หลังจากชาเขียวพร้อมดื่มภายใต้แบรนด์ "โออิชิ" ออกมาสร้างกระแสความแรงผ่านการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นแคมเปญลุ้นโชคอย่าง “รหัสโออิชิ รวยทุกชั่วโมง” หรือแคมเปญลุ้นเที่ยวอย่าง “ไปแต่ตัวทัวร์ยกแก๊ง 555” สร้างความฮือฮาให้กับตลาดชาเขียวพร้อมดื่มมาช่วงหนึ่งแล้ว
ล่าสุด โออิชิ ขอออกมาเกาะกระแสความแรงของซีรีย์ดังอย่างเรื่อง “ฮอร์โมน วันว้าวุ่น” ด้วยการดึง 3 ดาราดังจากซีรีย์ดังกล่าวมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิในรูปแบบขวดสลิม เพื่อเอาใจกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นที่ชอบความแปลกใหม่ ซึ่งงานนี้ โออิชิ ใช้งบสูงถึง 80 ล้านบาท ในการออกมาทำกิจกรรมโออิชิ ขวดสลิม
นายอนิรุทธิ์ มหธร รองกรรมการผู้จัดการสายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนการทำตลาดในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทจะเน้นการทำตลาดแบบเซ็กเมนเทชั่นมากขึ้น ด้วยการเปิดตัวแพ็กเกจจิ้ง หรือบรรจุภัณฑ์ใหม่เข้าทำตลาด เพื่อให้เหมาะกับแต่ละกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเข้าไปทำตลาด ซึ่งจากแนวทางการทำธุรกิจดังกล่าวบริษัทได้เตรียมงบไว้ที่ประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อใช้ในการทำกิจกรรมการตลาดช่วงครึ่งปีหลัง
การออกมาเปิดตัวชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ ในรูปแบบ “ขวดสลิม” ครั้งนี้ นายอนิรุทธิ์ กล่าวว่า ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธในการทำการตลาดแบบเซ็กเมนเทชั่น เพราะจะทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดที่ต้องการเข้าไปทำตลาด และเพื่อสร้างการรับรู้ โออิชิ ในรูปแบบขวดสลิมให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น จึงได้มีการดึง เก้า สุภัสสรา (สไปร์ท), ต่อ ธนภพ(ไผ่), มาร์ช จุฑาวุฒิ(ภู) จากซีรีย์ดัง “ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น” ของจีทีเอช มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้าดังกล่าว
สำหรับรูปแบบของการทำตลาด โออิชิ ขวดสลิมนั้น จะเน้นไปที่การทำการตลาดแบบดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นจะให้ความสนใจโลกออนไลน์มากกว่าสื่อในรูปแบบอื่นๆ จะเห็นได้ว่าภายหลังจากซีรีส์ ฮฮร์โมน วัยว้าวุ่น ออกอากาศกลุ่มวัยรุ่นให้ความสนใจโลกออนไลน์สูงมาก โดยเฉพาะช่องทาง YouTube ทั้งที่ซีรีส์เรื่องดังกล่าวเป็นสื่อที่ออกอากาศผ่านช่องทางทีวีดาวเทียม ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวที่ตรงกับแนวทางการทำตลาดของ โออิชิ ขวดสลิม โออิชิ จึงตัดสินใจเลือกดาราดังจากเรื่องดังกล่าวมากเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสร้างกระแสความแรงไปพร้อมกัน
นอกจากนี้ โออิชิ ยังได้มีการเปิดตัวชาเขียวพร้อมดื่มรสชาติใหม่จำนวน 3 รสชาติ ประกอบด้วย 1. ชูการ์ฟรี 2. แบล็กทรี เรดเบอร์รี และ 3. ลิ้นจี่ เข้าทำตลาด เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น ซึ่งในส่วนของรสลิ้นจี่ จะเปิดตัวต้นเดือน ส.ค.นี้ และจากการออกมาเปิดรสชาติใหม่ดังกล่าวส่งผลให้ปัจจุบันโออิชิมีรสชาติชาเขียวพร้อมดื่มทั้งหมด 8 รสชาติ หลังจากก่อนหน้านี้มี 5 รสชาติ คือ รสต้นตำรับ รสน้ำผึ้งผสมมะนาว รสไม่มีน้ำตาล รสข้าวญี่ปุ่น และ CG slim 300 ชาเขียวที่มีปริมาณคาเทชินเข้มข้น
หลังจากออกมาเปิดตัวแพ็กเกจแบบขวดสลิม เข้าทำตลาด โออิชิ ตั้งธงไว้ว่าจะใช้แพ็กเกจดังกล่าวเป็นแม่ทัพหลักในการขับเคลื่อนตลาดชาเขียวทั้งในประเทศและต่างประเทศ เนื่องจากยังมีช่องว่างให้เข้าไปทำตลาดค่อนข้างสูง โดยหลังจากวางตลาด โออิชิ คาดว่าจะได้ผลการตอบรับที่ดีจากกลุ่มเป้าหมายอายุ 15-25 ปี เพราะแพ็กเกจดังกล่าวมีขนาด 380 มล. ราคา 15 บาท
ขณะที่ช่องทางการทำตลาดของ โออิชิ ขวดสลิม จะเน้นไปที่ช่องทางร้านค้าทั่วไป หรือ เทรดิชันนัลเทรดมากขึ้น จากปัจจุบันเข้าถึงช่องทางนี้ได้กว่า 20% แล้ว พร้อมกันนี้ โออิชิ ยังมีแผนที่จะทำแคมเปญใหญ่ เพื่อส่งเสริมการขายช่วงครึ่งปีหลังอีก 1 แคมเปญ ซึ่งหลังจากรุกหนัก โออิชิ มั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะมียอดขายจากแพ็กเกจขวดสลิมในอัตราส่วน 20% เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีสัดส่วนยอดขายในราคา 15 บาทอยู่ที่ 15%
อย่างไรก็ตาม สัดส่วนยอดขายหลักของชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ ยังคงมาจากแบบขวดราคา 20 บาท คิดเป็นอัตราส่วน 65% ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 20% มาจากแบบกล่อง และแบบขวดลิตร ขณะที่เป้าหมายรายได้รวมของชาเขียวพร้อมดื่มในสิ้นปีนี้ โออิชิ คาดว่าจะมีรายได้รวมเติบโตไม่ต่ำกว่า 25-30% เท่ากับภาพรวมตลาดชาเขียวพร้อมดื่ม ซึ่งสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 30% จากมูลค่า 13,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา โดยในส่วนของโออิชิ ปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 45%
จากการแข่งขันของตลาดชาเขียวพร้อมดื่มและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ค่อนข้างรุนแรง ส่งผลให้ผู้ประกอบการในตลาดต้องออกมาทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวสินค้ารสชาติใหม่ แพ็กเกจใหม่ หรือพรีเซ็นเตอร์ใหม่ ซึ่งในส่วนของโออิชิ เลือกที่จะใช้พรีเซ็นเตอร์วัยรุ่นชื่อดังจากซีรีย์ ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น เนื่องจากกลุ่มวัยรุ่นถือเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีอิทธิพลโดยเฉพาะช่องทางออนไลน์
ปัจจุบันซีรีส์ ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ออกอากาศผ่านช่องทางทีวีดาวเทียมช่อง ONE ของจีเอ็มเอ็ม แซท มาแล้วจำนวน 8 ตอน หลังจากออกอากาศได้ผลการตอบรับที่ดีจากกลุ่มวัยรุ่นเป็นอย่างมาก โดยในส่วนของยอดดูใน YouTube มีคนเข้าไปเปิดดูมากกว่า 40 ล้านวิว ขณะที่ช่องทาง Facebook ซึ่งมีทั้ง Official Page มีคนกดไลก์มากกว่า 2 แสนคน และมีเพจที่แฟนคลับทำให้ มีคนกดไลก์มากกว่า 3 แสนคน
ส่วน Instagram ในด้านของช่องทาง Official มีคนตามกว่า 70,000 คน และในขณะออกอากาศสดทุกวันเสาร์ เวลา 22.00 น. พบว่า คนตามเป็นจำนวนมากและมีการพูดถึงเยอะโดยเฉพาะในช่องทาง Twitter ซึ่งหากนำมาเปรียบเทียบซีรีส์สุภาพบุรุษจุฑาเทพถือว่ามีกระแสพูดถึงมากกว่า
จากความนิยมที่กำลังเป็นกระแสแรง เนื่องจากเนื้อหาของซีรีย์มีการสื่อออกมาถึงพฤติกรรมในรูปแบบต่างๆ ของวัยรุ่น ส่งผลให้มีหน่วยงานรัฐเริ่มออกมาแสดงความไม่พอใจในเนื้อหาของซีรีย์บางตอน และมีกระแสว่าจะสั่งถอด เมื่อต้นสังกัดได้ทราบกระแสข่าวดังกล่าวก็ออกมาประกาศว่าจะออกชี้แจงข้อเท็จจริงกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม(กสทช.) ในวันที่ 5 ส.ค.นี้
กระแสข่าวที่เกิดขึ้นดังกล่าวไม่ว่าจะออกมาในทิศทางใด คงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายของชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น โออิชิยังคงเดินหน้าใช้งบที่เหลืออีกประมาณ 300 ล้านบาท เดินหน้าทำกิจกรรมการตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อป้องกันแชมป์เจ้าตลาดชาเขียว
ข่าวเด่น