การตลาด
สกู๊ป "ซีพีเอฟ" บุกค้าปลีก ปลุก "เฟรชมาร์ท" ลุยธุรกิจปลายน้ำ


 

 
 
 
หลังจากประสบความสำเร็จกับการดำเนินธุรกิจต้นน้ำ ในด้านของการผลิตอาหารประเภทต่างๆจำหน่ายจนมียอดขายหลายแสนล้านบาท  วันนี้ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ จึงขอออกมาบุกธุรกิจปลายน้ำอย่างธุรกิจค้าปลีกอย่างจริงจังอีกครั้ง

เมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา ซีพีเอฟ ได้ออกมาเปิดตัว  "ร้านซีพีเฟรชมาร์ท"  เพื่อเสริมความครบวงจรให้กับธุรกิจในเครือ  ซึ่งหลังจากเปิดตัวร้านดังกล่าว ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ และเพื่อให้ธุรกิจค้าปลีกเข้าถึงตัวผู้บริโภคมากขึ้น ซีพีเอฟ จึงตัดสินใจย่อขนาดของธุรกิจร้านซีพีเฟรชมาร์ท ด้วยการแตกตู้เย็นชุมชนเข้ามาทำตลาด ผ่านช่องทางร้านโชว์ห่วยในชุมชนต่างๆ และใต้ถุนหอพัก อพาร์ทเม้นท์ และคอนโดมิเนียม

 
 
ล่าสุดเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาได้เปิดตัวธุรกิจร้านค้าปลีกน้องใหม่ภายใต้ชื่อ "ซีพีฟู้ดมาร์เก็ต"  เข้าทำตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าหนุ่มสาวออฟฟิศ  ด้วยการนำร้านดังกล่าวไปเปิดให้บริการที่อาคารซี.พี.ทาวเวอร์ 3 (พญาไท) เป็นสาขาแรก ตามด้วยสาขาฟอร์จูนทาวเวอร์  ตามด้วยสาขาปั้มน้ำมันเชลล์  วังน้อย  ศูนย์การค้าธัญญะ ช้อปปิ้ง พาร์ค และคอมมูนิตี้มอลล์เซเลเบรท บดินทร์เดชา

จากการวางตำแหน่งของร้านซีพีฟู้ดมาร์เก็ตที่ยังไม่ชัดเจน ส่งผลให้รูปแบบของการทำตลาดมีความใกล้เคียงกับร้านซีพีเฟรชมาร์ทเป็นอย่างมาก ประกอบกับกลยุทธในการทำตลาดโดยเฉพาะด้านการสื่อสารกับผู้บริโภคที่มีน้อยไป  จึงทำให้ร้านซีพีฟู้ดมาร์เก็ต  จึงไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
 
 
 
ด้วยเหตุนี้  ซีพีเอฟ จึงต้องปรับแผนการทำตลาดใหม่  ด้วยการปรับแบรนด์ ร้านซีพีฟู้ดมาร์เก็ต  เป็น “ร้านซีพี เฟรชมาร์ท พลัส"  เพื่อให้ผู้บริโภคง่ายต่อการจดจำแบรนด์  และสร้างความชัดเจนในด้านของการทำตลาดมากขึ้น โดยในส่วนของแบรนด์ซีพี เฟรชมาร์ท พลัส  จะเป็นร้านค้าปลีกในรูปแบบซูเปอร์มาร์เก็ต  ขณะที่ ร้านซีพีเฟรชมาร์ทจะเป็นในรูปแบบร้านสะดวกซื้อ  และตู้เย็นชุมชุนจะเป็นร้านขนาดเล็กที่ทำตลาดควบคู่ไปกับร้านโชว์ห่วยในชุมชนต่างๆ

นอกจากนี้ ซีพีเอฟ ยังต้องตัดใจปิดร้านในส่วนของสาขาที่ไม่ประสบความสำเร็จในแต่ละแบรนด์  เพื่อลดการขาดทุนสะสม โดยในส่วนของแบรนด์ร้านซีพีเฟรชมาร์ท  ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ปิดให้บริการไปแล้วประมาณ 60-70 สาขา  ขณะที่ตู้เย็นชุมชนปิดให้บริการไปประมาณ 1,000 จุด  ส่วนร้านซีพี เฟรชมาร์ท พลัส อยู่ระหว่างการปรับแผนการตลาดโดยเฉพาะ 2 สาขาที่มียอดขายไม่เป็นไปตามเป้าหมาย คือ ศูนย์การค้าธัญญะ ช้อปปิ้ง พาร์ค และศูนย์การค้าเซเลเบรท บดินทร์เดชา

นายชัยยุทธ  ทิพย์สุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ผู้ดูแลธุรกิจ ซีพี เฟรชมาร์ท  บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ  กล่าวว่า  การที่บริษัทต้องปิดร้านค้าปลีกในแต่ละแบรนด์ไปบางส่วนก็เพื่อ “ถอยเพื่อรุก”  เพราะถ้ายังดันทุรังจะยิ่งทำให้ขาดทุน  ซึ่งในส่วนของร้าน ซีพี เฟรชมาร์ท พลัส  ปีนี้บริษัทยังไม่มีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่ม  เนื่องจากต้องการปรับแผนการตลาดใหม่  เพื่อให้ทั้ง 5 สาขาที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบันมียอดขายเติบโตที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม  แผนการดำเนินธุรกิจค้าปลีกของ ซีพีเอฟ นับจากนี้  นายชัยยุทธกล่าวว่า  ยังคงยึด 3 โมเดลนี้ในการขยายธุรกิจร้านค้าปลีก  โดยขณะนี้ได้วางแผนการดำเนินงานเป็นระยะเวลา 4 ปีไว้แล้ว เริ่มจากปี  2556-2559  ซึ่งทุกแบรนด์จะต้องเข้าถึงผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด  จากปัจจุบันสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้แล้วทุกจังหวัด  ดังนั้นแผนการดำเนินงานนับจากนี้วางเป้าหมายไว้ว่าจะต้องขยายร้านของทั้ง 3 แบรนด์  ให้เข้าถึงผู้บริโภคครบทุกอำเภอในประเทศไทย

สำหรับงบประมาณที่ ซีพีเอฟ ได้เตรียมไว้  กับการลงทุนขยายธุรกิจใน 4 ปีนับจากนี้ มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 1,500 ล้านบาท  ซึ่งในส่วนของร้านซีพี เฟรชมาร์ท พลัส  ปีนี้ไม่มีแผนขยายสาขาเพิ่ม  แต่ปี 2557 -2559  มีแผนที่จะขยายร้านใหม่เพิ่มขึ้นปีละไม่ต่ำกว่า  10-15  สาขา  เพื่อให้จบปี 2559 มีจำนวนสาขาเปิดให้บริการครบ 50 สาขาทั่วประเทศ โดยในแต่ละสาขาคาดว่าจะใช้งบลงทุนเฉลี่ยที่ประมาณ 15-18 ล้านบาท  ซึ่งในส่วนของงบลงทุนดังกล่าวถือว่าปรับลดจากเดิมที่เคยใช้อยู่ที่สาขาละประมาณ 20-25  ล้านบาท  เนื่องจากซีพีเอฟต้องการปรับลดเม็ดเงินในการลงทุน เพื่อให้สามารถทำกำไรได้เพิ่มขึ้น เพราะงบลงทุนเดิมที่อยู่ในระดับค่อนข้างสูง ส่งผลให้ผลกำไรที่ได้จากการดำเนินธุรกิจอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ

ในส่วนของร้านซีพี เฟรชมาร์ท  ปีนี้  ซีพีเอฟ มีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นประมาณ 80 สาขา ขณะที่ปี  2557-2559 มีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 300-350  สาขา  ซึ่งแต่ละสาขาคาดว่าจะใช้งบลงทุนเฉลี่ยที่ประมาณ 1.2-1.5 ล้านบาท  ซึ่งหลังจากจบปี 2559  คาดว่าจะมีร้านซีพีเฟรชมาร์ท เปิดให้บริการไม่ต่ำกว่า 1,700 สาขา จากปัจจุบันมีจำนวนสาขาอยู่ที่ 620 สาขา และเพิ่มเป็น 700 สาขาในสิ้นปีนี้

 
 
ส่วนแผนการขยายสาขาตู้เย็นชุมชน ปัจจุบันมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการอยู่ที่ประมาณ 10,000  ตู้  คาดว่าสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 15,000 -16,000  ตู้  ซึ่งช่องทางหลักในการเข้าไปขยายสาขายังคงเน้นไปที่ร้านโชห่วยตามแหล่งชุมชนต่างๆ   โดยในแต่ละปีนับตั้งแต่ปี 2556-2559  ซีพีเอฟคาดว่าจะขยายตู้เย็นชุมชนเข้าไปตามร้านโชห่วยต่างๆ ได้ปีละไม่ต่ำกว่า 15,000 ตู้  ซึ่งจากแผนการดำเนินงานดังกล่าวจะส่งผลให้สิ้นปี 2559  ซีพีเอฟจะมีตู้เย็นชุมชนขยายไปในชุมชนต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 50,000 ตู้
 
 
 
 
ปัจจัยที่ทำให้ ซีพีเอฟ เปิดตัวตู้เย็นชุมชนเข้ามาทำตลาดเจาะร้านโชห่วย  คือ  ธุรกิจร้านสะดวกซื้อมีการแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น สังเกตได้จากการมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาทำตลาด  ขณะที่ผู้เล่นรายเก่าในตลาดก็เร่งปรับตัวหันมาปรับปรุงร้านเก่าและเปิดตัวร้านใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้นอย่างตอ่เนื่อง  ซึ่งเหตุปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้เจ้าของร้านโชห่วยต้องปรับตัวตาม แลกลยุทธที่จะทำให้ร้านโชห่วยอยู่ได้ คือ การเพิ่มความหลากหลายของสินค้า ซึ่งสินค้าอาหารแช่แข็ง และอาหารพร้อมปรุง ถือเป็นทางเลือกหนึ่งของร้านโชห่วยในการเพิ่มความหลากหลายในสินค้า

 
 
 
 
นอกจากการขยายสาขาร้านใหม่ของทั้ง 3 โมเดลค้าปลีกแล้ว ซีพีเอฟยังมีแผนที่จะเพิ่มความหลากหลายของสินค้าภายในร้าน เนื่องจากปัจจุบันสินค้าในเครือของซีพีเอฟส่วนใหญ่เป็นสินค้าพร้อมปรุงและพร้อมรับประทานประเภทเนื้อสัตว์ เพื่อให้สินค้ามีความหลากหลายและครบความต้องการของผู้บริโภค จึงมีแผนที่จะเพิ่มกลุ่มสินค้านอนซีพี ในแบรนด์อื่นๆ เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเครื่องปรุง เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการสามารถนำสินค้าไปปรุงอาหารได้ทันที

หลังจากออกมาปรับแผนการทำตลาดครั้งใหญ่ยาวไปจนถึงปี 2559  ซีพีเอฟ วางเป้าหมายไว้ว่าภายในสิ้นปี 2559  น่าจะมีรายได้จากดำเนินธุรกิจค้าปลีกทั้ง 3 โมเดล ไม่ต่ำกว่า 20,000-23,000  ล้านบาท  แบ่งเป็นรายได้จากร้านซีพี เฟรชมาร์ท พลัส 3,000 ล้านบาท ร้านซีพี เฟรชมาร์ท 1.3 หมื่นล้านบาท และ ตู้เย็นชุมชน  7,000 ล้านบาท   

ส่วนภาพรวมรายได้สิ้นปีนี้  ซีพีเอฟคาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 8,000-8,500  ล้านบาท เติบโต  32%  เมื่อเทียบกับปี 2555  ซึ่งถือเป็นการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้  แม้ว่าภาพรวมรายได้ในครึ่งปีแรกจะต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ เพราะอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 ก.ค. 2556 เวลา : 19:47:45
24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 3:22 pm