แบงก์-นอนแบงก์
เมืองไทยฯ ย้ำเทรนด์ครึ่งปีหลัง ประกันชีวิตยังแจ่ม ลั่นตลาดโตทุกช่องทาง หลัง 6 เดือนโกยเบี้ยแตะ 3 หมื่นล้าน


เมืองไทยฯ ย้ำเทรนด์ครึ่งปีหลัง ประกันชีวิตยังแจ่ม ลั่นตลาดโตทุกช่องทาง หลัง 6 เดือนโกยเบี้ยแตะ 3 หมื่นล้าน พร้อมงัดนวัตกรรมใหม่ แอพพลิเคชั่น Muang Thai i-SCAN จับใจลูกค้ายุคดิจิตอล ลั่นต่อยอดบริการลูกค้าในอนาคต

นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดประกันชีวิตในครึ่งปีหลังน่าจะยังจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก โดยสังเกตจากทิศทางการเติบโตที่ผ่านมาถือว่ายังรักษาระดับการขยายตัวได้ดีทุกเดือน และมั่นใจว่าในครึ่งปีหลังจะมีการแข่งขันต่างๆ มากขึ้น ทั้งการออกสินค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะสัญญาเพิ่มเติมด้านสุขภาพและโรคร้ายแรงที่น่าจะเป็นแรงกระตุ้นสำคัญให้ผู้คนสนใจทำประกันชีวิตเพิ่มมากขึ้น

"ตลาดคงมีทั้งที่เริ่มจากสนใจสัญญาเพิ่มเติมแล้วจึงซื้อสัญญาหลักด้วย หรือเริ่มจากต้องการคุ้มครองชีวิตหรือออมเงินก่อนแล้วเห็นว่าสัญญาเพิ่มเติมมีผลประโยชน์ที่ให้เพิ่มเติมขึ้น ก็ซื้อพ่วงเข้าไปด้วย ซึ่งจะเห็นได้ว่าแบบประกันที่ออกมาในช่วงนี้ นอกจากจะเน้นเจาะรายเซ็กเมนต์เฉพาะมากขึ้นแล้ว ก็จะพ่วงความคุ้มครองอื่นเข้าไปด้วย อย่างประกันผู้สูงอายุ ก็จะเพิ่มค่ารักษาพยาบาลเข้าไป หรือประกันออมทรัพย์เพื่อการศึกษาก็จะแนบสัญญาเพิ่มเติมด้านทุพพลภาพเข้าไปด้วย"

เขากล่าวอีกว่า ในครึ่งปีหลังบริษัทก็ยังมีแผนออกสินค้าใหม่มาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นตลาดครึ่งปีหลังเช่นกัน หลังจากช่วง 6 เดือนแรก บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้ด้วยเบี้ยรับรวมเติบโตถึง 26% เป็นมูลค่าเบี้ยกว่า 3 หมื่นล้านบาท

นอกจากการพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แล้ว นายสาระย้ำว่า การพัฒนาด้านบริการก็เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิต โดยล่าสุดพัฒนาแอพพลิเคชั่น Muang Thai i-SCAN ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็วขึ้น เพียงแค่สแกน AR Code ที่ปรากฏในสื่อต่าง ก็จะสามารถรับชมข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของโครงการนั้นๆ ผ่านแอพพลิเคชั่นได้ทันที และเป็นพรีเซ้นเทชั่นที่นำเสนอได้อย่างหลากหลาก ทั้งภาพ เสียง และข้อความ ไม่ได้จำกัดแค่การให้ข้อมูลเป็นตัวหนังสือเพียงอย่างเดียว

"ยุคนี้เป็นจังหวะของการนำเสนอข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นคนขายหรือลูกค้าเองก็ต้องมีความรู้และเข้าใจประกันชีวิตมากขึ้น แอพพลิเคชั่นใหม่ก็จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการนำเสนอและอธิบายเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับประกันชีวิตให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งต่อไปเราก็จะนำไปใช้กับเรื่องการนำเสนอข้อมูลสินค้าให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น หรือขั้นตอนการบริการบางอย่าง ตรงนี้เป็นเพียงช่องทางการสื่อสาร แต่โดยกระบวนการขายหรือซื้อประกันก็ยังต้องเชื่อมต่อไปสู่ช่องทางอื่นๆ ที่เป็นช่องทางขายเป็นหลัก"

นายสาระกล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทยังได้ขยายศูนย์บริการลูกค้าเพิ่มอีกพอสมควร ล่าสุดเปิดไปแล้ว 8 แห่ง และยังมีแผนจะเปิดเพิ่มอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง รวมแล้วปีนี้เปิดไม่น้อยกว่า 12 แห่ง โดยกลยุทธ์ด้านศูนย์บริการลูกค้านอกจากจะเป็นจุดให้บริการและติดต่อรับเรื่องบริการต่างๆ แล้ว บริษัทยังวางตำแหน่งของศูนย์ฯ ให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ลูกค้าด้วย ทั้งการเลือกบางศูนย์ฯ ให้อยู่ในแหล่งชุมชน ห้างสรรพสินค้าที่บริการได้ทุกวัน และโรงพยาบาลที่เป็นจุดที่ลูกค้าสามารถติดต่อได้สะดวกเมื่อเกิดเคลม

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 25 ก.ค. 2556 เวลา : 13:39:16
27-12-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 27, 2024, 11:48 pm