การตลาด
สกู๊ป "บาร์บีคิวพลาซ่า" เปิดเกมรุกธุรกิจร้านอาหาร


 
 
 
 
 
 นับวันการแข่งขันของธุรกิจร้านอาหารประเภทปิ้งย่างจะยิ่งมีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากเริ่มมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว  ส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดต้องเร่งปรับตัว เพื่อรักษาฐานลูกค้าให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกันก็ต้องเดินหน้าขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น

เมื่อผู้บริโภคมีทางเลือกในการรับประทานอาหารภายในห้างค้าปลีกมากขึ้น กลยุทธที่จะสามารถดึงความสนใจของลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการได้ คงหนีไม่พ้น "การทำโปรโมชั่น" จะเห็นได้ว่า ช่วงนี้ธุรกิจร้านอาหารภายในห้างค้าปลีกต่างออกมาทำโปรโมชั่นชิงลูกค้ากันอย่างคึกคัก

 
 
ร้านบาร์บีคิวพลาซ่า ถือเป็นร้านอาหารภายในห้างค้าปลีกอีกหนึ่งแบรนด์ ที่ปีนี้ออกมาประกาศแผนเชิงรุกว่าจะออกมารุกทำการตลาดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการตลาด  หรือการทำโปรโมชั่น ตลอดจนการปรับปรุงร้านเก่าให้มีความทันสมัย หลังจากเปิดให้บริการมานานถึง 26 ปี

นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเดินหน้าเปิดสาขาใหม่อีกประมาณ 5 สาขา ภายใต้งบลงทุนสาขาละประมาณ 10-15  ล้านบาท  ซึ่งในส่วนของครึ่งปีแรกเปิดให้บริการไปแล้ว 2 สาขา ที่ห้างสรรพสินค้าโรบิสัน กาญจนบุรี และศูนย์การค้าเซ็นทรัลอุบลราชานี ที่เหลืออีก 3 สาขา คาดว่าจะเปิดครบภายในครึ่งปีหลังนี้ ประกอบด้วย ศูนย์การค้าเซ็นทรัล หาดใหญ่  ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่  และ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน บางรัก

           
 
 
 
น.ส.ชาตยา ชูพจน์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่า จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านบาร์บีคิวพลาซ่า และร้านจุ่มแซ่บฮัท กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่บริษัทจะออกมาทำการตลาดร้านบาร์บีคิวพลาซ่าอย่างจริงจัง เพราะธุรกิจร้านอาหารภายในศูนย์การค้ามีการแข่งขันกันรุนแรงมาก ซึ่งกลยุทธที่บริษัทเลือกนำมาใช้ในปีนี้ คือ การทำโปรโมชั่น การปรับปรุงร้านให้มีความทันสมัย และการดึงดารามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับร้านบาร์บีคิวพลาซ่า

 
 
 
ล่าสุด บริษัท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่า ได้ออกมาใช้งบ 50 ล้านบาท ในการทำโปรโมชั่นภายใต้แคมเปญ “ชุดรีฟิล กินไม่ต้องยั้ง สั่งไม่ต้องเกรงใจ” ในราคาท่านละ 299 บาท ไม่รวมค่าเครื่องดื่มขึ้นระหว่างเดือน ก.ค. –ส.ค.นี้  เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น จากเดิมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเป็นกลุ่มครอบครัว โดยหลังจากเปิดตัวแคมเปญดังกล่าวตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา มียอดขายเติบโต  50% เมื่อเทียบกับช่วงปกติ

จากผลการตอบรับที่ดีดังกล่าว  ส่งผลให้ บริษัท เดอะบาร์บีคิว มีความมั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะสามารถขยับสัดส่วนกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่มาอยู่ที่ 60%  เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 30% ซึ่งจากผลการตอบรับที่ดีดังกล่าว บริษัท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่า มีแผนที่จะทำโปรโมชั่นอื่นๆ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น
 
 
 
 
นอกจากนี้ บริษัท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่า ยังได้ดึงดาราชื่อดังอย่าง "เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี" มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับร้านบาร์บีคิวพลาซ่า  เพื่อสร้างแบรนด์ร้านบาร์บีคิวพลาซ่าให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

น.ส. ชาตยา กล่าวต่อว่า  การออกมาทำกิจกรรมทางการตลาดในรูปแบบดังกล่าว ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธของการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค ซึ่งบริษัทกำลังเร่งศึกษาเพื่อนำมาปรับเป็นกลยุทธในการทำตลาด เนื่องจากแผนการดำเนินธุรกิจในอีก 3 ปีนับจากนี้ มีแผนที่จะเปิดตัวร้านอาหารแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาดอีกประมาณ 2-3 แบรนด์ 

ปัจจุบัน บริษัท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่า มีธุรกิจร้านอาหารที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้จำนวน 2 แบรนด์ คือ ร้าน บาร์บีคิวพลาซา  และร้านจุ่มแซ่บฮัท  ซึ่งทั้ง 2 ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่เดียวกัน  โดยในส่วนของร้านบาร์บีคิวพลาซาปัจจุบันมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการอยู่ที่ประมาณ 95  สาขา ในจำนวนดังกล่าวเปิดให้บริการคู่กับร้านจุ่มแซ่บฮัท  70  สาขา

 
 
 
จากความไม่ชัดเจนในการทำตลาดของร้านอาหารทั้ง 2  แบรนด์  ส่งผลให้ บริษัท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่า  มีแผนที่จะแยกร้านออกมาจากกัน เพื่อให้แต่ละแบรนด์มีความชัดเจนในด้านของการทำตลาด โดยขณะนี้ได้เริ่มมีการแยกแบรนด์กันทำตลาดบ้างแล้ว  ด้วยการพิจารณาจากพื้นที่ขายว่าพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นของแบรนด์ไหน เช่น ถ้าพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นของร้านบาร์บีคิวพลาซ่า  ก็จะปิดร้านจุ่มแซ่บฮัท เหลือเพียงร้านบาร์บีคิวพลาซ่า แต่ถ้าสาขาไหนมีพื้นที่ของร้านจุ่มแซ่บฮัทมากกว่าก็จะปิดร้านบาร์บีคิวพลาซ่าเหลือเพียงร้านจุ่มแซ่บฮัท 

พร้อมกันนี้  ยังมีแผนที่จะปรับร้านบาร์บีคิวพลาซ่าให้มีความทันสมัยด้วยรูปโฉมใหม่ทั้ง 95 สาขา  ซึ่งในส่วนของปีที่ผ่านมาได้เริ่มปรับปรุงร้านให้มีความทันสมัยไปแล้วจำนวน 10 สาขา และปีนี้จะดำเนินการปรับปรุงเพิ่มอีก 20-25  สาขา ภายใต้งบลงทุนสาขาละ 5-10 ล้านบาท คาดภายใน 3 ปีนับจากนี้ จะดำเนินการปรับปรุงร้านบาร์บีคิวพลาซ่าสาขาเก่าได้ทั้งหมด

 
 
 
สำหรับในส่วนของร้านบาร์บีคิวพลาซ่าสาขาใหม่  หากเป็นแผน 3 ปี  บริษัท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่า ตั้งเป้าไว้ว่าจะเปิดสาขาให้ครบ 120 สาขา  แต่ถ้าเป็นแผน 5 ปี  คาดว่าจะเปิดได้ครบ 150  สาขา  เพื่อให้จำนวนสาขาครอบคลุมกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย 

นอกจากจะมีแผนรุกธุรกิจร้านอาหารในประเทศแล้ว  ในด้านของการขยายธุรกิจเข้าไปในตลาดต่างประเทศ  บริษัทเดอะบาร์บีคิวพลาซ่า ก็มีความสนใจตลาดในภูมิภาคอาเซียนเช่นกัน เนื่องจากในปี 2558 จะมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี  การไปจับจองพื้นที่ปักธงธุรกิจก่อนย่อมได้เปรียบ

น.ส.ชาตยา  กล่าวว่า  ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาตลาดในประเทศพม่า  กัมพูชา และเวียดนาม  เพื่อนำร้านบาร์บีคิวพลาซ่า เข้าไปเปิดให้บริการ  คาดว่าภายใน 3 ปีนับจากนี้น่าจะได้ข้อสรุปพร้อมกับเข้าไปทำตลาดอีก 1 ประเทศ จากปัจจุบันเข้าไปทำธุรกิจร้านบาร์บีคิวพลาซ่าแล้วใน 2 ประเทศ คือ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

ปัจจุบัน ร้านบาร์บีคิวพลาซ่า  ในประเทซมาเลเซีย มีจำนวนสาขาเปิดให้บริการจำนวน 13 สาขา ซึ่งในปีนี้มีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้นอีก 1 สาขา ขณะที่แผน 3 ปีข้างหน้าตั้งเป้าหมายจะเปิดให้ครบ  20  สาขา  ภายใต้งบลงทุนสาขาละ 20  ล้านบาท  ซึ่งสูงกว่าการลงทุนในประเทศไทย  เนื่องจากต้นทุนในการดำเนินธุรกิจมีค่าใช้จ่ายสูง

ขณะที่ประเทศอินโดนีเซีย ปัจจุบันมีจำนวนร้านบาร์บีคิวพลาซ่าเปิดให้บริการ 1 สาขา  ปีนี้มีแผนจะเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 1 สาขา และอีก 3 ปีข้างหน้าคาดว่าจะเปิดร้านใหม่ได้ครบ 15 สาขา ภายใต้งบลงทุนสาขาละประมาณ 10-15 ล้านบาท ใกล้เคียงกับประเทศไทย  เพราะต้นทุนใกล้เคียงกัน   
 
 
 
 
หลังจากออกมาปรับแผนการขายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศในครั้งนี้  น.ส. ชาตยา มั่นใจว่าน่าจะช่วยให้บริษัท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่า มีรายได้เติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 20% ต่อเนื่องในอีก 3 ปีนับจากนี้  ขณะที่ปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,300 ล้านบาท เติบโต 22% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตที่สูงกว่าภาพรวมตลาดร้านอาหารประเภทปิ้งย่าง ที่ปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 15% จากมูลค่าประมาณ  3,600  ล้านบาท 

LastUpdate 19/07/2556 18:14:03 โดย : Admin
24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 4:01 pm