เป็นไปตามที่มีการคาดการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในเดือนส.ค. ที่หลายฝ่ายมองว่า จะมีความร้อนแรงมากขึ้น เพราะแค่เริ่มนับหนึ่งในเดือนนี้ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ในพื้นที่เขตพระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย และดุสิต ระหว่างวันที่ 1-10 ส.ค.นี้ โดยอ้างว่าเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย เนื่องจากจะมีเหตุการชุมนุมของกลุ่มประชาชนที่คัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กับคณะ เป็นผู้เสนอ ซึ่งจะมีการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 7 ส.ค.นี้
ทั้งนี้ ความเสี่ยงทางการเมืองจากการชุมนุมและความขัดแย้งในประเทศที่เกิดขึ้น ในทุกครั้งที่ผ่านมาก็ได้สร้างความเสียหายกับเศรษฐกิจไทย ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะธุรกิจการท่องเที่ยวและการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้
นาย ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ เป็นห่วงสถานการณ์ปัญหาทางการเมืองในประเทศไทยอย่างมากเกี่ยวกับความขัดแย้งในการนำพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ เข้ามาพิจารณาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหากเหตุการณ์ของการชุมนุมมีความรุนแรงและขยายในวงกว้างในระยะเวลายาวนาน จนมีผลต่อภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกอาจทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ลดลงไม่ต่ำกว่า 0.5% จากเดิมที่ได้ประเมินเศรษฐกิจไทยในระดับ 4.3% และหากการชุมนุมเกิดขึ้นในระยะสั้น ๆ ก็น่าจะกระทบต่อตัวเลขเศรษฐกิจระดับ 0.1%
แต่หากทั้งสองฝ่ายมีการปะทะกันบ้างแต่ไม่รุนแรง ก็จะกระทบต่อเศรษฐกิจระดับ 0.2% เนื่องจากประชาชนไม่มีอารมณ์ที่จะไปเที่ยวหรือไม่มีอารมณ์ที่จะซื้อของต่าง ๆ เป็นต้น
ดังนั้นทุกฝ่ายควรอยู่ในกรอบกติกา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงในวงกว้าง เพราะหากต่างฝ่ายต่างใช้ความรุนแรง ก็จะไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศแน่นอน
ด้าน นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนกำลังติดตามสถานการณ์การชุมนุมและระดับเหตุการณ์ของการชุมนุม ซึ่งเอกชนกังวลว่าเหตุการณ์จะยืดเยื้อ รุนแรงและลุกลามเหมือนในอดีต ที่มีทั้งการปิดสนามบินหรือชุมนุมราชประสงค์ เพราะขณะนี้เศรษฐกิจก็ยังมีความเสี่ยงอยู่มากจากปัจจัยนอกประเทศ ดังนั้นภาคเอกชนไม่ต้องการให้การชุมนุมจนบานปลาย และจากการสำรวจสมาชิกหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ส่วนใหญเริ่มกังวลต่อสถานการณ์การเมืองมากขึ้น แต่ยังไม่ถึงกับชะลอการค้าหรือลงทุน
ส่วนกระแสตอบรับจากต่างชาติ ล่าสุด สถานทูตสหรัฐอเมริกา ประจำกรุงเทพมหานคร ได้ออกประกาศในเว็บไซต์สถานทูตให้ประชาชนอเมริกันในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีความระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากจะมีการชุมนุมทางการเมืองบริเวณรัฐสภาและทำเนียบรัฐบาล และอาจจะมีการยกระดับการชุมนุมไปยังบริเวณอื่นๆ ด้วย
แม้ประกาศดังกล่าวจะคาดการณ์ว่า จะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นระหว่างการประท้วง แต่การชุมนุมโดยสงบก็สามารถเกิดความรุนแรงโดยที่คาดการณ์ไม่ถึงเช่นกัน ดังนั้นประชาชนอเมริกันควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และควรแจ้งให้ครอบครัวหรือผู้ที่ต้องการเดินทางมายังกรุงเทพฯ เพื่อที่จะได้วางแผนการเดินทางอย่างเหมาะสม
.jpg)
ข่าวเด่น