ปัจจุบันมีคนจำนวนไม่น้อยที่ติดเชื้อก่อให้เกิดโรคต่างๆ ในทางเดินอาหาร เช่น กระเพาะอาหารอักเสบ แผลในกระเพาะอาหาร หรือโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร ซึ่งปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัดว่าทำไมการติดเชื้อเหล่านี้ ในแต่ละคนแตกต่างกัน บางคนมีอาการรุนแรง แต่บางคนกลับไม่มีอาการ
เชื้อโรคที่เข้าสู่กระเพาะอาหารจนทำให้เกิดโรคต่างๆ เหล่านี้ ก็คือ Helicobacter pylori หรือชื่อที่เราคุ้นเคยคือ H.pylori เป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่พบได้ในกระเพาะอาหาร โดยสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้คนติดเชื้อนี้ก็เพราะว่าไปทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ เมื่อผ่านเข้าไปในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้นโดยเชื้อจะเข้าไปปล่อยเอนไซม์และสารพิษต่างๆทำให้กรดในกระเพาะอาหารรวมถึงน้ำย่อยต่างๆ ทำลายเนื้อเยื่อกระเพาะและลำไส้เล็กจนก่อให้เกิดการอักเสบเกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบขึ้น นอกจากนี้ยังรวมถึงการทานยากลุ่ม aspirin, ibuprofen, naproxen ซึ่งเข้าไปกัดกระเพาะอาหารจนทำให้เป็นแผลด้วย
เมื่อเชื้อแบคทีเรียนี้เข้าไปในกระเพาะอาหารแล้ว ก็จะทำให้เกิดอาการต่างๆ ตามมามากมาย ซึ่งด้านนายแพทย์ รัชวิชญ์ เจริญกุล อายุรแพทย์ระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลเวชธานี ได้อธิบายว่า ผู้ติดเชื้อเริ่มแรกจะไม่มีอาการจนกระทั่งเกิดอาการปวด หรือแน่น โดยเเฉพาะด้านบนของช่องท้อง อาการท้องอืดแน่น เรอ หรือมีลมแน่น รับประทานอาหารได้น้อยลง อิ่มเร็วขึ้น หรืออาการแน่นหลังจากรับประทานแม้ทานไม่มาก ไม่อยากอาหาร คลื่นไส้อาเจียน ถ่ายอุจจาระสีดำ อาการเพลีย หรืออาการที่มีผลจากภาวะโลหิตจาง เนื่องจากมีเลือดออกจากแผลในกระเพาะอาหาร
อีกทั้งผู้ป่วยกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรังบางราย อาจมีเนื้อเยื่อของกระเพาะอาหารผิดปกติได้ แต่ก็มีบางส่วนที่อาจเปลี่ยนเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารจากการติดเชื้อ H.pylori
ในด้านการวินิจฉัยและการรักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหารนั้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้เผยต่อว่า เริ่มต้นจะต้องทำการตรวจการติดเชื้อจากลมหายใจ โดยจะให้รับประทานสารพิเศษ ซึ่งจะแตกตัวเมื่อมีเชื้อ H.pylori ในกระเพาะอาหาร จนกระทั่งพบค่าความผิดปกติ วิธีนี้ถือว่าสะดวก รวดเร็วมาก อีกทั้งยังมีความแม่นยำสูง
สำหรับการรักษานายแพทย์รัชวิชญ์กล่าวว่า ต้องใช้ยามากกว่า 3 ชนิดในการกำจัดเชื้อ เพื่อให้ได้ผลหายขาดมากกว่าร้อยละ 90 และต้องใช้ยาปฎิชีวนะอย่างน้อยสองชนิดเพื่อลดโอกาสดื้อยา โดยผู้ป่วยจำเป็นต้องรับประทานยาให้ครบและต่อเนื่องตลอดการรักษา แพทย์จะใช้ยาหลายๆ ชนิดในการกำจัดเชื้อ H.pylori ใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน และอาจพิจารณาใช้ยาลดกรดกลุ่มหนึ่งที่ชื่อ proton pump inhibitor หรือ PPI มีผลช่วยลดการผลิตกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้เนื้อเยื่อที่ถูกทำลายจากการติดเชื้อหายเป็นปกติ
สอบถามเพิ่มเติมที่ ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
โทร. 0-2734-0000 ต่อ 4500, 4501
นายแพทย์รัชวิชญ์ เจริญกุล
อายุรแพทย์ระบบทางเดินอาหารและตับ
ปริญญาบัตร
- แพทยศาสตรบัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
วุฒิบัตร
- อายุรศาสตร์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
- อายุรศาสตร์โรคทางเดินอาหาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
-สมาชิก/สมาคมทางการแพทย์
- สมาคมโรคทางเดินอาหารและตับ
ข่าวเด่น