การประกาศใช้หลักเกณฑ์การกำกับดูแลเงินกองทุนตามแนวทางบาเซิล 3 ของธนาคารแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 ทำให้ผลประกอบการของธนาคารในช่วงไตรมาส 2 หรือในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ธนาคารต้องนำกำไรส่วนหนึ่งมาตั้งสำรอง
โดย ธนาคารกรุงไทย นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยผลประกอบของธนาคารในไตรมาสที่ 2/2556 เปรียบเทียบกับไตรมาส 2/2555 ว่า ธนาคารมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากธุรกิจหลักของธนาคาร โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเท่ากับ 15,704 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.94 มีรายได้ค่าธรรมเนียม และบริการสุทธิ 4,174 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.99 และกำไรจากการดำเนินงานก่อนกันสำรองและภาษีเงินได้จำนวน 12,227 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.19 ซึ่งการเติบโตที่ดีของกำไรจากการดำเนินงานดังกล่าว ทำให้ธนาคารพิจารณากันสำรองเพิ่มเป็นพิเศษอีก 2,500 ล้านบาท ในไตรมาสนี้ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งด้านเงินสำรองของธนาคาร และรองรับความผันผวนทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่อาจชะลอตัว เป็นผลให้ธนาคารมีกำไรสุทธิ 6,436 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 13.54
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2556 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 1,666,426 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62,035 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.9 จากสิ้นปี 2555 และเพิ่มขึ้น 124,913 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.1 จากสิ้นเดือนมิถุนายน 2555 โดยเพิ่มขึ้นจากลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ลูกค้าธุรกิจรายกลางและรายปลีก และลูกค้าบุคคล ซึ่งธนาคารยังคงให้ความสำคัญกับแนวทางการบริหารฐานะการเงินด้วยความรอบคอบ และการตั้งสำรองอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ครึ่งแรกปี 2556 จำนวน 5,120 ล้านบาท โดยเป็นค่าใช้จ่ายในไตรมาสนี้ จำนวน 3,379 ล้านบาท ส่งผลให้ธนาคารมีสัดส่วนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพที่ร้อยละ 206.1และมีสัดส่วนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อที่ร้อยละ 5.5
ด้าน ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า เพื่อรองรับความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจในอนาคต ธนาคารได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในไตรมาสที่ 2 เพิ่มจาก 2,550 ล้านบาท เป็น 2,700 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารอยู่ที่ 144.9% ทั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ มีกำไรสุทธิไตรมาสที่ 2/2556 จำนวน 12,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.5% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9,800 ล้านบาท
ขณะที่ นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2556 ธนาคารและบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวมจำนวน 2,225,152 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน จำนวน 115,185 ล้านบาท หรือ 5.46% ซึ่งในงวดนี้ ธนาคารได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเพื่อรองรับความเสี่ยงเชิงระบบ (Countercyclical provision) ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเศรษฐกิจขาลงและความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นจากสภาวะเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2556 อยู่ที่ระดับ 133.93% นอกจากนี้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2556 อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทยตามหลักเกณฑ์ BASEL III อยู่ที่ 16.20%โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 11.97
นางเจนิส แวน เอ็กเคอเรน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กรุงศรีกรุ๊ป กล่าวว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2/2556 ธนาคารมีกำไร 5.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.7% จากไตรมาส 1/2556 และ 37.8% จากไตรมาส 2/2555 ก่อนการตั้งสำรองพิเศษจำนวน 2.6 พันล้านบาท ในไตรมาสสองของปีนี้ มุ่งรองรับวัฎจักรธุรกิจและความเป็นไปได้ของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งธนาคารมีสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยเพิ่มขึ้นจาก 12.3 พันล้านบาท เป็น 15.7 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 182.5% ของเกณฑ์สำรองที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้การตั้งสำรองดังกล่าว ส่งผลให้กำไรสุทธิไตรมาสสองอยู่ที่ 3.1 พันล้านบาท ลดลง 24.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2556 และลดลง 17.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2555
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) บอกว่า ธนาคารได้ตัดสินใจเพิ่มอัตราส่วนสำรองคุณภาพสินเชื่อ เพื่อรองรับความเสี่ยงจากวัฏจักรเศรษฐกิจเช่นกัน โดยช่วงครึ่งปีแรกตั้งสำรองพิเศษรวมถึง 4,676 ล้านบาท ภายหลังตั้งสำรองแล้ว ธนาคารยังมีกำไรสุทธิช่วง 6 เดือนแรกปีนี้อยู่ถึง 2,068 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลจากการให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้าที่ดีขึ้น ตลอดจนนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการธุรกรรมการเงิน ทำให้ด้านหนึ่งธนาคารมี NIM ที่ดีขึ้นเป็น 2.97% จากปีที่แล้วอยู่ที่ 2.59% รายได้ดอกเบี้ยสุทธิจึงเพิ่มขึ้น 20.5% อีกด้านหนึ่งก็ทำให้ธนาคารเข้าใจลูกค้าจึงสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์การเงินอื่นๆ เพิ่มเติม รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิก็เพิ่มขึ้น 36.7%
วงเงินตั้งสำรอง
ธนาคาร จำนวน ช่วงเวลา
1.KTB 2,500 ไตรมาส 2
2.BBL 3,379 ไตรมาส 2
3.SCB 2,700 ไตรมาส 2
4.BAY 2,600 ไตรมาส 2
5.TMB 4,676 6 เดือนแรก
ข่าวเด่น