์ ได้มีการเปิดสาขาใหม่ของปีนี้ไปแล้วในช่วงครึ่งแรกของปี จำนวน 5 สาขา  ขณะที่ครึ่งปีหลังมีแผนที่จะเปิดเพิ่มอีก 5 สาขา และปรับปรุงร้านเก่าที่สาขาเซ็นทรัลเวิร์ด และเซ็นทรัลชิดลม เพื่อให้ดูทันสมัยและตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำด้านธุรกิจ Edutainment

ในส่วนการพัฒนาองค์กรของ B2S บริษัทออฟฟิศเมทมีแผนที่จะปรับโครงสร้างบุคคลากรในองค์กร โดยเฉพาะการเสริมทีมโปรแกรมเมอร์  เพื่อมาดูแลและการจัดทำตลาดด้าน e-Commerce การเสริมทีมพัฒนา e-Book และทีมดูแลกิจกรรม Online Activity  

ขณะที่แผนการทำการตลาดร้านบีทูเอส  จะเน้นการทำตลาดกลุ่มสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟ  หรือสินค้าที่มีจำหน่ายเฉพาะในร้านบีทูเอสมากขึ้น  พร้อมกันนี้ยังจะเน้นการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายภายในร้านบีทูเอส  ด้วยการจำหน่ายสินค้าในราคาและเงื่อนไขพิเศษ  เพื่อขยายฐานลูกค้าวัยรุ่น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ และหนังสือ  

 
 
 
การหันมาทำกิจกรรมนอกร้านมากขึ้น ถือเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่บริษัทออฟฟิศเมทจะให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการออกบู๊ทกิจกรรม สัปดาห์หนังสือ การร่วมจัดกิจกรรมในโรงเรียนในเขตจังหวัดนั้นที่มีการเปิดสาขาใหม่ รวมไปถึงการให้ส่วนลดพิเศษต่างๆ สำหรับนักเรียน นักศึกษา  เพราะนอกจากจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และทำให้ร้านบีทีเอสเป็นที่รู้จักมากขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มยอดขายสินค้าให้เป็นที่น่าพอใจ

อีกหนึ่งความสำคัญที่บริษัทออฟฟิศเมทให้ความสนใจ คือ การบริการจัดส่งสินค้า  ล่าสุดได้เพิ่มบริการจัดส่งสินค้าในวันถัดไป Next Day Delivery  ด้วยการขยายพื้นที่บริการจัดส่งฟรี จากเดิม 13 จังหวัด เป็น 23 จังหวัด เพิ่มขึ้น 10 จังหวัดครอบคุมทั่วประเทศไทย เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าในต่างจังหวัด ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้  เช่น  เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ขอนแก่น อุดรธานี มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ภูเก็ต พังงา และกระบี่  เป็นต้น

หลังจากออกมาเปิดแผนขยายธุรกิจในเครืออย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี  นายวรวุฒิ มั่นใจว่า  สิ้นปีนี้บริษัทออฟฟิศเมท จะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 7,180 ล้านบาท เนื่องจากมีการรวมธุรกิจกับออฟฟิศดีโป และบีทูเอส  จึงเป็นผลดีที่ทำให้บริษัทมียอดขายเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับตลอดทั้งปีมีการเปิดสาขาใหม่ของทั้ง 2 ธุรกิจ อีกกว่า 10 สาขา ส่งผลให้มีสาขาร้านในเครือกว่า 100 สาขาทั่วประเทศ  

 
 
 
นอกจากนี้ การที่บริษัทออฟฟิศเมทยังได้มีการควบรวมกิจการกับบริษัท ปราณพร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกลุ่มจิราธิวัฒน์ ที่ถือหุ้นในออฟฟิศ ดีโป  และบีทูเอส  ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกที่ส่งผลให้แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2  ของปีนี้ มีอัตราการเติบโตดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม นายวรวุฒิ  ยอมรับว่า การที่ผลประกอบการในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้มีอัตราการเติบโตต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้  เนื่องจากไตรมาสแรกของปีนี้อยู่ระหว่างการควบรวมกิจการ ซึ่งขณะนั้นทำให้คลังสินค้าไม่พอเก็บ และเกิดปัญหาพนักงานขาด รวมถึงมีปัญหาในส่วนของซอฟแวร์  จึงทำให้ยอดขายมีอัตราการเติบโตไม่ดีเท่าที่ควร 

LastUpdate 13/07/2556 13:26:31 โดย : Admin
24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 4:55 pm