“โนเกีย” บริษัทสัญชาติฟินแลนด์ อดีตผู้ผลิตโทรศัพท์มือถืออันดับหนึ่งของโลก ไม่หวั่นแม้จะถูกบริษัทสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชื่อดังของสหรัฐหั่นเกรดความน่าเชื่อถือลง โดยยังคงเดินหน้าเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ต่อและยังมาพร้อมกล้องที่มีความละเอียดสูงลิ่วเกินหน้าเกินตาค่ายอื่น ๆ ได้แก่รุ่นชื่อว่า “Nokia Lumia 1020” น่าจะถูกใจคนที่ชอบถ่ายภาพทั่วไป
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า "โนเกีย" ที่เคยโด่งดังในอดีตซบเซาไปมาก เพราะไม่สามารถแข่งขันกับอุปกรณ์ iOS และอุปกรณ์ Android ได้ แม้จะพยายามผลักดัน Windows Phone 8 มาอย่างต่อเนื่อง โดยชื่อของแอปเปิลและซัมซุงแซงหน้าขึ้นมาได้รับความสนใจของผู้คนมากกว่า
จนเมื่อเร็ว ๆ นี้ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา S&P บริษัทจัดอันดับชื่อดังได้ปรับลดความน่าเชื่อถือลงจาก BB- มาอยู่ที่ B+ เนื่องจากการดำเนินธุรกิจที่ขาดทุนต่อเนื่องมาหลายปี ประกอบกับการลงทุนมหาศาลมากกว่า 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อขอซื้อหุ้นคืนจากกลุ่มบริษัทซีเมนส์ (Siemens AG) ในบริษัท Nokia Siemens Networks ราว 50% จึงทำให้ทาง S&P มองว่า อาจทำให้สภาพกระแสเงินสดสุทธิในช่วงปลายปี 2013 ของโนเกียอาจลดต่ำลงเหลืออยู่เพียง 1,300 ล้านยูโรเท่านั้น และอาจส่งผลทำให้โนเกียประสบปัญหาด้านการเงินอย่างรุนแรงในเวลาต่อมาได้
แต่โนเกียไม่ได้ย่อท้อ หลังจากปล่อยสมาร์ทโฟนตระกูล Lumia ออกมาแล้วหลายรุ่น ล่าสุด สตีเฟ่น อีลอป ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโนเกีย (CEO )ได้เปิดตัว “Nokia Lumia 1020” (โนเกีย ลูเมีย 1020) หรือเป็นที่รู้จักกันก่อนหน้านี้ด้วยโคดเนม Nokia EOS อย่างเป็นทางการแล้วที่นครนิวยอร์คในเวลาไล่เลี่ยกันกับการเคลื่อนไหวของ S&P โดยหมายหมายมั่นปั้นให้เป็นมือถือที่มีกล้องดีที่สุดคู่กาย ซึ่งต่อยอดมาจาก Nokia EOS 808 Pureview ทำให้ คุณภาพเยี่ยมในการใช้งานถ่ายภาพหรือวีดีโอและถ่ายภาพในชีวิตประจำวันอื่น ๆ
สเปคของสมาร์ทโฟนใหม่ มีดังนี้คือ
-หน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 768 WXGA จอกระจกแบบ Corning Gorilla Glass 3 ที่มากับเทคโนโลยี PureMotion HD+, Super Sensitive Touch (สามารถสั่งงานด้วยระบบสัมผัสได้ในขณะสวมถุงมือ หรือใช้เล็บมือ )
-น้ำหนัก 158 กรัม
- กล้องหลัง 41 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันสั่น OIS ที่ช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยมีความคมชัดมากขึ้น เลนส์ในโมดูกล้องประกอบไปด้วยชิ้นเลนส์ 6 ชิ้น สามารถซูมได้ 3 เท่า ส่วนกล้องหน้า 1.2 ล้านพิกเซล
-ซีพียู Snapdragon dual-core 1.5 GHz
-RAM 2GB, หน่วยความจำภายใน 32GB
-รองรับ Bluetooth 3.0, Wi-Fi : WLAN IEEE 802.11 a/b/g/n, NFC
-แบตเตอรี่ 2,000 mAh รองรับการใช้ในระบบ 3G ได้นาน 13.3 ชั่วโมง อยู่ได้ 16 วัน ในโหมดสแตนด์บาย
-มีเซนเซอร์ปรับระดับแสง, วัดความกดอากาศ, วัดระยะห่าง และวัดความเข้มของสนามแม่เหล็ก
-นอกจากนี้ ยังใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 ที่มีระบบ Nokia Smart Camera แบบเดียวกับ Nokia Lumia 925 ที่ช่วยบันทึกภาพการเคลื่อนไหวต่อเนื่องได้ในครั้งเดียว และ Nokia Pro Camera สามารถปรับค่าการถ่ายภาพด้วยตัวเองได้ทั้งความเร็วชัตเตอร์ 1/16000, ตั้งค่า ISO (100 ถึง 4000)
-มีแอพ Hipstamatic ที่ให้ผู้ใช้ถ่ายภาพและตกแต่งไปในตัวได้ก่อนจะแชร์ไปยังโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่าง Facebook, Instagram หรือ Twitter
-มี 3 สีให้เลือก ได้แก่ สีดำ, สีขาว และสีเหลือง
นับว่าเป็นมือถือที่น่าสนใจอีกรุ่นหนึ่ง โดยทางโนเกียได้ร่วมกับบริษัท AT&T เปิดจองในสหรัฐวันที่ 16 กรกฎาคมนี้แล้ว ก่อนจะขายจริง 26 กรกฎาคม ราคาอยู่ที่ 299 ดอลลาร์สหรัฐแบบติดสัญญา 2 ปี และจะเริ่มวางขายที่จีนในไตรมาสนี้ ตามด้วยยุโรปและประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ส่วนไทยยังไม่กำหนดราคาและวันเข้าตลาด
ข่าวเด่น