"กรุงเทพประกันภัย" กาง 4 กลยุทธ์ ปั้นธุรกิจโตครึ่งปีหลัง เจาะตลาดรายย่อย-เพิ่มระบบจัดการความเสี่ยงเข้มข้น มั่นใจเป้าเบี้ย 1.5 หมื่นล้าน เติบโต 16% สบาย หลังครึ่งปีแรกตุนเบี้ย 7.8 พันล้านบาท โตพรวด 27%
นายพนัส ธีรวณิชย์กุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นโยบายการรุกตลาดครึ่งปีหลัง บริษัทยังเน้นการรุกตลาดรายย่อยผ่านทุกช่องทาง ทั้งตัวแทน แบงก์แอสชัวรันซ์ เทเลมาร์เก็ตติ้ง และ BKI Care Station ที่เป็นศูนย์ขายประกันและบริการย่อย เพื่อขยายการเติบโตในครึ่งปีหลังให้เพิ่มขึ้น
รวมถึงสินค้าที่ครบเครื่อง โดยเฉพาะประกันภัยรถยนต์ที่ยังเป็นพอร์ตงานหลัก แม้ว่าครึ่งปีหลังยอดรถใหม่จะชะลอตัวก็ตาม แต่ตลาดรถยนต์ต่ออายุเป็นกลุ่มเป้าหมายที่บริษัทให้ความสนใจมาก เพราะปีที่แล้วมียอดรถใหม่ออกมาเป็นจำนวนมากถึง 1.4 ล้านคัน และพยายามเน้นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ คือกลุ่มรถยนต์ขนาดกลาง 1,800 ซีซี ขึ้นไป
กลยุทธ์ต่อมาคือ การจัดการความเสี่ยงภัยสะสมในแต่ละพื้นที่ให้เหมาะสม ซึ่งปีนี้บริษัทจะแยกโซนต่างๆ ให้ชัดเจนว่ารับงานไว้เท่าไหร่ มีความเสี่ยงภัยที่สะสมสำหรับแต่ละโซนอยู่เท่าไหร่ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงก็จะต้องจำกัดความเสี่ยงภัยสะสมไว้ไม่ให้เกินจากความสามารถที่จะรับประกันภัยได้ มิฉะนั้นหากเกิดความเสียหายขึ้นมาแล้วจะกระทบต่อบริษัท ซึ่งส่วนนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการประกันภัยต่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เชื่อมมาถึงกลยุทธ์ที่สาม ซึ่งเป็นการสำรวจภัยอย่างเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ที่บริษัทจะต้องส่งเจ้าหน้าที่ประเมินความเสี่ยงเข้าไปวิเคราะห์ก่อนรับประกันภัย ปีนี้จะทำในเชิงลึกมากขึ้น เช่น เปรียบเทียบพื้นที่รับประกันกับระดับน้ำทะเล และการจัดระบบป้องกันภัยของลูกค้า นอกจากมีผลต่อการบริหารความเสี่ยงแล้ว ยังมีผลต่อการคิดราคาเบี้ยประกันด้วย
สุดท้ายเป็นกลยุทธ์เพื่ออนาคต คือ การเพิ่มความแข็งแกร่งของเครือข่ายการขายในพื้นที่ต่างจังหวัดเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดต่างจังหวัด ที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะในเส้นทางการขนส่งที่สอดรับกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) เน้นพื้นที่เชื่อมต่อจากไทยไปอินโดจีนและพม่า ซึ่งมองว่าพื้นที่เหล่านี้จะเป็นแหล่งสร้างรายได้ต่อไปในอนาคต
“เรามั่นใจว่าด้วยกลยุทธ์นี้จะยังทำให้บริษัทสามารถรักษาระดับการเติบโตที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง เพราะครึ่งปีแรกเรามีเบี้ยกว่า 7.8 พันล้านบาท เติบโตมาแล้ว 27% จากเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งเป้าเบี้ยรับไว้ 1.5 หมื่นล้านบาท เติบโต 15.6% ซึ่งถือว่าตุนจากครึ่งปีแรกไว้แล้วพอสมควร แม้ครึ่งปีหลังมีความเสี่ยงว่าตลาดอาจแผ่วลงจากทิศทางเศรษฐกิจที่เติบโตชะลอลงนั้น ก็ยังมั่นใจว่ากรุงเทพประกันภัยจะยังคงทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และอาจเกินเป้าหมายไปเล็กน้อยด้วย”
นอกจากตลาดรายย่อยแล้ว นายพนัสยังกล่าวถึงปัจจัยการเติบโตสำหรับตลาดรายใหญ่ เนื่องจากปีนี้มีโครงการก่อสร้างของภาครัฐที่เดินหน้าต่อเนื่องได้ดีหลังจากอนุมัติโครงการมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า ที่ยังเดินหน้า ก็ทำให้ตลาดนี้ซึ่งก็คือประกันความเสี่ยงภัยทุกชนิด (IAR) ที่ยังเติบโตได้ดี แม้ว่าภาคเอกชนในตอนนี้จะชะลอไปบ้างก็ไม่น่าจะกระทบกับตลาดนี้มากนัก
ข่าวเด่น